กองทุนรวมทั้ง 2 ประเภทนี้แม้จะมีลักษณะเด่นเหมือนกัน แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันในรายละเอียด ซึ่งเริ่มตั้งแต่จุดกำเนิดเริ่มต้นของกองทุนรวมทั้งสองเลยทีเดียวโดย
RMF (กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ retirement mutual fund) เป็นกองทุนรวมที่เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการสนับสนุนวินัยการออมในระยาวเพื่อวัยเกษียณเมื่อพ้นจากงานและไม่มีรายได้ประจำแล้ว
LTF (กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ long-term equity fund) เป็นกองทุนรวมที่เกิดมาจากแนวคิดที่ต้องการส่งเสริมการลงทุน
ระยะยาวในหุ้นจดทะเบียนในตลาดรอง เช่น SET และ MAI เพื่อช่วยให้ตลาดทุนไทยมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น และยังช่วยสร้างวินัยในการออม ของผู้ลงทุนรายย่อยในระยะยาวมากยิ่งขึ้นด้วย
และเมื่อกองทุนรวมทั้งสองประเภทต่างก็เน้นการลงทุนระยะยาว ทางการจึงสนับสนุนสิทธิประโยชน์ทางภาษี ให้แก่ ผู้ลงทุนเพื่อเป็นการจูงใจRMF และ LTF ต่างกันอย่างไร?
นอกจากจุดกำเนิดที่แตกต่างกัน นโยบายในการลงทุน และ เงื่อนไขการลงทุนเพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของทั้ง 2 กองทุนก็มีความแตกต่างกัน
ประเด็น |
RMF | LTF |
วัตถุประสงค์การจัดตั้ง | สนับสนุนให้ประชาชนออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ | สนับสนุนการลงทุนระยะยาวในตลาดทุนผ่านกองทุนรวมซึ่งเป็นผู้ลงทุนสถาบัน เพื่อช่วยสร้างเสถียรภาพของตลาดทุนไทย |
นโยบายกองทุน | มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายเพื่อรองรับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ตามช่วงอายุของผู้ลงทุนตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำถึงความเสี่ยงสูง | -
ไม่มีข้อกำหนดให้ลงทุนต่อเนื่องแต่ปีใดที่มีการลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนไว้อย่างน้อย 5 ปีปฏิทิน
- กรณีที่ผู้ลงทุนสั่งขายหรือสับเปลี่ยนระหว่างกองทุน LTF หน่วยลงทุนที่ซื้อก่อนจะถูกนำไปขายก่อน (First-In First-Out : FIFO) โดยผู้ลงทุนไม่สามารถกำหนดให้ บลจ.ขายหน่วยลงทุนก้อนอื่นที่ซื้อทีหลังได้ ตัวอย่างเช่น : ซื้อ LTF ในปี 2550 2551 2552 และ 2553 ต่อมาผู้ลงทุนต้องการขาย LTF บลจ.จะขายหน่วยลงทุนที่ซื้อในปี 2550 ก่อน และเรียงลำดับไปตามปีที่ซื้อก่อนเสมอ |
เงื่อนไขการลงทุนเพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี | -
ลงทุนต่อเนื่องทุกปี โดยลงทุนขั้นต่ำอย่างน้อย 3%ของรายได้ในแต่ละปีหรือ
5,000 บาท แล้วแต่ว่าจำนวนใดจะน้อยกว่า
- สามารถซื้อหน่วยลงทุนปีเว้นปีได้ - ต้องลงทุนและถือหน่วยลงทุนจนกระทั่งอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์รวมทั้งต้องลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีนับแต่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน) เช่นซื้อหน่วยลงทุนตอนอายุ 53 ปี ก็ต้องลงทุนต่อเนื่องไปจนครบ 5 ปี แม้อายุจะเกิน 55 ปี แล้วก็ตาม |
-
ไม่มีข้อกำหนดให้ลงทุนต่อเนื่องแต่ปีใดที่มีการลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนไว้อย่างน้อย 5 ปีปฏิทิน
- กรณีที่ผู้ลงทุนสั่งขายหรือสับเปลี่ยนระหว่างกองทุน LTF หน่วยลงทุนที่ซื้อก่อนจะถูกนำไปขายก่อน (First-In First-Out : FIFO) โดยผู้ลงทุนไม่สามารถกำหนดให้ บลจ.ขายหน่วยลงทุนก้อนอื่นที่ซื้อทีหลังได้ ตัวอย่างเช่น : ซื้อ LTF ในปี 2550 2551 2552 และ 2553 ต่อมาผู้ลงทุนต้องการขาย LTF บลจ.จะขายหน่วยลงทุนที่ซื้อในปี 2550 ก่อน และเรียงลำดับไปตามปีที่ซื้อก่อนเสมอ |
เงินลงทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี | -
เงินซื้อหน่วยลงทุน จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 15 % ของเงินได้ในแต่ละปีโดยเมื่อนับรวมกับเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ
|
- เงินซื้อหน่วยลงทุนใน LTF จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 15 % ของเงินได้ในแต่ละปีทั้งนี้ เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 500,000 บาทส่วนกำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน |
อ้างอิงจาก : http://www.start-to-invest.com/
ไม่มีความเห็น