คืนก่อนทำพิธี...บรรจุพระพุทธรูปและพระไตรปิฎกไทย-พม่าในองค์เจดีย์


ผู้เขียน นั่งฟังสำเนียงเสียงการสวดมนต์ของสาวพม่ากลุ่มนี้จนเพลิน แม้นจะฟังไม่ออกแต่อรรถรสของเสียงสวดมนต์นี้..มันมีพลังและมีอานุภาพที่ซุกซ่อนอยู่อย่างน่าอัศจรรย์ใจนัก..ผู้เขียนรู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ.....

จากวันนั้นวันที่ 18 กันยายน 2556 จนกระทั่งถึงวันนี้ 9 สิงหาคม 2557 เกือบ 1 ปีแล้วที่การก่อสร้างมหาวิทยะเจดีย์ได้คืบหน้าไปเรื่อย ๆ จากรากฐานองค์เจดีย์ที่เล็ก ๆ จนกระทั่งเติบโตขึ้นเป็นองค์เจดีย์ที่เกือบจะสมบูรณ์

ผู้เขียนได้เห็นร่องรอยของการร่วมมือร่วมใจระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นคนไทยในพื้นที่บริเวณวัดโมกขธรรมารามที่เปิดโอกาส และเปิดใจ ยอมรับการสร้างเจดีย์แห่งนี้ ได้เห็นการร่วมอนุโมทนาบุญกุศลในสร้างเจดีย์ระหว่างคนไทย คนมอญ และคนพม่า ซึ่งตัวผู้เขียนเองนั้นได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์และติดตามความเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปรับบริจาคเงินสร้างเจดีย์ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดใกล้เคียง อย่างเช่น จังหวัดชุมพร ระนอง และนครศรีธรรมราช หรือในกิจกรรมอื่น ๆที่เกี่ยวข้องด้วย เป็นต้น

อีกทั้งยังได้เห็นและซึมซับหัวใจที่น้อมนำไปด้วยความเคารพ ความศรัทธาและความเลื่อมใสในร่มโพธิ์ของพระพุทธศาสนาที่เย็นชื่นหัวใจ... อย่างบอกไม่ถูก

..

ภาพถ่าย : ยอดจำลองเจดีย์พุทธคยา บนหลังคาโบสถ์วัดโมกขธรรมาราม ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี กลางวันของวันที่ 9 เดือนสิงหาคม 2557 วันก่อนทำพิธีบรรจุบรรจุพระพุทธรูปและพระไตรปิฎกไทย-พม่า ในองค์มหาวิทยะเจดีย์ที่กำลังสร้างขึ้นภายในวัดแห่งนี้

..

ในวันที่ 9 สิงหาคม 2557 นี้ ช่วงกลางวันนั้นเป็นวันที่ได้จัดเตรียมพิธีการต่างๆ เพื่อที่จะใช้ประกอบในพิธีกรรมทางศาสนาของวันรุ่งขึ้น

การจัดเตรียมความพร้อมต่าง ๆ จากที่ได้เห็นนั้น มีเช่น การล้อมองค์เจดีย์ด้วยไม้ไผ่(ที่ทำไว้ก่อนหน้านี้หลายวันแล้ว) การทำบันไดขึ้นองค์เจดีย์ด้วยภูมิปัญญาของคนพม่า การจัดเตรียมเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ ตามความเชื่อทางศานาของคนพม่า และอื่น ๆ อีกหลาย ๆอย่าง

ภูมิปัญญาการล้อมองค์เจดีย์ด้วยไม้ไผ่ และการทำบันไดขึ้นองค์เจดีย์นี้ ตัวผู้เขียนมีความรู้สึกว่าจะคล้ายคลึงกับของคนไทย เพราะจะใช้เชือกเป็นตัวยึดทั้งหมด มีเพียงบันไดเท่านั้น ที่ถูกตอกลงด้วยตะปูตัวเขื่อง เพื่อป้องกันการไหลลื่นของไม้แผ่น และที่สำคัญคือ เป็นหัวใจสำคัญของการขึ้นไปวางพระพุทธรูป และพระไตรปิฏก ในองค์เจดีย์

..

ภาพถ่าย : การตรวจความเรียบร้อย และความแข็งแรงของไม้ไผ่ที่ล้อมองค์เจดีย์ และจากภาพมีการเตรียมเครื่องเซ่นไหว้ในงานพิธีไว้ล่วงหน้า 1 วัน พร้อมกับมีการประดับธงศาสนาทั้งของไทย และของพม่า ไว้บนองค์เจดีย์

..

บริเวณข้าง ๆ องค์เจดีย์ นั้น ได้กางเต้นท์เพื่อตั้ง เครื่องพิธีกรรมทางศาสนาไว้ พร้อมกับ อาสนะสำหรับพระภิกษุสงฆ์เพื่อทำพิธีในวันรุ่งขึ้น

ตัวผู้เขียนได้เห็นการจัดเรียงพระพุทธรูปทั้งของคนไทย และคนพม่า ไว้เป็นแถวเป็นแนวจำนวนหนึ่ง มีโต๊ะหมู่บูชา และที่ตั้งของสำคัญในวันงานพิธี บริเวณนี้ส่วนหนึ่งก็จะมีพระพุทธรูปของไทยซึ่ง เป็นพระพุทธรูปทองเหลือง ขนาดสูงประมาณไฟแช็คแก๊ส ที่ใช้จุดสิ่งของต่าง ๆ ขนาดความสูงประมาณ 8-10 ซ.ม. ตั้งรวมอยู่ด้วย

..

ภาพถ่าย : พระพุทธรูปของไทย วางเตรียมพร้อมเพื่อทำพิธีในเช้าวันรุ่งขึ้น

..

ส่วนพระพุทธรูปของพม่านั้น เป็นพระพุทธรูปหยกขาว ขนาดความสูงไม่ต่างกันกับพระพุทธรูปทองเหลืองของไทยมากนัก ผู้เขียนเดินเข้าไปดูก่อนที่จะถูกนำมาจัดวาง ในเต้นท์พิธี ใกล้ ๆ กับพระพุทธรูปทองเหลืองของไทย

..

ภาพถ่าย : พระพุทธรูปหยกขาวเรียงไว้ ก่อนที่จะถูกนำมาจัดวางใกล้กันกับพระพุทธรูปทองเหลืองของไทย ในบริเวณเต้นท์พิธีกรรมทางศาสนา

..

ผู้เขียนยังได้เดินสำรวจ บริเวณโดยรอบสถานที่พร้อมกับกรรมการสร้างเจดีย์ชาวพม่าท่านหนึ่ง.. ซึ่งเขาได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า..ที่ประเทศของเขานั้น การเข้าไปในโบสถ์ถือเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับผู้หญิงพม่าเป็นอย่างยิ่ง เพราะเขาบอกว่า..โบสถ์นั้นถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ใช้ประกอบพิธีทางศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง และทุกพิธีกรรมทางศาสนานั้น ผู้หญิงพม่าทุกคนไม่สามารถเข้าได้ เขาเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ..เคยมีผู้หญิงพม่าเข้าไปในโบสถ์ขณะประกอบพิธีกรรมทางศาสนาคราวหนึ่ง.. สุดท้ายเธอก็ถูกฟ้าผ่าตาย เขาเล่าให้ผู้เขียนฟังอย่างเป็นจริงเป็นจัง แม้กระทั่งทุกวันนี้.. ผู้หญิงพม่าทุกคนก็ยังคงปฎิบัติเช่นนี้เสมอมา ...

แต่ที่เมืองไทยนั้น....ไม่มีข้อห้ามเช่นนี้

มิน่าละ!! เธอถึงนั่งอยู่ภายในโบสถ์ของวัดแห่งนี้...นานเป็นพิเศษ

หรือว่า!! ที่เธอเหลือบมองขึ้นไปข้่างบนนั้น... เธอมองเมฆฝนที่ตั้งเค้ามาหรือเปล่า? ซึ่งผู้เขียนมิอาจรู้ใจของเธอได้?

..

ภาพถ่าย : หญิงสาวชาวพม่าคนหนึ่งที่เดินเข้าไปกราบพระประธานภายในโบสถ์วัดโมกขธรรมาราม กำลังยืนมองบริเวณโดยรอบของวัดผ่านประตูหน้าต่างของโบสถ์

..

ภาพถ่าย : องค์เจดีย์ ยามตะวันบ่าย ก่อนที่จะมีการรวมพุทธศาสนิกชนชางพม่า และชาวไทยบางส่วน เข้ามาภายในบริเวณโบสถ์เพื่อทำพิธีทางศาสนาในช่วงพลบค่ำ

..

ช่วงเย็นจะเป็นช่วงที่ผู้คนเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาที่วัด เพื่อร่วมในพิธีกรรมทางศาสนา มีผู้คนทั้งบริเวณรอบองค์เจดีย์ และภายในพระอุโบสถของวัด ที่เดินชมสิ่งที่พวกเขาเคารพสักการะซึ่งมีทั้งพุทธศาสนิกชนชาวพม่า และชาวไทย ที่ต่างรอคอยพิธีกรรมดังกล่าวที่จะมีขึ้นอีกในไม่ช้า

ไม่นานนักผู้เขียนก็สังเกตเห็นกลุ่มสาวชาวพม่ากลุ่มหนึ่ง ที่เดินทางเข้ามาภายในบริเวณโบสถ์ โดยที่พวกเธอนั้นแต่งกายที่สุภาพมาก ๆ คือ นุ่มผ้าถุงสีน้ำตาล ใส่เสื้อสีขาว พร้อมกับมีผ้าสีน้ำตาลห่มเฉียงคลุมไหล่อยู่ ผู้เขียนคิดในใจว่า..ตัวเองนั้นไม่ค่อยได้เห็นความงามและเป็นระเบียบเรียบร้อยของคนพม่าที่เป็นกลุ่มเป็นก้อน เรียบร้อยอย่างนี้บ่อยนัก

..

ภาพถ่าย : กลุ่มหญิงสาวชาวพม่า ที่ทำหน้าที่สวดมนต์ ในพิธีกรรมทางศาสนา (แต่งตัวรีบร้อยมาก) ตามประเพณีของคนพม่า

..

พวกเธอเหล่านี้นั้น...เข้ามานั่งกันภายในโบสถ์อย่างเรียบร้อย จนผู้เขียนทราบจากกรรมการสร้างเจดีย์ ว่า...พวกเธอเดินทางมาเพื่อทำหน้าที่สวดมนต์ ในพิธีกรรมทางศาสนาครั้งนี้

..

ภาพถ่าย : บรรดาพุทธศาสนิกชนที่เดินทางเข้ามาภายในบริเวณโบสถ์ของวัดโมกขธรรมาราม ก่อนที่พิธีสวดมนต์จะเริ่มขี้น

..

เป็นพิธีกรรมทางศาสนาของชาวพม่าที่เรียบง่าย ในคืนวันก่อนที่จะบรรจุพระพุทธรูปและพระไตรปิฎกไทย-พม่า ขึ้นองค์เจดีย์

ผู้เขียน นั่งฟังสำเนียงเสียงการสวดมนต์ของสาวพม่ากลุ่มนี้จนเพลิน แม้นจะฟังไม่ออกแต่อรรถรสของเสียงสวดมนต์นี้..มันมีพลังและมีอานุภาพที่ซุกซ่อนอยู่อย่างน่าอัศจรรย์ใจนัก..ผู้เขียนรู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ

..

และเมื่อมองออกไปที่บริเวณองค์เจดีย์..ในขณะที่ทำพิธีสวดอยู่นั้น

ได้มีพระภิกษุสงฆ์พม่าได้ทำพิธีการเซ่นไหว้ เทพยดา. เจ้าที่เจ้าทาง.. ให้มาปกปักษ์และดูแลรักษาองค์เจดีย์แห่งนี้... ให้บริสุทธิ์พร้อมที่จะเข้าสู่พิธีกรรมในวันรุ่งขี้นต่อไป

..

ภาพถ่าย : ข้าวของเครื่องเซ่นไหว้ทางศาสนา ..ความเชื่อของคนพม่า ในคืนวันก่อนทำพิธีบรรจุพระพุทธรูปและพระไตรปิฎก ในองค์เจดีย์ ภายในบริเวณวัดโมกขธรรมาราม

..

ตอนหน้า...พีธีกรรมบรรจุพระพุทธรูป และพระไตรปิฏก ลงในองค์เจดีย์

..



ความเห็น (5)

คุณแสงครับ

เห็นพลังของการร่วมมือกันทั้งไทยและพม่าเลย

สาธุๆครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท