อย่างแรกเราต้องมากล่าวถึงก่อนว่า PEOP & MOHO Model คืออะไร มันสามารถนำมาจับกับกิจวัตรประจำวันของคนเราอย่างไร และมันสามารถใช้ได้จริงหรือไม่
PEOP Model คืออะไร PEOP มาจากภาษาอังกฤษ 4 คำได้แก่
P แรกคือ Person - อารมณ์ ความคิด ปัจจัยภายในของแต่ละบุคค
E สองคือ Environmental - ปัจัยภายนอกของบุคคล สิ่งแวดล้อมต่างๆ
O สามคือ Occupation - กิจกรรมการดำเนินชีวิต (ยังสามารถแบ่งออกได้อีก 4 อย่างคือ 1.Activities - กิจกรรม 2.Values - มีคุณค่า 3.Tasks - การศึกษารายละเอียดการช่วยเหลือ การเรียงลำดับกิจกรรมอย่างเหมาะสม และ 4.Role - กิจกรรมมีประโยชน์ต่อบทบาทของผู้รับบริการ)
P สุดท้ายคือ Performance - จากทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมาข้างบนจะได้เป็นข้อนี้คือจะสามารถสรุปความสามารถของผู้ป่วยได้
เป้าหมายสูงสุดของ PEOP Model นั้นคือ
1.Well Being - มีสุขภาวะที่ดี (หัวใจสำคัญของ Model นี้)
2.Quality of Life - มีคุณภาพชีวิตที่ดี
MOHO Model ย่อมาจาก Model of Human Occupation ประกอบไปด้วยส่วนต่างๆดังนี้
Volition - เจตจำนง (ยังประกอบไปด้วย 1.Personal causation - เหตุผลส่วนบุคคล 2.Values - คุณค่าในกิจกรรมที่กระทำ 3.Interests - ความสนใจความชื่นชอบ)
Habituation - ความเคยชินในการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
Performance ( Skills - ทักษะต่างๆ , Communication and Interaction - การติดต่อสื่อสาร )
Environment (Space & Social) สิ่งแวดล้อมรอบๆตัว
จากทั้ง 2 Model ที่ได้กล่าวมาหลักสำคัญคือการนำผู้รับบริการเป็นศูนย์กลางของการรักษา เพื่อให้ได้เกิดผลประสิทธิภาพมากที่สุด
การนำ PEOP & MOHO Model มาเชื่อมโยงกันในการทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งกับคนที่คุณรัก ตัวดิฉันขอยกกิจกรรมที่จะทำกับคนที่ดิฉันรักมาให้เป็นตัวอย่างในการทำกิจกรรม คนที่ทุกคนรักนั้นไม่ได้มีเพียงคนเดียวอย่างแน่นอน ตัวอย่างกิจกรรมที่ดิฉันจะนำมาใช้กับคนที่ฉันรักคือ การนั่งล้อมวงจับมือพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันในครอบครัวทุกวันอาทิตย์ กิจกรรมนี้ทำเพื่อให้ทุกๆคนในครอบครัวได้พบปะกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาเพราะในสัปดาห์หนึ่ง ทุกๆคนในครอบครัวต่างมีหน้าที่รับผิดชอบ การพบปะกันแบบพร้อมหน้าจึงเป็นสิ่งที่ยากเพราะเรื่องเวลาที่ไม่ตรงกัน ดิฉันจะให้คนในครอบครัวนั่งล้อมวงกันและพูดในสิ่งที่อยุ่ในใจตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา พูดเกี่ยวกับสิ่งที่เจอมาจากโลกภายนอกที่ไม่มีคนในครอบครัวรู้ ให้ทุกๆคนได้ฟังว่าเราได้ไปเจออะไรมาบ้าง เพราะดิฉันเชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่จะอยู่เคียงข้างกับทุกๆคนคือครอบครัว ครอบครัวในที่นี้อาจจะไม่ได้หมายถึงแค่พ่อกับแม่ แต่หมายถึงคนที่คุณรักมากที่สุดและอยุ่ข้างคุณเสมอ ค่อยดูแลเลี้ยงดูและเอาใจใส่ ครอบครัวคือสิ่งแวดล้อมที่ใกล้ตัวของทุกคนมากที่สุดสิ่งหนึ่ง โดยอาศัยทักษะการสื่อสารต่างๆให้ทุกๆคนรับรู้และเข้าใจ คุณค่าของการทำกิจกรรมแบบนี้คือเราทุกคนในครอบครัวจะได้ทราบว่าถึงแม้โลกภายนอกจากโหดร้ายต่อตัวเรามากแค่ไหน แต่ที่บ้านยังมีครอบครัวคอยรับฟังสิ่งที่เราเจอมาเสมอ
ไม่มีความเห็น