ครอบครัวตึ๋งหนืด <๕๐> หลักคิดเซียนตึงหนืด

How to ทำอย่างไรเราถึงจะตอดเหยื่ออันโอชะโดยที่ไม่โดนเบ็ดเกี่ยวปาก (ต้องมีสติรอบคอบรู้เท่าทันความคิดของธุรกิจที่ออกมาเป็นโฆษณาโดยที่พูดความจริงไม่หมด)

ครอบครัวตึ๋งหนืด เริ่ม On blog ตอนแรกเมื่อเกือบ 7 ปีที่แล้ว ที่บันทึกนี้ ตอนเขียนก็ไม่ได้นึกถึงว่าจะเขียนมาถึงตอนที่ 50 ซึ่งถ้ารวบรวมทำเป็นหนังสือ pocket book ก็จะหนาประมาณ 100 หน้า..และบันทึกนี้จองเลข 600,600 ซึ่งทำให้ GotoKnow มีบันทึกกว่า 600,000 บันทึก

ฉลองครบ ๕๐ บันทึกด้วยการสกัดหลักคิดของตึ๋งหนืด ออกมาเป็นข้อๆ ดังนี้

1. เมื่อเรามีรายได้เข้ามา ต้องสร้างวินัยทางการเงินด้วยการ เก็บ ก่อนใช้จ่าย ในสัดส่วน 10 % ของรายได้ แล้วค่อยๆ เพิ่มสัดส่วนการออม (เงิน) ขึ้นไปเรื่อยๆ ตามกำลัง สูงสุดไม่เกิน 50% ของรายได้...การเก็บแบบนี้ถ้ามีเงินเดือน..ให้หักจากเงินเดือน..เช่น การออมโดยการซื้อหุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ โดยให้หักจากเงินเดือน..
2. สร้างรายจ่ายทางอ้อมซึ่งเป็นการบังคับการออม เช่น การซื้อประกันชีวิต เริ่มต้นจากประกันชีวิตประเภทคุ้มครองก่อน ซึ่งจะจ่ายเบี้ยประกันต่ำ และคุ้มครองสูง...แล้วตามด้วยประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์..วางแผนซื้อประกันชีวิตเพิ่ม ๒ ปี ๑ กรมธรรม์ ซึ่งส่วนใหญ่การส่งเบี้ยประกันชีวิตจะอยู่ประมาณ 10-20 ปี..จะได้มีเงินหมุนเวียนกลับมาซื้อประกันชีวิตใหม่..เนื่องจากมีแบบประกันหลายแบบและหลายบริษัท..ควรรู้จัดเปรียบเทียบราคา โดยการทำ IRR (Internal Rate of Return : อัตราผลตอบแทนภายใน คือ การประเมินว่า “การลงทุนให้อัตราผลตอบแทนเท่าใด” โดยสามารถหาอ่านความรู้ได้ใน Internet และสามารถเปรียบเทียบกันได้โดยโปรแกรม excel
3. เมื่อมีอะไรเข้ามาในชีวิต ให้หยุดคิดก่อน ที่จะดำเนินการอะไรต่อไป...เช่น การคิดให้รอบคอบก่อนใช้เงิน..ให้ตั้งคำถามว่า ของที่เราต้องการนั้นนั้นมัน "จำเป็น" หรือ "อยากได้"
4. เมื่อมีเงินออมจำนวนหนึ่ง..ซึ่งมากพอสำหรับค่าใช้จ่าย 6-12 เดือน ขึ้นไปแล้ว ต่อไปให้แบ่งรายได้มาอีก 10% เป็นเงินกองทุนสำหรับจะไปลงทุนในที่ต่างๆ โดยให้กระจายความเสี่ยงไปในสินทรัพย์ทีละตัว จนครบ ๑๐ ตัว... เริ่มจากน้อยไปมาก..จะไม่เอาเงินออม (จากข้อ ๑) มาใช้เพื่อการนี้
5. ใช้หลักการแปลง รายจ่ายให้เป็นรายได้ รายจ่ายบางอย่าง เช่น จ่ายเบี้ยประกันชีวิต เราจะไม่ใช้เงินสดจ่าย แต่จะใช้บัตรเครดิต เพราะจะมีส่วนลดและสะสมคะแนน..ซึ่งจะแปลงมาเป็นเงินได้..การจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต ทำให้เงิน 100 บาท มีค่ามากกว่า 100 บาท หรือพูดอีกอย่างว่า จ่ายเงินด้วยบัตรพลาสติกดีกว่าจ่ายด้วยเงินสด
6. ถ้าไม่มีภูมิต้านทานหรือไม่มีความรู้เรื่องบัตรเครดิต...ห้ามใช้บัตรเครดิต..เพราะถ้าใช้ไม่เป็น มีสิทธิ์ล้มละลายได้...หลักการคือ..เมื่อจะใช้จ่ายบัตรเครดิต...ต้องมีเงินสำรองจ่ายทันที 100% ของมูลค่า...และเมื่อถึงกำหนดการจ่าย...ต้องจ่ายตรงเวลา และจ่ายเต็มมูลค่า 100% ห้ามผ่อนชำระเด็ดขาด
7. จงระลึกไว้เสมอว่า "อย่าประมาท" โดยเฉพาะการใช้เงิน...เตือนสติตนเองไม่ให้ความโลภมาครอบงำชีวิต...อย่าเป็นทาสแก่อำนาจของเงิน...
8. หลักการหนึ่งของ..พลอากาศตรีบุญเลิศ จุลเกี่ยรติ...กล่าวไว้ว่า "จงตอดเหยื่อ โดยไม่ฮุบเบ็ด" ...หมายความว่า..ในวงการธุรกิจ เขาจะเอาเหยื่อมาล่อเราเสมอ...ให้เรามีสติรู้เท่าทัน (คิดให้ทัน..เพราะเขาพูดความจริงไม่หมด)..แล้วเราจง "ตอดเหยื่ออันโอชะโดยที่ไม่โดนเบ็ดเกี่ยวปาก" (หลายบันทึกในซี่รี่นี้ใช้หลักการนี้)
9. ถ้าคิดจะกู้เงิน...ให้เอาเงินไปฝากก่อน...แล้วค่อยกู้เงินตัวเอง..ตัวเราจะเป็นทั้งเจ้าหนี้และลูกหนึ้..ทำอย่างนี้จะเป็นการให้เงินทำหน้าที่แทนเรา..
10. การลงทุนแบบซื้อมาขายไป...จะซื้อเท่าไหร่..ให้ใช้หลักการ "การตลาดนำการผลิต" คือ เราต้องหาตลาดก่อนว่ามีออร์เดอร์ในมือเท่าไหร่แล้วค่อยลงทุน ทำได้อย่างนี้ได้..ไม่มีวันขาดทุน

ครบ 10 ข้อแล้ว..ขอจบเพียงเท่านี้

ตึ๋งหนืด (อ.บีแมน)
หอพักมน.นิเวศ3
วันเที่ยว ตรุษจีนปีลิง-วอก
วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2559

[ศิริพร สุขสำราญ]

เป็นความคิดที่ดีมากๆค่ะ หนูชื่นชอบมากๆ

[beeman 吴联乐]

1. สวัสดีครับ คุณ ศิริพร สุขสำราญ..ชื่อนี้คุ้นๆ ครับ..เป็นนักกีฬาเทควันโด และ เป็นคุณแม่มือเก่า..อิอิ (ถ้าผิดพลาดต้องขออภัยครับ)
2. ความคิดเห็นเป็นกำลังใจให้สร้างผลงานต่อไป...นี่เป็นการกลั่นหลักคิด เขียนบันทึกออกมาสดๆ เลยครับ..