อ่านหนังสือแปล ครอบครัวตึ๋งหนืด หนังสือแปลภาษาเกาหลี ของนานมีบุ๊คส์ ทำให้เกิดไอเดียบรรเจิด..ว่า เรามีไอเดียดีๆ เป็นเคล็ดลับความประหยัดหลายเรื่อง น่าจะนำมาเขียนเป็นตอนๆ ตามโอกาสอำนวย
สืบเนื่องจากที่ผมทำงานมา ๒๐ กว่าปี ขณะนี้เงินเดือนถึงระดับที่ "คงที่" มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2548 แล้ว..อิอิ จะครบวาระ ๔ ปี ในเดือนตุลาคม ๒๕๕๒ และจะเป็นเช่นนี้ไปอีก ๑๐ ปี..ที่จริงมีวิธีการที่จะเพิ่มเงินเดือนโดยการทำผลงานต่างๆ ในระบบระเบียบราชการ แต่ผมเลือกที่จะไม่ทำ "ผมเลือกที่จะหยุดเงินเดือน" ไว้เพียงเท่านี้....
เหตุผลที่ผมบอกตัวเองก็คือ เราต้องหัดเป็นคนรู้จักพอ รู้จักหยุดความอยาก หากเงินเดือนเพิ่มไปเรื่อยๆ เราก็จะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น เราก็จะขยายความอยากไปเรื่อยๆ จะมีคนมาชักชวนให้เรามีเครดิตต่างๆ มากขึ้น หรือเพิ่มวงเงินเครดิตให้เราอีกมากๆ
ผมมีบ้าน (มากกว่า ๑ หลัง) มีรถ (มากกว่า ๑ คัน) และปัจจัย ๔ ครบแล้ว หากผมมีเงินเพิ่มขึ้น ผมก็คงอยากได้บ้านใหม่ใหญ่กว่าเดิม รถคันใหม่แพงกว่าเดิม และอะไรอื่นๆ อีกจิปาถะ แล้วถ้าตอนเราถูกลดเงินเดือนลง (ยามเกษียณ) และต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอีก เราคงจะลำบากน่าดู
ยอมลำบากวันนี้เพื่อความสบายในวันข้างหน้าดีกว่า.....
สมมุติว่า ผมมีเงินเดือน ๓๐,๐๐๐ บาท (เลขกลมๆ) ปีหนึ่งผมก็มีรายได้ ๓๖๐,๐๐๐ บาท ถ้าผมเสียภาษีเงินได้อีกเล็กน้อย ปีละ ๕,๐๐๐ บาท คิดเสียว่าเอาเงินส่วนเกินไปจ่าย ตกลงคิดง่ายๆ ว่าได้เงินเดือนเต็มเดือนละ ๓๐,๐๐๐ บาท...
ผมจะมีสูตรคิดเรื่องการเงินดังนี้ : รายเหลือ=รายได้-รายจ่าย... ขณะนี้ผมมีรายจ่ายหักเงินเดือนอยู่ ๒/๓ ของเงินเดือน (สมมุติว่าผมมีรายได้แค่เงินเดือนอย่างเดียวไม่มีรายได้พิเศษอื่น) เมื่อเป็นดังนี้ ผมจะเหลือเงินตอนต้นเดือนเพียง ๑๐,๐๐๐ บาท
เงินเหลือ ๑๐,๐๐๐ บาท ผมแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวครึ่งหนึ่งคือ ๕,๐๐๐ บาท (ค่าใช้จ่ายของกองกลาง) ส่วนอีก ๕,๐๐๐ บาทเอาไว้ใช้ส่วนตัว ซึ่งมีดังนี้
โปรดติดตามตอนต่อไป....
(เพิ่มเติม เมื่อ 20 มิ.ย.2556) ผมลืมบอกไปว่า พอเงินเดือนออก ผมจะให้สหกรณ์ออมทรัพย์ฯหักเงินเดือน เอาไปซื้อค่าหุ้นเพิ่มประมาณ 7% ของเงินเดือน นั่นเป็นเมื่อตอนปี 2552
แต่พอปี 2556 ผมให้สหกรณ์หักไปซื้อหุ้น 12.5 % ซึ่งส่วนนี้ถือเป็นเงินออม เป็นเพราะว่าพอระบบเงินเดือนเป็นระบบแท่ง (ปี ๒๕๕๔) แล้ว ผมได้เงินเดือนเพิ่มปีละ ๒ ครั้ง..ซึ่งเพียงพอต่อค่าครองชีพที่เพิ่ม และตอนนี้เงินเดือนใกล้หลัก ๔ หมื่น..
มนุษย์ผึ้งมหัศจรรย์ |
ความหมายของรายเหลือของคุณไม่ใช่เงินเก็บหรอกหรือ ในเมื่อมีรายจ่ายอยู่แล้วนี่ คงเป็นเพราะยังไม่ค่อยเข้าใจ เลยคิดว่ารายเหลือของคุณซ้ำกับรายจ่ายนะ
จะรอติดตามทุกตอนเลยครับ
อ.ต๋อย ทำให้ผมกลับมาอ่านบันทึกแรก ซึ่งเขียนไว้เมื่อ 7 ปีที่แล้ว...เรื่องราวต่างๆ ยังคงคล้ายแบบเดิม แต่หลักคิดก็เปลี่ยนแปลงไปบ้าง...ตอนนี้ต้องปรับตัว "ตอดเหยื่อ โดยไม่ฮุบเบ็ด" ดังจะได้เขียน "ครอบครัวตึ๋งหนืด" ตอน ถัดไป