ครั้งหนึ่งในชีวิตผมคือผู้พิชิตภูกระดึง


ช่วงที่อากาศหนาวเหมาะแก่การไปปีนเขาดูหมอกหนาๆ ดูพระอาทิตย์ขึ้น-ตก

ครั้งหนึ่งในชีวิตผมคือผู้พิชิตภูกระดึง

หลังจากสอบปลายภาคปีการศึกษา 2557 ตอนนั้นผมอยู่ปี 2 ครับ เป็นช่วงที่อากาศหนาวเหมาะแก่การไปปีนเขาดูหมอกหนาๆ ดูพระอาทิตย์ขึ้น-ตก ผมกะเพื่อนอีก 5 คนก็ได้ออกเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้คนมากมายต้องการจะไปและเป็นสถานที่ที่มีความสวยงามมากติดอันดับของประเทศซึ่งเกิดมาครั้งหนึ่งเราต้องไปให้ได้นั้นคือ ภูกระดึง จังหวัดเลย ผมกับเพื่อนได้วางแผนไว้นานมากว่าสอบเสดเราจะไปพิชิตมัน หลังจากสอบเสดก็พักเก็บของ 1 วัน งบที่ใช้ในการเดินทาง 3 วัน 2 คืน คือ 3,000 บาทครับ เราออกเดินจากม. ใหม่เวลา 6 โมงเช้า นั่งรถบัสไปครับ ไปลง บขส.ขอนแก่นแล้วก็ต่อรถไปลงที่ภูกระดึงจากนั้นก็นั่งรถสายต่อเข้าไปในอุทยานแห่งชาติภูกระดึงไปถึงก็ประมานเที่ยงเราก็ไปจองเต็นท์และเช็คจำนวนคนที่ทางขึ้นอุทยาน เราไม่มีการหยุดพักเริ่มเดินขึ้นภูเลยครับสำภาระระหว่างทางขึ้นลำบากมากครับทั้งหินเยอะ ทางลาดชันและที่สำคัญสูงมากๆแต่ในความลำบากก็ยังมีอะไรดีๆเยอะแยะเลย ผมได้เพื่อนใหม่ระหว่างทางหลายคนมาก วิวสวยมาก แล้วอากาศก็ไม่ร้อนมากจนเกินไปเพราะมีต้มไม้ตลอด 2 ข้างทางเลย และแล้วผมกับเพื่อนก็เดินมาจนถึงขุดหมายนั่นคือยอดเขาภูกระดึงเราถึงเกือบจะ 17 น. เหนื่อยมากเลยครับ เรานั่งพักประมาณ 10 นาทีแล้วก็เดินทางราบต่อเพื่อไปที่พักอีกประมาณ 20 กม. ไปถึงก็ประมาน 18 น. ผมกับเพื่อนก็พากันไปเอาผ้าห่มกับถุงนอนที่กองอำนวยการแล้วก็เข้าที่พักอาบน้ำมันเป็นช่วงเวลาที่สุดแสนจะทรมานเพราะน้ำหนาวมากๆ แล้วก็ไปกินข้าว และก็นอนพักเก็บแรงไว้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ค่าอาหารที่นั่นแพงมากๆเลยครับปริมานก็ปกติแต่จะแพงขึ้นเป็นเท่าตัวเลย และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องตื่นขึ้นมาเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น เราตื่นตี 4 ครึ่งไปแปรงฟันแต่ไม่ได้อาบน้ำเพราะน้ำหนาวมาก เราออกเดินเท้าไปยังจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นนั่นก็คือ ผานกแอ่น โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานเดินนำทางไปครับ เราไปถึงประมาน 6 โมงเช้า แล้วก็นั่งรอหมอกหนามากแล้วก็หนาวมาก รอจนถึง 8 โมงเช้า พระอาทิตย์ถึงขึ้นแต่มันก็ขึ้นอยู่บนหัวเราแล้ว คนก็ทยอยกลับจนจะหมด ผมกับเพื่อนเสียใจนิดนึงที่ไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นแล้วก็เดินกลับไปกินข้าวเตรียมออกเดินทางไปดูน้ำตกสวยๆ ผาสวยๆ เราออกเดินทางประมาน 10 โมงเช้า เดินไปตามทางไปดูน้ำตกหลายๆที่ ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจมาก น้ำตกสวย น้ำเย็นมาก แต่ถ้ามีน้ำเยอะกว่านี้จะสวยมากๆเลย เราเดินกันไปเรื่อยๆระหว่างทางมีน้ำตกอากาศเย็นสบายร่มรื่น ทุ่งหญ้ากว้างไม่มีต้นไม้เลยร้อนมาก น้ำก็หมด เราอดทนเดินต่อไปจนถึงจุดชมพระอาทิตย์ตก นั่นคือ ผาหล่มสัก เราไปถึงประมาน17 น. ก็เลยนั่งรอ นอนรอ อากาศหนาว ลมเย็น เราจึงหลับไปตื่นขึ้นมาคนก็เริ่มเยอะแล้วเราจึงไปจองที่นั่งดูพระอาทิตย์ตก 18.00 น. พระอาทิตย์ตก สวยมากแต่น่าเสียดายที่มันตกหลังก้อนเมฆไม่ใช่หลังเขา เรานั่งดูอยู่พักหนึ่ง จึงเริ่มออกเดินทางกลับที่พักระหว่างทางกลับค่อนข้างน่ากลัวเพราะมืดแต่เราก็มีเพื่อนร่วมทางเยอะพอสมควร และแล้วโชคร้ายก็มาเยือนฝนตกครับ ตกแรงมากและตกนานมากตลอดทั้งคืน การเดินทางลำบากมาก ทางลื่นมาก เราจึงหยุดพักตรงร้านค้าก่อนเพราะฝนตกแรงมากนั่งพักอยู่สักพักจึงออกเดินทางต่อ เพราะฝนไม่มีท่าทีที่จะหยุดตกเลย พอดีมีพี่ๆกลุ่มหนึ่งกำลังเดินกลับพอดีเราเลยไปรวมกลุ่มกับพวกพี่เขาเราเดินมาจนถึงที่พักให้สภาพเหมือนลูกหมาตกน้ำโคลนเลยครับเราถึงที่พักประมาน 20 น. พอถึงที่พักก็ไปอาบน้ำเป็นช่วงเวลาที่ทรมานสุดๆเราอาบน้ำแต่ตัวเสดฝนก็เริ่มซาลงเราจึงพากันไปหาอะไรร้อนๆกินแล้วก็มาเข้านอนแล้วฝนก็เริ่มตกแรงอีกครั้ง ตกตลอดทั้งคืนเลยตอนแรกผมกับเพื่อนว่าจะพากันไปดูพระอาทิตย์ขึ้นอีกวันแต่ฝนตกไม่หยุดเลยเปลี่ยนใจไม่ไปดีกว่า พอเช้าเราตื่นประมาน 7 โมงเช้า เก็บของ ไปล้างหน้าแปรงฟัน กินข้าวเตรียมตัวเดินลงเขา วันนี้เราต้องกลับกันแล้วเราเดินลงเวลาประมาน 10 โมง ทางลาดชันมากแทบจะไม่ได้เดินเลยเพราะผมวิ่ง ต้องมองหาต้มไม้ไว้ยึดเพื่อหยุด แล้วหินก็ลื่นเนื่องจากเมื่อคืนฝนตก เราใช้เวลาลงเขาค่อนข้างเร็วกว่าเดินขึ้น จึงพักกินข้าว แล้วค่อยเดินต่อ เราลงมาถึงประมาน16 น. ตอนนั้นผมปวดขามาก เดินแทบจะไม่ไหวจนเพื่อนต้องช่วยพยุงเดินเลย จากนั้นเราก็นั่งรถสายไปขึ้นรถบัสไปขอนแก่นเราไปถึงบขส.ขอนแก่นเกือบ 2 ทุ่ม ซึ่งรถรอบสุดท้ายที่จะไปสารคามคือ 2 ทุ่ม เกือบไม่ได้กลับแล้วไหมล่ะครับ แล้วเราก็กลับมาถึง ม.ใหม่อย่าปลอดภัย ท่าเดินของผมกับเพื่อนเปลี่ยนกันทุกคนเลยครับตลกมาก เพราะขาตึงทั้งปวด เมื่อย แต่นั้นไม่ทำให้พวกเราท้อเลย เพราะสิ่งที่เราได้กลับมาจากเหตุการณ์ต่างๆที่เราได้เจอมันมากมายเหลือเกินทั้งสนุก เหนื่อย หนาวสุดๆ เราได้ทั้งมิตรภาพความรัก ความสามัคคี ความห่วงใยจากเพื่อนๆ และมันทำให้เรารักกันมากขึ้น มันเป็นประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้เลยน้อยคนนักที่จะได้มีโอกาสเจอเหตุการณ์แบบนี้ และถ้ามีโอกาสผมก็อยากจะไปอีกครั้งเผื่อจะได้มีประสบการณ์ใหม่ๆอีก



หมายเลขบันทึก: 610274เขียนเมื่อ 13 กรกฎาคม 2016 14:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 กรกฎาคม 2016 17:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท