หมอก: คนที่ให้ความหวังกับคนอื่น แต่ตนเองกลับเปลี่ยวเหงาอย่างยิ่ง


หมอกเป็นตัวละครในซีรี่ส์ชุดฮอร์โมน ที่เป็นที่ตรึงตราตรึงใจและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดเรื่องหนึ่งในหมู่คนไทย ผมว่าจะวิจารณ์เรื่องหมอกมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่ค่อยว่าง พอมีโอกาสผมจึงนำซีรี่ส์ชุดนี้มาดูอีกครั้ง ผมตั้งใจวิจารณ์ตัวละครหมอกในซีรี่ส์ที่ 1 นี้ เพราะซี่รี่ส์ที่ 2 ไม่ได้ดูเป็นกิจจะลักษณะ ผมไม่อยากจะบอกว่าดูซีรี่ส์เรื่องนี้โดยเฉพาะหมอกทำให้ผมรู้สึกถึงใครบางคนที่ผมรู้จัก

ก่อนอื่นมาดูชื่อตัวละครก่อน คำว่า หมอก ทำให้เรารู้สึกถึงสิ่งจางๆในอากาศ คล้ายๆจะเป็นจริง แต่บอบบางเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเราพูดถึงหมอกจะให้ความรู้สึกเปลี่ยวเหงา แต่ในความเปลี่ยวเหงานั้นกลับมีตัวตนอยู่

ตัวละครหมอกก็เป็นเช่นเดียวกัน เนื่องจากเขาปิดกั้นตนเองเป็นอย่างมาก เช่น ชอบอ่านนิยายของ Haruki Murakami ซึ่งเป็น blue magical realism หรือสัจจะนิยมมหัศจรรย์แบบเศร้าๆหรือหม่นๆ หน่อย หมอกชอบดูหนังคนเดียว หนังที่หมอกชอบดูก็คือ The Perks of Being a Wallflower (2012) ถึง 3 รอบด้วยกัน หนังเรื่องนี้สร้างขึ้นจากนิยายซึ่งกล่าวถึง เด็กเก็บ/ปิดตัว หรือไม่ยอมแสดงตัวให้ใครเห็น (Wallflower) และถูกหลอกหลอนจากความทรงจำในอดีต นอกจากนี้หมอกยังชอบถ่ายรูป และจะใช้เวลาในการถ่ายรูปอยู่เสมอ ความมุ่งหวังในชีวิตมหาวิทยาลัยของหมอกจึงเป็นคณะนิเทศ หมอกยังเสียบหูฟังเพื่อฟังดนตรีตลอด การฟังดนตรีของหมอก เป็นสิ่งที่ปิดกั้นตัวตนของหมอกกับโลกภายนอก

การที่หมอกปิดกั้นตนเองจากโลกภายนอก ทำให้หมอกมีปัญหากับมิ้นท์ แฟนหมอกเด็กสาวต่างโรงเรียน สำหรับประเด็นเพื่อนๆในโรงเรียน ซึ่งเป็นใครไม่ได้นอกจากวิน กับ ต้าร์ มักจะกล่าวแบบอำว่า มิ้นท์มีตัวตนจริงหรือเปล่า หรือเป็นโลกในจินตนาการ แต่สำหรับมิ้นท์เองต้องการคบแบบต้องเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน

ภายนอกดูเหมือนว่าหมอกจะทำแบบผู้ชายเขาทำกัน เช่น นัดดูหนัง, นำรูปมิ้นท์มาไว้ในหน้าจอโทรศัพท์, และการไม่เอาเรื่องของเพื่อนมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของแฟน เป็นต้น แต่การวางตัวของหมอกในฐานะแฟน ก็ไม่ค่อยดีนัก เนื่องมาจากเป็นคนปิดกั้นตนเอง และมีความเป็นปัจเจกสูง และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างหมอกกับมิ้นท์อยู่ในลักษณะระหองระแหงอยู่ตลอดเวลา พฤติกรรมที่ไม่ดีของหมอกได้แก่ 1.ไม่สม่ำเสมอ, ผีเข้า ผีออก, ดูเหมือนไม่ใส่ใจ 2. ส่ง line ไปไม่ตอบ จนมิ้นท์บอกกับหมอกว่า เธอเป็นอย่างนี้อีกแล้วนะ 3. มีอะไรไม่เล่าให้ฟัง,ไม่เปิดใจ,มีโลกส่วนตัวที่ฝ่ายหญิงเข้าไม่ถึง 4.เป็นที่ปรึกษาไม่ได้ ในยามทุกข์ร้อน 5. ลืมนัด,นัดแล้วมาช้ากว่าที่นัด,นัดแล้วต้องให้โทรตาม

ใช่ว่าหมอกนั้นจะไม่รักมิ้น เพราะเท่าที่หมอกแสดงออกนั้นก็เรียกว่าตามประสาคนรักกัน เพราะในตอนที่ ต้าร์ คิดวิธีที่จะง้อเต้ย หมอกเองก็นึกขึ้นมาได้ว่ามีคดีติดตัวที่นัดดูหนังแล้วมาสาย 30 นาที...ถึงขั้นนั่งขับมอเตอร์ไซท์ ไปง้อสาวถึงหน้าบ้านทีเดียว พอถึงหน้าบ้าน หมอกโทรศัพท์ไปหามิ้นท์ และบอกว่าตนเองอยู่หน้าบ้าน พอมิ้นท์ลงมา หมอกก็บอกว่าคิดถึง และนัดดูหนังอีกรอบ เพื่อเป็นการไถ่โทษ

แต่ประเด็นอยู่ที่ความหวานและความรักของต่อที่มอบให้กับมิ้นท์นั้น ที่มีปัญหาคือความไม่สม่ำเสมอนี่แหละ ทำให้ความสัมพันธ์นั้นยากที่จะก้าวหน้ามากไปกว่านี้ และเมื่อสะสมมากๆ เข้า ในวันที่ทั้ง 2 นัดดูหนังเรื่อง “Looper” ครั้งที่2 แต่หมอกบอกว่าหากมิ้นท์ชอบที่จะดูเรื่อง the Perks of being a wallflower ก็ได้ เพราะหมอกชอบเรื่องนี้อยู่แล้ว ระหว่างที่ดูหนังนั้นมิ้นท์พยายามที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในตัวหมอก เช่น พยายามซบหน้าอยู่ในอ้อมอกของหมอก และพยายามจะจับมือหมอก แต่ความสนใจของหมอกต่อหนังนั้นทำให้หมอกหลงลืมที่จะดูแลมิ้นท์

อย่างที่มิ้นท์ต้องการได้ สุดท้ายมิ้นท์ก็เดินออกขณะกำลังดูหนังอยู่

มิ้มท์สงสัยในความสัมพันธ์ที่มี เพราะนอกจากเธอจะรู้สึกไม่มีตัวตนในโลกของหมอก บวกกับอารมณ์ “พอกันที” กับความผีเข้าผีออกของ “หมอก” เพราะขนาดที่มิ้มกำลังพูดจาแบบเปิดใจ หมอกกับไปสนใจ และหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูป แต่ผิดประเด็นไปมาก เพราะไม่ใช่เวลาที่จะมาถ่ายภาพ แถมยังเป็นคนที่มัวแต่สนใจโลกส่วนตัวจนไม่ดูบรรยากาศเลยในบางครั้ง เพราะหมอกมัวแต่สนใจรอบตัวว่าตอนนี้ เวลานี้ สถานการณ์นี้ถ่ายรูปออกมาแล้วจะดูดีจนไม่ได้โฟกัสคนที่อยู่ด้วยเลย

มิ้นท์ : การมาดูหนังด้วยกับของหมอกคืออะไร
หมอก : ก็..ดูหนังไง!
มิ้นท์ : แต่สำหรับเรา ที่เรามาดูหนังกับหมอก ก็เพราะว่าเราอยากอยู่ใกล้ๆ หมอก อยากใช้เวลาร่วมกันกับหมอก เรามาเดทกันนะหมอก ไม่ใช่ต่างคนต่างมาแล้วก็แยกย้ายกันไป

หมอก: การพูดคุยกันระหว่างดูหนัง เป็นเรื่องที่ไม่ดีใช่ไหม

แม้มิ้มจะพูดประโยคนี้ออกมาจากใจทั้งหมด ก็ดูเหมือนมันหมอกจะยังไม่เข้าใจอะไรมากนัก เพราะอาจจะยังไม่ได้ทบทวนการกระทำของตนทั้งหมดที่ผ่านมา

เรื่องราวของมิ้นท์และหมอกสรุปตรงที่ในวันหนึ่ง หมอกไปถ่ายรูป แล้วเผอิญไปเจอมิ้นท์ กับแฟนที่ดูเหมือนว่าจะใหม่ ระหว่างทางเดินมิ้นท์จับมือถือแขนแฟนใหม่ได้ เมื่อมาดูหนังมิ้นท์กับแฟนใหม่ดูหนังเรื่องเดิม แล้วหมอกก็เข้าไปชมด้วย แต่ที่นี้หมอกไม่สนใจเรื่องหนัง แต่ดูที่ความสัมพันธ์ระหว่างมิ้นท์กับแฟนใหม่ มิ้นท์ซซบหน้าเข้าหาอกและพยายามจับมือแฟนใหม่ตลอด ซึ่งแฟนใหม่ก็ได้ทำสิ่งต่างๆดังที่มิ้นท์ต้องการ

ตอนนี้มาพูดถึงหมอกกับการถ่ายรูปบ้าง หมอกชอบถ่ายรูปโดยใช้ฟิล์ม แต่ไม่ถ่ายแบบดิจิตัล หมอกให้เหตุผลกับของขวัญ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนว่า ภาพฟิล์มเป็นภาพแห่งความทรงจำ เพราะเปิดดูก่อนไม่ได้ และไม่รู้ว่าผลจะเป็นอะไร ดีหรือไม่ดี หมอกเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก ภาพที่เป็นฟิล์มคือตัวแทนของแม่ที่มีอยู่ในความทรงจำของหมอก แน่นอนว่าหมอกไม่ค่อยพอใจพ่อนัก เพราะพ่ออยากให้หมอกเรียนบัญชี ในขณะที่หมอกต้องการเรียนนิเทศ แต่สุพท้ายพ่อจึงยอมให้หมอกเรียนนิเทศแต่โดยดี

ขอจบที่ความเปลี่ยวเหงาของหมอกอีกสักครั้ง ระหว่างการเข้าร่วมการเลือกชุมนุมหรืออะไรสักอย่าง ขณะที่ทุกคนต่างอยู่กับกลุ่มเพื่อน และทำกิจกรรมที่ตนสนใจ หมอกกลับแยกตัวเองออกมา ด้วยการใส่ Mascot ช้างสีชมพู เดินไปทั่วงาน เพื่อถ่ายภาพของทุกคนในงาน สุดท้ายจบลงโดยที่เพื่อนๆ มีความสุขกับตัว Mascot แต่ก็ไม่รู้ว่า ใครแต่งเป็นช้าง ทำไมช้างตัวนี้จึงมาถ่ายรูป หลังจากงานจบ หมอกก็มานั่งภาคภูมิใจในปฏิบัติงานของตนแบบเหงาๆ ต่อไป

หมายเลขบันทึก: 612634เขียนเมื่อ 21 สิงหาคม 2016 07:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 สิงหาคม 2016 18:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท