เป้าหมายของเจ้าชายสิทธัตถะนั้นวิเคราะห์ว่าคงเปลี่ยนไปตามการรับรู้สิ่งใหม่ ๆ จากประสบการณ์ในฐานะนักบวช การเกิดมาเป็นคนต้องเอาชนะชีวิตที่ธรรมชาติกำหนดให้นั้นถือว่าเป็นการค้นหายาวิเศษ ในสังคมสาธุหรือนักบวชในอินเดียถือว่าเราที่เขาออกแบบให้นั้นต้องกบฏต่อเขาคือร่างกายนี้เราต้องทรมานให้สาสมจนเกือบตาย เอ๊ะมันไม่ใช่นะ
เจ้าชายสิทธัตถะคงเกิดคำถามว่า เราทรมานตนไปเพื่ออะไร ต่อมานักบวชสิทธัตถะเลิกทรมานตนเพราะเห็นอะไรหรือเข้าใจอะไรกันนะ
ด้วยในสังคมอินเดียมีลัทธิทรมานตนอยู่ 2 สายใหญ่ ๆ คือ ลัทธิที่เชื่อพระเจ้าคือศาสนาฮินดูและลัทธิที่ไม่เชื่อพระเจ้าคือศาสนาเชน
ต่อข้อถามว่าทำไมนักบวชสิทธัตถะเลิกทรมานกาย คำตอบหนึ่งคืออาจชนะกายได้แต่ชนะผู้ออกแบบกายมาไม่ได้ แล้วแล้วนักบวชสิทธัตถะหันมาเดินทางสายกลาง มีคำถามว่าทำไมการทรมานกายจึงไม่ใช่หนทางที่ทำให้เราเป็นอิสระจากอำนาจที่ออกแบบเรามา
นี่คือที่มาของคำสอนว่าคนประกอบขึ้นด้วยขันธ์ห้า กายกับใจสามารถเป็นอิสระจากกัน และว่าเป็นความผิดผลาดที่ไปคิดว่าการทรมานกายโดยกล่าวหาว่ากายเป็นศัตรูกับใจตนเอง
ไม่มีความเห็น