เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของดินในสวนไม้ผลและไม้ยืนต้น
|
|
|
|
-
การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร บนที่ดอน หรือที่สูง จะใช้ในการ เพาะปลูกพืชไร่และไม้ผลเป็นหลัก แต่พื้นที่เหล่านี้มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่มีระบบการ ชลประทาน พื้นที่ส่วนใหญ่ที่เกษตรกรใช้ในการ เพาะปลูก จึงเป็นพื้นที่การเกษตรที่อาศัยน้ำฝน ปัจจุบัน แม้ว่าปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย ที่ตกในแต่ละปี จะมีปริมาณเท่า ๆ หรือใกล้เคียงกัน
|
|
|
-
แต่เกษตรกรก็มักประสบปัญหาภัยแล้ง หรือภาวะพืชที่เพาะปลูกขาด แคลนน้ำเป็นประจำ ก่อความเสียหายแก่เกษตรกรและเศรษฐกิจ ของประเทศ เป็นอย่างมาก การแก้ไขปัญหาภาวะพืชขาดแคลนน้ำในพื้นที่ เกษตร น้ำฝนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีมาตรการในการเก็บรักษา ความชุ่มชื้นไว้ในดิน ให้ได้อย่างยาวนาน แต่เท่าที่ผ่านมาตราบจนปัจจุบัน เกษตรกรส่วนใหญ่ ่ในเขตพื้นที่เกษตร น้ำฝนยังคง เพาะปลูกติดต่อกันมา โดยมิได้มีมาตรการใด ในการช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้น ในดินเลย ดังจะเห็นได้จากกการที่ฝนตก ลงมา ก็ปล่อยให้น้ำฝนเป็นจำนวนมาก ไหลบ่าออกจากพื้นที่ลงสู่แม่น้ำลำคลอง ซึ่งนอกจากจะเป็นการสูญเสีย น้ำไปโดยเปล่าประโยชน์แล้วน้ำฝนที่ไหลบ่า ยังจะกัดเซาะ และพัดพาหน้า ดินซึ่งมีปุ๋ยและธาตุอาหารพืชที่สำคัญ ให้สูญเสีย ไปอีกด้วย
|
|
|
|
|
|
-
มาตรการในการช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้นไว้ในดินให้ได้อย่างยาวนาน ซึ่งเป็นวิธีที่ ง่าย ๆ และมีประสิทธิภาพ ได้แก่การปลูกหญ้าแฝกแถวเดียว เป็นแนวรั้วตามแนวระดับ ขวางความลาดเทของพื้นที่ (ดังรายละเอียด เอกสารคำแนะนำเรื่องการใช้ประโยชน์ หญ้าแฝก เพื่อป้องกันการชะล้าง และพังทลายของดิน) โดยแนวรั้วหญ้าแฝกดังกล่าว จะทำหน้าที่ลดแรงปะทะ ของน้ำฝนที่ไหลบ่า ทำให้น้ำแผ่กระจายและไหลซึมผ่านแนวรั้วหญ้าแฝก ซึ่งจะทำให้น้ำ มีโอกาสไหลซึมลงเก็บกักรักษาไว้ในดินได้ทั่วพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ ดินมีความชุ่มชื้น เป็นประโยชน์ต่อพืชหลักที่ปลูกไว้ต่อไป นอกจากมีลักษณะพิเศษของหญ้าแฝกที่แตกต่างไปจากหญ้าอื่น ๆ โดยทั่วไปก็คือ ระบบรากฝอย ของหญ้าแฝก จะแข็งแรงและหนาแน่น สามารถชอนไชหยั่งลึกลงไนดิน ตามแนวดิ่ง ได้ถึง 3 เมตร และรากจะไม่เจริญแผ่ขยายออกทางด้านกว้าง จึงไม่แย่ง อาหารของพืชหลักที่ปลูกใกล้เคียงกัน หญ้าแฝกมีรากแกนและรากแขนงอวบใหญ่ จึงทำให้เกาะยึดดิน และดูดซับน้ำไว้ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อปลูกหญ้าแฝกตามแนวระดับ ขวางความลาดเทของพื้นที่แล้วนอกจากต้นที่เจริญแตกกอ อัดกันแน่นเป็นกำแพง อยู่เหนือดิน แล้วรากของหญ้าแฝกก็จะสานกันแน่น เป็นกำแพงอยู่ในดิน ทำหน้าที่เกาะ ยึดติด และดูดซับเก็บความชื้นไว้ในดินได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
|
- วิธีการและรูปแบบการปลูก ตามลักษณะพื้นที่
-
จากหลักการและลักษณะพิเศษของหญ้าแฝก ดังกล่าวแล้วข้างต้น จึงได้มีการประยุกต์ใช้ประโยชน์ ของหญ้าแฝกในด้านต่าง ๆ ได้มากมาย โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง การปลูกหญ้าแฝก เพื่อรักษาความชุ่มชื้น ในดิน สำหรับปลูกไม้ผล ก็ใช้หลักการเดียวกัน ทั้งนี้วิธีการและ รูปแบบการปลูกหญ้าแฝก ขึ้นอยู่กับลักษณะของพื้นที่ ที่เกษตรกรสามารถเลือก ใช้รูปแบบหนึ่งตามความ เหมาะสม ดังต่อไปนี้
|
|
|
- 1. พื้นที่ที่มีความลาดเทปานกลาง - ต่ำ
-
บนพื้นที่ที่มีความลาดเท จะเป็นพื้นที่ที่ง่ายต่อการ ชะล้าง พังทลายของดิน จากน้ำฝนที่ไหลบ่า ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกัน และกักน้ำที่ไหลบ่าไว้ในดิน ให้ชุ่มชื้นอย่างยาวนาน จึงควรที่จะมีการปลูกหญ้าแฝก ตามแนวระดับขวาง ความลาดเท ของพื้นที่
|
|
|
-
บนพื้นที่ที่มีความลาดเทสม่ำเสมอ ความถี่ห่าง ของแนวหญ้าแฝกที่จะปลูกขึ้นอยู่กับระดับความสูง ต่ำ ของพื้นที่ พื้นที่ที่มีความลาดเทสูง แนวหญ้าแฝกก็จะ ถี่กว่าพื้นที่ที่มีความลาดเทต่ำ แต่ทั้งนี้ ความห่าง ระหว่างแนวหญ้าแฝกที่จะปลูก จะต้องอยู่ห่างกัน ไม่เกินค่าสูงต่ำ คามแนวดิ่ง 1.50 เมตร ซึ่งจะหาได้ จากการใช้สายยางหาระดับแบบช่างไม้
|
|
|
|
|
|
-
ดังนั้น ในพื้นที่ สวนไม้ผลหรือไม้ยืนต้นที่ปลูกในพื้นที่ที่มีความลาดเท สม่ำเสมอนั้น จึงกระทำได้ง่าย ทั้งนี้เมื่อกำหนดแนว ที่จะปลูกได้แนวแรกแล้ว แนวต่อ ๆ ไป ก็ใช้จำนวนแถว ของไม้ผลที่จะปลูกเป็นตัวกำหนด เช่นในแนวแรกมี ไม้ผล 3 แถว ดังนั้นทุก ๆ 3 แถวของไม้ผล ก็จะปลูก หญ้าแฝก 1 แนว จนตลอดพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้หญ้าแฝกได้ทำหน้าที่ อย่างมีประสิทธิภาพ การวางแนวปลูกไม้ผลหรือไม้ยืนต้น ก็จะต้องวางแนวปลูก ตามแนวระดับขวาง ความลาดเทของพื้นที่ด้วย และการปลูกหญ้าแฝกระหว่าง แถวไม้ผล จะปลูกห่าง จากโคนไม้ผลที่จะปลูก 1.50-2.00 เมตร ดังนั้น ความห่าง ของหญ้าแฝก ตามแนวดิ่งอาจน้อยกว่า 1.50 เมตร หรือ เกินกว่า 1.50 เมตร เล็กน้อยก็ได้ ตามความเหมาะสมของแถวไม้ผลที่ปลูก
|
-
สำหรับพื้นที่ที่มีความลาดเทไม่สม่ำเสมอ ที่จะใช้ ในการปลูกไม้ผล หรือไม้ยืนต้น การปลูกหญ้าแฝก เพื่อรักษาความชุ่มชื้นในดิน กำหนดได้จากสภาพความ ลาดเทของพื้นที่ ถ้าพื้นที่มีความลาดเทค่อนข้างสูงแล้ว จะต้องพิจารณาถึงการป้องกันการสูญเสียดินจากน้ำ ที่ไหลบ่าด้วยดังนั้น ในสภาพพื้นที่ดังกล่าว การปลูก หญ้าแฝกก็จะใช้วิธีการเดียวกันกับการปลูกหญ้าแฝก เพื่อป้องกันการชะล้างและพังทลายของดิน
|
|
|
โดยวางแนว ปลูกตามแนวระดับขวางความลาดเท ของพื้นที่จะตลอดพื้นที่ แต่ละแนวจะห่างกันตามค่า ความสูงต่ำตามแนวดิ่ง 1.50 เมตร ดังรายละเอียด เอกสาร คำแนะนำเรื่องการใช้ประโยชน์หญ้าแฝก เพื่อการป้องกัน การพังทลาย ของดิน
|
สำหรับพื้นที่ที่มีความลาดเทไม่สม่ำเสมอ แต่มีความลาดเทเพียงเล็กน้อย จะมีปัญหาการสูญเสียดินจากน้ำฝนที่ไหลบ่าไม่มากนัก การปลูกหญ้าแฝกเพื่อ รักษาความชุ่มชื้นในดิน กระทำได้ 2 วิธีด้วยกัน คือ
|
ก.ปลูกแบบวงกลมรอบไม้ผล
|
ทั้งนี้โดยปลูกเป็นวงกลมรอบไม้ผลแต่ละต้น รัศมีจากโคนต้นไม้ผล 1.50 - 2.00 เมตร
|
ข.ปลูกแบบครึ่งวงกลม
|
โดยการปลูกหญ้าแฝกห่างจากโคนไม้ผล 1.50 - 2.00 เมตร แบบครึ่ง วงกลมหงายรับน้ำฝนที่จะไหลบ่าลงมากักเก็บไว้
|
การปลูกหญ้าแฝกแบบวงกลมและแบบครึ่งวงกลมนี้ มีการเตรียมดินและการ ปลูกรวมทั้งการดูแลรักษาเช่นเดียวกัน ดังได้กล่าวมาแล้ว ข้างต้น ซึ่งการปลูกทั้ง 2 แบบนี้ จะเป็นการควบคุมเก็บรักษาความชุ่มชื้นในดินเฉพาะต้นซึ่งเมื่อหญ้าแฝก เจริญเติบโตเต็มที่แล้ว ควรมีการตัดใบหญ้าแฝกให้เหลื่อสูงประมาณ 40 เซนติเมตร เป็นประจำ 2-3 เดือน ต่อครั้ง โดยนำใบหญ้าแฝกที่ตัดได้นำไปคลุก โคนไม้ผล จะช่วยลดการสูญเสียของน้ำในดินจากการระเหยได้เป็นอย่างดี นอกจาก นี้ ใบหญ้าแฝกก็จะค่อย ๆ ผุพังสลายตัว เป็นปุ๋ยให้แก่ไม้ผลที่ปลูกได้อีกด้วย
|
- 2. พื้นที่ที่ไม่มีความลาดเท หรือพื้นที่ระดับ
-
บนพื้นที่ที่ไม่มีความลาดเทหรือพื้นที่ระดับ จะไม่มี ปัญหาเกี่ยวกับการสูญเสียดิน แต่อย่างไร ก็ตาม แม้ว่าจะเป็นพื้นที่ราบเพียงใดก็ตาม การไหลบ่าของน้ำฝนก็จะเกิดขึ้นได้เช่นกัน ดังนั้น วิธีการปลูกหญ้าแฝก เพื่อรักษา ความชุ่มชื้นในดิน ในพื้นที่ระดับ
|
|
|
|
|
|
โดยเฉพาะในพื้นที่เกษตรน้ำฝน จะปลูกเพื่อกักเก็บน้ำฝนไว้ในพื้นที่ โดยให้ไหลบ่า ออกจากพื้นที่ให้น้อยที่สุด ดังนั้นวิธีการปลูกหญ้าแฝก ก็จะปลูก เป็นแถวเดี่ยวล้อมรอบพื้นที่ และบริเวณที่ปลูกไม้ผลก็จะปลูกหญ้าแฝกระหว่าง แถวไม้ผลที่ปลูก ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการตัดใบคลุมโคนไม้ผล เพื่อลดการ สูญเสียน้ำในดินจากแสงแดดและนอกจากนี้ อาจจะปลูกแบบวงกลม รอบโคน ต้นไม้ผลดังกล่าวมาแล้ว ก็ได้เช่นกัน
|
การปลูกแบบวงกลมรอบไม้ผลแต่ละต้นนั้น มีข้อเสียที่ว่าจะต้องใช้กล้าหญ้า เป็นจำนวนมากกว่าปลูกแบบเป็นแถวตรง นอกจากนี้ การเตรียมดิน หรือการไถ พรวน เพื่อปลูกพืชเสริมรายได้ในช่วงที่ไม้ผล ยังไม่ให้ผลผลิต ก็กระทำได้ยากกว่า ส่วนข้อดีที่นอกเหนือจากการเก็บกักความชุ่มชื้น ก็คือจะได้ผลผลิตจากใบหญ้า เพื่อใช้ในการคลุมดินสูง กว่าวิธีอื่น ๆ
|