18 ปี ชมรม ปนน. มหาวิทยาลัยขอนแก่น


หยุดสุดสัปดาห์ ผมมีกำหนดเดินทางไปเพื่อรอประชุมที่ ทปอ. อาคารสำนักงาน สกอ. ในวันจันทร์ เดิมทีวางแผนจะออกเดินทางวันอาทิตย์ ครูชินกร เจ้าของที่พักแจ้งตอนเข้ากรุงเมื่อคราวก่อนว่า ช่างโต จะเข้า กทม. เช้าวันอาทิตย์ ถ้าพี่ยอดเดินทางมาวันเสาร์ก็น่าจะดีเพราะจะได้เจอกัน วันไปจองตั๋วโดยสารจึงกำหนดเดินทางวันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม 58 เวลา 11.00 น. วันพฤหัสฯ น้องๆชมรม ปนน. โทรแจ้งว่า ชมรมจะทำบุญอำลาที่ทำการชมรม เพราะมหาวิทยาลัยให้ย้ายขึ้นไปอยู่อาคารกิจกรรมนักศึกษาหลังใหม่ ก่อนวันที่ 15 ตุลาคม 58 เลยถือโอกาสจัดงานทำบุญเลี้ยงพระในภาคเช้า และรวมตัวทำกิจกรรมในภาคค่ำเพื่ออำลาบ้านหลังเดิม ตกค่ำๆวันพฤหัส ฯ ครูอภิเศก ประธานชมรม ปนน. ปี 2548 ก็แชทเฟสบุ๊คมา ถึงเรื่องงาน และทำทีว่าจะมา ผมแจ้งว่าผมจะเข้ากรุง ครูเศก ทัดทานผมว่า ก็ไปเลื่อนเที่ยวรถหรือไม่ก็บริจาคตั๋วแล้วซื้อใหม่ อีกทาง ชมรมพัฒนาผู้นำ ก็จะจัดรวมพลพบปะในช่วงเย็นวันที่ 10 ตุลาคม 58 พร้อมกับทำบุญเลี้ยงเพลพระในวันที่ 11 ตุลาคม 58 ผมจึงรีบไปเลื่อนเที่ยวรถเป็นวันที่ 11 ตุลาคม 58 เวลา 10.30 น. เพื่อหวังว่าจะได้อยู่ร่วมกิจกรรมอำลาชมรมทั้งสอง

เช้า วันที่ 10 ตุลาคม 58 ปนน. ทำบุญเลี้ยงพระเสร็จ ทานข้าวร่วมกัน ลานหน้าชมรม ก่อนกลับ น้องๆขอให้ประธานเก่าทั้ง 3 คน คือ ผม (ปี 47) ออมสิน (ปี 52) บอย (ปี 54) พูดคุยเพื่อเล่าให้น้องๆฟังสั้นๆ ผมเล่าสั้นๆ ว่าเราย้ายที่ทำการชมรมมาอยู่ที่ปัจจุบันเมื่อปี 2547 ก่อนหน้านั้นเราอยู่ที่ตึกแฝด ชั้น 2 ห้องชมรมเดิมคับแคบ และที่ตรงนี้ เดิมเป็นของชมรมอาสาสาธารณสุข ซึ่งยุบเลิกไปแล้ว เราจึงขอมหาวิทยาลัยย้ายที่ทำการลงมา ผมจึงเป็นประธานชมรมคนแรกที่พาชาว ปนน.มาอยู่ที่นี่ จำได้ลางๆในใจว่า ตื่นเต้นที่ได้ทำบุญย้ายชมรมในวันนั้น และไม่เคยคิดว่า จะต้องมาทำบุญย้ายชมรมในวันนี้ ก็ดูจะต้องเศร้าอีกวาระ ป้าย ต้นไม้ และลานกว้างที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ต่อไปก็เหลือไว้เพียงความทรงจำ

ออมสินพูดสั้นๆ ว่า "แม้จะต้องย้ายที่ แต่อุดมการณ์และปณิธานยังอยู่กับพวกเราเสมอ"

บอย จึงกล่าวสั้นกว่าว่า "ก็เหมือนพี่ออมสินว่า"

หลังกลับจาก ปนน. ถึงห้องพักก็ตั้งไลน์กลุ่มประธานชมรม ปนน. เพื่อเอาไว้แจ้งข่าวกัน ผศ.ดร.อิศรา ก้านจักร (อ.ต้า) ก็ทำท่าตกใจ ว่านี่เราครบรอบ 18 ปีแล้วเหรอ อ.ต้า เป็นประธานชมรมคนที่ 3 เมื่อปี 43 เราก็ทะยอยค้นหาไลน์ของประธานแต่ละปีให้มาอยู่ในกลุ่ม (ในใจลึกๆอยากให้ครบทั้ง 18 คนไวๆ)


ในภาคค่ำ กิจกรรมเริ่มด้วยการพบปะของสมาชิก โดยเฉพาะ เมื่อผมมาถึง ก็ได้รับหน้าที่สำคัญคือการเล่าถึง ปนน. ในวันที่อายุครบ 18 ขวบ ว่า18 ปีที่ผ่านมา ปนน. เกิดขึ้นและดำเนินอยู่มาอย่างไร (ถ้าเป็นสุนทรพจน์ก็ถือว่าเป็นการพูดรอบฉับพลัน) ... ผมจึงเล่าว่า ชมรม เกิดจากพี่ๆ หลายๆคณะ เมื่อปี 2540 คงอยากทำกิจกรรมและมีอุดมการณ์ร่วมกัน เริ่มเป็นตัวตนและตั้งชมรมเมื่อปี 2541 จึงมีประธานชมรม 18 คน ผมก็ไล่ชื่อประธานชมรม/คณะ ให้น้องๆฟัง (ให้บอยช่วยเสริมรุ่นหลังๆ) แต่ที่เล่ามากหน่อยคือ ค่ายตัวอย่าง ที่ไม่ค่อยดีในอดีตให้เป็นบทเรียน น้องๆก็ดูสนใจเรื่องดี มีค่ายผีสิง ที่อาจจะไม่ใช่ผีเมื่อหาคำตอบเจอ ค่ายที่มีพี่ค่ายมากโขแต่น้องค่ายไม่กี่คน ค่ายที่พี่ค่ายเกิดความเห็นต่าง/ขัดแย้งกัน แต่หัวใจสำคัญก็กลับมาที่ตั้งชมรมว่า จริงๆ ชมรม ปนน. ก่อนหน้าอยู่ตึกแฝด และย้ายมาที่ปัจจุบัน หากคราวนี้ที่จะต้องย้ายขึ้นไปอาคารใหม่ ก็คงเป็นเรื่องสัจธรรม เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นธรรมดา ระหว่างเล่าเรื่อง ผมถอนแว่นเล่า ทำให้มองไม่ชัดว่าน้องๆมีสีหน้าอย่างไร มีเสียงหัวเราะเป็นช่วงๆ แต่ไม่แน่ใจว่าสนุกจริงหรือไม่ ถอดแว่น ก็เพราะการเล่าเรื่องในอดีตมันดูเป็นเรื่องเลือนราง ดูไม่ค่อยชัดนัก เหมือนคนสายตาสั้นถอดแว่น เรื่องราวที่อยู่ต่อหน้าจึงอาจไม่ค่อยชัดเจน แต่ไม่ได้บอกน้องๆนะว่าถอดแว่นทำไม การยืนพูดให้คน 50 คนนั่งฟังเรื่องราวในอดีตก็ดูแปลกอีกเรื่อง แต่คนเล่าและคนฟังต้องอินตามเนื้อเรื่องถึงจะสนุก เดี่ยวไมโครโฟนครั้งนี้ ดูจะแปลกกว่าทุกครั้ง แต่สุขใจมากที่ได้เล่าให้ฟัง เรื่องราวจาก ปนน. ประตูแดง ในอดีตถึงปัจจุบัน และ จากห้องแคบ สู่ห้องกว้าง และอีกสักหน่อยก็จะกลายเป็นห้องแคบฯ

อ้อมใหญ่กล่าวว่า "คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก ขอให้กำลังใจน้องๆ ส่งต่ออุดมการณ์"

บอย กล่าวว่า ".............." ผมจำไม่ค่อยได้ ซึ้งในคำพูด จนลืมที่นะจดจำคำ หากมีโอกาส ก็อยากให้บอยได้มาเติมคำในช่องว่าง

หลังจากรุ่นพี่ๆสี่ห้าคนกล่าวแล้ว ก็มีกิจกรรมพิธีเทียน จุดประสงค์ (ตามที่เก๋ อธิบายให้ผมฟังคร่าวๆ) ก็เพื่อส่งต่ออุดมการณ์จากรุ่นพี่ไปสู่รุ่นน้อง ทุกๆคนจุดต่อเทียนคนละหนึ่งเล่ม แล้วเอาไปปักไว้ที่กะบะที่ทำเป็นรูปบ้าน "ปนน."

ผมถูกให้ทำหน้าที่ พูดโยงเข้าสู่การร้อง "เพลงค่าย" สามสี่เพลง ผมต้องเป็นต้นเสียงเพลง "เราชาว ศนน." แต่ก่อนขึ้นต้น ผมกล่าวคำข้างล่างถัดจากนี้ว่า ผมเคยแต่งบทกลอนในพิธีอำลาพี่ปี 4 //บาย'เนียร์ เมื่อประมาณเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์ 2546 ในฐานะพิธีกร ว่า

ปนน. สร้างคนสร้างชาติ

ปนน. สร้างโอกาสการศึกษา

ปนน. สร้างสรรค์เพื่อประชา

ปนน. นำพาสิ่งดีสู่สังคม

และเคยมีเพลงชมรมที่ถูกแต่งขึ้นโดยรุ่นพี่ แต่ไม่ค่อยถูกนิยมร้อง และเลือนหายไป เพลงนั้นขึ้นต้นเพลงว่า "สร้างพลังให้กับดวงใจ จุดดวงไฟให้กับความฝัน อย่าท้อแท้ให้เธอฝ่าฟัน ยิ้มรับมันกับวันที่เป็นจริง ฯ"

และเพลงที่ทุกๆคนที่มาอยู่ ปนน. และจะต้องร่วมกันร้อง พร้อมๆกับการถูกถ่ายทอดและส่งต่ออุดมาการณ์มาตลอด คือเพลง เราชาว ศนน. ที่ทุกๆคำ ทุกๆประโยค คงได้รับการบรรจงแต่งเพื่อส่งต่ออุดมการณ์ หากใครใส่ใจและลองตรึกตรองในเนื้อหา บางท่อนที่นำมาพูดให้ฟังวันนี้คือ

มาเถิดน้องพี่มีใจร่วมกัน เพื่อสร้างเพื่อสรรต่อเติมฝันเพื่อวันข้างหน้า ก้าวมุ่งต่อไป จุดหมายเพื่อมวลประชา บุกบั่นฟันฝ่า เพื่อนำพาสังคมที่ดี ....... ชาว ศนน. ไม่ท้อชีวี ปณิธานที่มีอุทิศตนเพื่อคนของชาติ จุดเทียนดวงไฟ แด่น้องผู้ด้อยโอกาส สมหวังดังวาดปรารถนานำพาสู่ชัย ฯ

แล้วบทเพลงค่ายก็ถูกขับขานพร้อมๆกันในชมรม เพื่อตอกย้ำและส่งต่ออุดมการณ์ พร้อมๆกับเพลงมหาวิทยาลัยอย่าง "ร่มกาลพฤกษ์" และ BOOM KKU

บันทึกขณะเดินทางจาก ขอนแก่น -กรุงเทพฯ และจาก กรุงเทพฯ-ขอนแก่น 11-12 ตุลาคม 2558

ฟังเพลงเราชาว ศนน. นะครับ เผื่อคิดถึง

ปล. ถนนมิตรภาพขณะซ่อมแซมพื้นผิวถนน ทำให้การเดินทางถูกยืดออกไปอีกมากโข ขาเข้าใช้เวลา 10.30-18.00 น. ขอนแก่น-รังสิต ขาออกก็คงไม่ต่างกัน

ปล. 2 ขอสดุดีแด่พี่ๆนักกิจกรรมชาว ศนน. และ ปนน. ด้วยจิตคารวะ

ปล. 3 ชมรม ปนน. = ชมรมประสานงานนักศึกษาเพื่อน้องผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา ศนน. = ศูนย์ประสานงานนักศึกษาเพื่อน้องผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา (ชื่อเดิม)

หมายเลขบันทึก: 596193เขียนเมื่อ 14 ตุลาคม 2015 09:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม 2015 16:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท