เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัวและยังมีความผันผวนต่อเนื่อง โดยจีดีพีในระยะ 5 ปี ระหว่างปี 59-63 จะขยายตัวเหลือ 6.5-7% และผลจากการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของจีนจะมีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ การเคลื่อนย้ายเงินทุนของจีน ให้กระแสเงินไหลออกไปยังต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยตั้งแต่ปี 57 จีนมีการลงทุนทางตรงนอกประเทศมากกว่าการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ มีทั้งการลงทุนและการควบรวมกิจการในต่างประเทศ นอกจากนี้การเติบโตที่ชะลอตัวลงของจีนและมีการไหลออกของเงินทุนจีน ทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง เพราะช่วงการปรับโครงสร้างจีนยังเพิ่มการส่งออกเป็นหลัก
การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนยังส่งผลกระทบอีกกว่า 50 ประเทศ ผู้ส่งออกวัตถุดิบเพื่อป้อนภาคการผลิต เพราะ ณ ปัจจุบัน การนำเข้าสินค้าในจีนขยายตัวเพียง 0.7% เท่านั้น ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มโภคภัณฑ์ เช่น พลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ และสิ่งทอ ที่ต่างมีอัตรานำเข้าลดลง
ธุรกิจไทยต้องปรับตัวรับมือการปรับโครงสร้างเศษรฐกิจของจีน ซึ่งจะมีการเติบโตที่ผันผวนและรูปแบบการขยายตัวเปลี่ยนไปจากเดิม โดยไทยควรหาโอกาสในการร่วมลงทุน หรือการต่อยอดธุรกิจจากจีน ในอุตสาหกรรมขนส่ง วัสดุก่อสร้างและวิศวกรรมและรับเหมาก่อสร้าง การท่องเที่ยวและภาคบริการ ที่จะเติบโตตามนักท่องเที่ยวจีนที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ไม่มีความเห็น