พืชสวนบำบัดในประเทศไทย


สวัสดีครับวันนี้ได้มาพบกันอีกแล้ว โดยในวันนี้ผมจะขอพูดถึงการใช้พืชและธรรมชาติในการช่วยบำบัดผู้สูงอายุที่มีภาวะเครียดหลังจากตนเองได้ถูกปลดเกษียณอายุการทำงาน

จะว่าไปแล้วมนุษย์และธรรมชาติถือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมานานพอสมควรแล้ว โดยการใช้พืชสวนบำบัดเป็นเพราะว่าในส่วนลึกของจิตใจของมนุษย์เชื่อมโยงกับธรรมชาติ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าสีเขียวของพืชสวนสามารถช่วยบำบัดจิตใจของมนุษย์ได้ โดยประโยชน์ของการใช้พืชสวนบำบัดก็อย่างเช่น การมีร่างกายที่แข็งแรงจากการทำกิจกรรมภายในสวน การสร้างสุขภาวะอารมณ์ที่ดี ลดความเครียดรวมไปถึงการได้สร้างปฏิสัมพันธ์กับคนในสังคมอีกด้วย ลดความรู้สึโดดเดียวและสร้างคุณค่าให้ตนเองและสามารถพัฒนาตนเองต่อไปได้

พืชสวนบำบัดคืออะไร

คือการมีส่วนร่วมของผู้ป่วยในการทำกิจกรรมพืชสวน โดยมีนักบำบัดคอยอบรมดูแลเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม AHTA ได้แบ่งประเภทโปรแกรมของการบำบัดไว้สามชนิด คือ 1.พืชสวนเชิงบำบัด เป็นการช่วยเหลือให้ผู้ป่วยมีภาวะความเครียดที่ลดลง 2.พืชสวนเชิงสังคม เป็นกิจกรรมพักผ่อนหรือนันทนาการที่จะเกี่ยวข้องกับการทำสวน ไม่มุ่งเน้นผลการรักษา ไม่มีผู้บำบัด เน้นปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ร่วมทำกิจกรรม 3.พืชสวนศึกษา โปรแกรมนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญโปรแกรมพืชสวนบำบัด มีการฝึกอบรมบุคคลที่จะทำงานเกี่ยวข้องกับพืชสวนอย่างเป็นมืออาชีพ

ประโยชน์บำบัด

ประโยชน์ของพืชสวนบำบัดสามารถจัดหมวดหมู่ออกมาได้เป็น 3 หมวดหมู่ คือ

1.ประโยชน์ทางกายภาพ การได้ส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเช่นจากกิจกรรมการปลูกต้นไม้ รดน้ำ พรวนดิน โดยจะเพิ่มความสามารถของกล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ การสอดประสานกันของแขนทั้งสองข้าง

2.ประโยชน์ทางด้านจิตใจ

ประโยชน์ทางด้านนี้คือผู้ป่วยจะรู้สึกเป็นอิสระและผ่อนคลาย เสริมสร้างคุณค่าในตนเอง ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และช่วยระบายความเครียดอีกด้วย

3.ประโยชน์ทางด้านสังคม

ในด้านนี้จะมีส่วนช่วยเปิดโอกาสการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น การมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่างๆ ส่งเสริมทักษะการทำงานเป็นทีม การร่วมมือกันของคนหลายคน เรียนรู้ถึงความสำเร็จและความล้มเหลวจากงาน ได้รับแรงบันดาลใจเพิ่มเติมจากบุคคลอื่น

ความพิเศษของพืชสวนบำบัด

การมีสวนที่หลากหลายทำให้การบำบัดฟื้นฟูมีวิธีการแตกต่างกันมากมาย ทั้งพืชสวนบำบัดยังทำได้โดยราคาไม่แพง ทำได้ทุกเพศทุกวัยและยังได้ประสิทธิภาพการบำบัดที่สูง สามารถทำกิจกรรมได้ทั้งแบบเดียวและแบบกลุ่มโดยจัดสภาพแวดล้อมได้เหมาะสมตามความต้องการของกลุ่มหรือเดียว พืชสวนบำบัดสามารถปรับเปลี่ยนได้ในทุกสถานการณ์ ทำได้ทั้งปี ทำได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ที่โรงพยาบาลหรือบ้าน เอื้อให้ผู้บำบัดสามารถวางแผนการบำบัดให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมได้ที่บ้านด้วยตนเอง ลดความตรึงเครียดและสร้างความสนุกสนานและมีความสุขในการบำบัดเพราะการรักษาตัวในโรงพยาบาลอาจทำให้เกิดภาวะเครียดได้ อีกทั้งผู้ป่วยยังสามารถโชว์ผลงานของตนเองให้ผู้อื่นได้ชื่นชม ทำให้มีพลังฟื้นคืนกลับมา


ความคิดเห็นเกี่ยวกับพืชสวนบำบัดในประเทศไทยของผม

การทำพืชสวนบำบัดในประเทศไทยยังไม่ค่อยมีมากเท่าที่ควรเนื่องมาจากการที่บุคลากรทางการแพทย์มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้น้อยรวมถึงสถานที่ของโรงพยาบลาที่มีสวนสาธารณะยังคงมีไม่มากนัก รวมถึงกิจกรรมของคนในกรุงเทพมหานครเป็นชีวิตที่เร่งรีบทำให้คนมีเวลาว่างในการหาการพักผ่อนได้ยาก เมือ่ป่วยจึงจะได้พักผ่อนแบบตามที่ต้องการ รวมถึงการที่กรุงเทพเป็นเมืองที่ทุกคนต้องตื่นเช้าและทำงานถึงมืดซึ่งทำให้ขาดเวลาแล้วยังทำให้ขาดความสัมพันของธรรมชาติยิ่งลดน้อยลงไป ผู้คนมีความตรึงเครียดมากขึ้น การที่จะปรับพืชสวนบำบัดอาจจะต้องเริ่มจากที่บ้านการปลูกต้นไม้ต้นเล็กที่กำลังเป็นที่นิยม โดยไม่จำเป็นต้องมีสวนขนาดใหญ่เพราะอย่างที่รู้กันคือคนในเมืองอาศัยอยู่ในคอนโดหรือพาร์ตเมนซึ่งมีขนาดเล็ก ในอนาคตอาจเพิ่มสวนสาธารณะให้ใกล้บ้านและมีอยู่ทุกพื้นที่และมีการจัดกิจกรรมภายในสวนสาธารณะอยู่เสมอก็สามารถช่วยส่งเสริมการใช้พืชสวนบำบัดในประเทศไทยได้อีกด้วย

ขอขอบคุณ งานวิจัย จิตวิทยา:แนวคิดและศาสตร์การใช้พืชสวนบำบัด

หมายเลขบันทึก: 602706เขียนเมื่อ 2 มีนาคม 2016 07:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มีนาคม 2016 07:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท