หน้าแรก
สมาชิก
ดร. ดิศกุล เกษม...
สมุด
กศน.เพื่อนเรียนรู...
บันทึกดูงานประเทศ...
ดร. ดิศกุล เกษมสวัสดิ์
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
บันทึกดูงานประเทศอังกฤษ ดร.สุชิน ลิขิต ดิศกุล อยู่ในทีม
วันที่ ๒๑ กันยา ๒๕๔๙ ไปเมือง Coventry ดูงานที่ BECTA
วันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๔๙
คณะเดินทางโดยรถไฟไปยังเมือง
Coventry
แต่เช้า ใช้เวลาเกือบ ๑ ชั่วโมงก็ถึงแล้ว หลังจากนั้นจึงนั่งแทกซี่ไปยังบริเวณ
science park
แห่งมหาวิทยาลัย
Warwick
ซึ่งสำนักงานขององค์กรเป้าหมายที่เดินทางไปศึกษาดูงาน คือ
British Educational Communications and Technology Agency (BECTA)
ตั้งอยู่ แต่ก็นับเป็นองค์กรอิสระจากมหาวิทยาลัยแห่งนั้น
บริเวณสำนักงานปลูกต้นไม้ไว้สวยงามทีเดียว
Chrisine Lewis
ผู้ช่วยผู้อำนวยการให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ เข้ามาให้ข้อมูลตลอดทั้งวันเลยทีเดียว เริ่มด้วย
Christine
ให้ข้อมูลว่า
BECTA
เป็นองค์กรของรัฐที่รับผิดชอบศึกษาเรื่อง
ICT/e-learning
เพื่อตอบสนองแผน ๕ ปีของกระทรวงศึกษาธิการ ส่งเสริมการศึกษาในโรงเรียน ส่งเสริมการศึกษาสำหรับเด็ก และผู้ใหญ่ (อายุมากกว่า ๑๖ ปี) รวมไปถึงการศึกษาต่อเนื่องในระดับอุดมศึกษา
เป้าหมายสำคัญคือการปฏิรูปการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ โดยใช้
ICT/e-learning
ปัจจุบันรัฐบาลได้ออกเอกสารนโยบายเรื่องการศึกษาต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มทักษะและโอกาสในชีวิต มีการปรับปรุงคุณภาพการศึกษา ปรับโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการ มีการรวมกลุ่มงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน รวมทั้งมีเอกสารนโยบายที่เน้นเฉพาะแต่ละกลุ่ม
(white paper)
ด้วย เนื้อหาของเอกสารเหล่านี้มีจุดเน้นคือการสร้างความเข้มแข็งของระบบ เพิ่มความลึกและความชำนาญการของกลุ่มต่าง ๆ สนองความต้องการของผู้เรียนและนายจ้าง ยกระดับคุณภาพ ส่งเสริมผู้ให้การศึกษาที่ดีอย่างหลากหลาย ปรับการลงทุนในส่วนต่าง ๆ สร้างความสัมพันธ์กับวิทยาลัยและหน่วยบริการการศึกษาอื่น ๆ เพื่อให้บริการที่ดีขึ้น
เนื้อหาสำคัญของเอกสารนโยบายได้มาจากกลุ่มผู้เรียนเป็นสำคัญ กล่าวคือเน้นความสำเร็จของผู้เรียน มุ่งตอบสนองความต้องการในชีวิตและการทำงาน ให้บริการแนะแนวและคำปรึกษาที่ดี สนับสนุนเด็กในช่วงอายุ ๑๔-๑๙ ปี และสอนโดยผู้มีความรู้ และแสดงให้นายจ้างรับรู้ว่าได้เรียนอะไรมาแล้วบ้าง
เรื่องสำคัญคือเน้น
e-maturity
ทั้งในส่วนของผู้เรียน หน่วยงาน และแรงงาน มีการตรวจสอบ กำหนดมาตรฐานคุณภาพ และการทบทวนตนเอง ใช้เทคโนโลยีในการบริหาร ให้บริการเนื้อหาความรู้ต่าง ๆ และการบำรุงรักษาระบบ
นอกจากนั้นยังกำหนด
strategic outcomes
และ
Balanced Scorecard
เปรียบเทียบศักยภาพและผลงานทางด้าน
e-maturity
ผลงานของผู้เรียนและเด็ก ความเหมาะสมกับเทคโนโลยีและระบบ ประสิทธิผล ประสิทธิภาพ ค่านิคม และการลงทุน จัดทำ
strategy map
แสดงความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ และทำให้เกิดการเรียนการสอนที่เหมาะสม
(personalization)
โดยส่งเสริมให้ครูออกแบบการเรียนสำหรับผู้เรียนแต่ละคน ใช้ข้อมูลเพื่อช่วยเหลือให้ผู้เรียนบรรลุผลสำเร็จ มีทางเลือกด้าน
digital contents
และ
learning design tools
สำหรับผู้เรียนก็ส่งเสริมให้ได้รับการยอมรับจากระบบ และมีทางเลือกทางด้าน
digital contents
ส่วนที่น่าสนใจคือเรื่อง
e-portfolio
ซึ่งเน้นการเชื่อมโยงระหว่างการเรียนด้วยตนเองที่บ้านและในหน่วยงาน มีระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ มี
learning platforms
เนื้อหาบนอินเตอร์เน็ต และเครือข่ายการศึกษาระดับชาติ
ต่อจากนั้น
Robin Englebright
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาผู้ใหญ่ในวิทยาลัยเพื่อการศึกษาต่อเนื่อง
(further education)
ว่าปัจจุบันมีนักศึกษาในวิทยาลัยประเภทนี้ซึ่งมีราว ๔๐๐ แห่งประมาณ ๔.๒ ล้านคน หรือประมาณ ๑๐% ของนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา ผู้เรียนมีอายุในช่วง ๑๖-๑๙ ปีเป็นส่วนใหญ่ เข้าศึกษาตั้งแต่ระดับ ๑ (ออกจากโรงเรียนภาคบังคับ) ขึ้นไปถึงระดับ ๓ เนื้อหาร้อยละ ๕๐ เป็นเรื่องวิชาอาชีพ ในปี ๒๐๐๔/๒๐๐๕ มีอัตราการเรียนสำเร็จ ๗๕% เป้าหมายของวิทยาลัยคือส่งเสริมการศึกษาต่อของผู้เรียน
BECTA
ส่งเสริมให้วิทยาลัยเพื่อการศึกษาต่อเนื่องใช้
virtual learning environment
เช่น
webCT
เมื่อก่อนนี้อัตรานักเรียนต่อคอมพิวเตอร์เป็น ๕
:
๑ ต่อมาภายหลังมีจำนวนนักศึกษาเพิ่มมากขึ้นอัตรานี้ก็ต่ำลง ใช้
open source
คือ
Moodle-OU
ซึ่งใช้เงินพัฒนาไปแล้วราว ๕ ล้านปอนด์ ส่วนการพัฒนาเนื้อหานั้นให้
National Learning Network
พัฒนา
learning objects
ป้อนให้กับวิทยาลัยต่าง ๆ โดยร่วมมือกับครูและภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด นอกจากนั้นยังมี
mentors
ออกไปแนะนำวิทยาลัยเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์
e-learning
ให้การสนับสนุนวิทยาลัยในการค้นหาเนื้อหาวิชาที่ต้องการและพัฒนาเนื้อหาของตนเองได้ รวมทั้งใช้สื่อของ
Open University
ส่งเสริมการทำ
e-portfolio
ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรระยะ ๓๐ ชั่วโมงสำหรับครูและผู้บริหารในฐานะเป็นการพัฒนาวิชาชีพต่อเนื่อง จัด
resource centers
ในภูมิภาคต่าง ๆ มีที่ปรึกษาให้กับครู รวบรวมกรณีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จเพื่อเป็นตัวอย่างให้ศึกษากันอย่างกว้างขวาง
Paul Wareing
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้
ICT/e-learning
ในการเรียนในสถานที่ทำงาน
(work-based learning)
ซึ่งเป็นทางเลือกสำหรับคนทำงานที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเรียนในวิทยาลัย ในปี ๒๐๐๔/๒๐๐๕ มีผู้เรียนวิธีนี้อยู่ราว ๕๑๙,๐๐๐ คน เนื้อหาเน้นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
การดำเนินงานอาศัยความร่วมมือระหว่างกลุ่มนายจ้าง ซึ่งมี
Sector Skills Councils
เป็นผู้แทน ตัวแทนของผู้จัดการศึกษาคือ
Association of Learning Providers
ส่วนตัวแทนของกลุ่มคนงานได้แก่
Union Council
ทั้งสามกลุ่มมีการประชุมหารือกันอยู่เสมอเพื่อพิจารณาแนวทางการใช้
ICT
ในสถานที่ทำงาน
Sector Skills Councils
มี ๒๕ องค์กรที่รวมตัวกันเป็น
Skills for Business Network
แต่ละองค์กรก็ช่วยกันระบุความต้องการใน
sector
ของตน
Association of Learning Providers
ปัจจุบันมีราว ๘๐๐ แห่งทำงานส่งเสริมการใช้
e-learning
ในสถานประกอบการ ให้ทุนสถานประกอบการในการทำโครงการทดลองด้านการใช้
ICT/e-learning
ไม่เกินรายละ ๕๐,๐๐๐ ปอนด์
(Learning Innovation Grant)
เป็นเงิน ๑.๕ ล้านปอนด์ รวมทั้งมีการพัฒนา
web site
ขึ้นด้วย ส่วนสหภาพแรงงานต่าง ๆ ก็ให้การสนับสนุนการเรียนรู้และเป็นผู้แทนในการจัดการศึกษาให้กับสมาชิก
BECTA
ดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับการใช้
ICT/e-learning
ในสถานที่ทำงาน สนับสนุน
e-strategy partners
เผยแพร่กรณีศึกษา รวมทั้งริเริ่มพัฒนาฐานข้อมูลและวิเคราะห์หาสิ่งที่ควรดำเนินการต่อไป ในอนาคตก็จะบุกเบิกทางด้าน
e-skills UK
โดยร่วมมือกับพันธมิตรทุกฝ่ายด้วย
Karen Diley
ซึ่งเป็น
Regional Director
ของ
Ufi
ซึ่งเป็นหน่วยงานไม่มุ่งผลกำไรที่ได้รับเงินจากรัฐบาลมาดำเนินการในลักษณะบริษัทเอกชน เพื่อสร้างรายได้นำมาเลี้ยงตนเองให้สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง จัดตั้งขึ้นเมื่อปี ๑๙๙๘ ปัจจุบัน
Ufi
นับเป็นผู้ให้บริการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะในการศึกษาต่อเนื่องที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เป็นองค์กรที่ให้บริการการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศจีน มีการจัดตั้งศูนย์บริการที่เรียกว่า
learndirect
ขึ้นเพื่อให้บริการการศึกษาตามกรอบนโยบายของรัฐบาล
ภารกิจของ
Ufi
คือช่วยผู้ใหญ่ที่มีการศึกษาต่ำกว่าระดับ ๒ หรือ
Skills for Life Qualifications
(อ่านออก เขียนได้ คิดเลขได้ และใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้) เพื่อให้มีทักษะและคุณวุฒิสำหรับการหางานทำและมีก้าวหน้าในการทำงาน โดยใช้เทคโนโลยี เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการผลิตของประเทศ ปัจจุบันมีศูนย์บริการ
learndirect
ในชุมชนต่าง ๆ ๗๗๐ แห่ง ให้บริการทั้งระบบ
online
และระบบชั้นเรียน มีการประกันคุณภาพโดย
Adult Learning Inspectorate
จากการสำรวจในปี ๒๐๐๕/๒๐๐๖ ผู้เรียนมีความพอใจบริการสูงถึง ๙๑% นอกจากนั้นแล้วยังมี
brand recognition
เกินกว่า ๘๐% ในระยะที่เปิดดำเนินการปีแรก ๆ มีการประชาสัมพันธ์ในสื่อต่าง ๆ อย่างแพร่หลายเช่นกัน
แผนกลยุทธ์ขององค์กรในช่วงปี ๒๐๐๖-๒๐๑๑ แบ่งเป็น ๓ กลุ่ม คือ การให้คำปรึกษา (
learndirect advice)
ธุรกิจ (
learndirect business)
และเนื้อหาวิชา (
learndirect courses)
ทางด้านการให้คำปรึกษานั้นได้ให้บริการไปแล้วกว่า ๓๐ ล้านครั้งนับตั้งแต่ปี ๑๙๙๘ ขณะนี้กำลังทดลองจัดบริการ
telephone guidance service
สำหรับผู้ที่มีคุณวุฒิต่ำว่าระดับ ๓ ทางด้านธุรกิจนั้นมุ่งขายผลผลิตและบริการให้แก่กลุ่มนายจ้าง
e-learning
เป็นคำตอบที่นายจ้างต้องการสำหรับใช้ในการพัฒนาบุคลากร เนื่องจากมีความยืดหยุ่น เข้าถึงได้ง่าย เรียนด้วยตนเอง มีความเป็นส่วนตัว ประเมินผลตนเองได้ และราคาไม่แพง ปัจจุบันมีผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมราว ๒๐๐,๐๐๐ รายใช้บริการของศูนย์
learndirect
นอกจากนั้นยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเพื่อให้บริการ
e-learning
ในขณะที่ผู้เรียนอยู่ในสถานที่ทำงานโดยตรง
(learning at work)
ซึ่งนำไปสู่การยกระดับความรู้ถึงระดับที่ ๔ บ้างแล้ว ปัจจุบันใน ๕ ภูมิภาคมีสัญญาการใช้บริการของ
learndirect
มูลค่า ๓.๙ ล้านปอนด์ นับได้ว่า
Ufi
มีส่วนในการแก้ปัญหาวิกฤตการณ์ทักษะฝีมือของแรงงานของประเทศอังกฤษมากทีเดียว
นโยบายจากรัฐบาลซึ่งกำหนดว่ามุ่งพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานทางด้านใด และการวิเคราะห์สถานการณ์ความต้องการของตลาดแรงงาน เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาหลักสูตรและสื่อ ปัจจุบันมีการพัฒนาหลักสูตรขึ้นเองถึงราว ๘๐% ของหลักสูตรที่มีใช้อยู่ทั้งหมด ระยะเวลาในการพัฒนาหลักสูตรและสื่อเรื่องหนึ่งประมาณ ๘-๙ เดือน เน้นคุณภาพของผู้เรียน โดยเฉพาะในด้านทักษะต่าง ๆ ตามที่อุตสาหกรรมต้องการ บางหลักสูตรเป็นไปตามข้อกำหนดในการให้คุณวุฒิของรัฐบาล บางหลักสูตรก็ไม่มีการให้คุณวุฒิ ผู้สมัครเรียนที่มีคุณวุฒิต่ำกว่าระดับ ๒ ได้รับบริการฟรี ส่วนผู้ที่มีคุณวุฒิสูงกว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง
ที่จริงกลุ่มเป้าหมายของ
Ufi
และ
UK Online
เป็นกลุ่มเดียวกันนั่นเอง ในสายตาของผู้เรียนและผู้ให้บริการบางส่วนมองเห็นว่าบริการของ
Ufi
มีความซับซ้อนและเป็นทางการมากกว่า
UK Online
ปัจจุบัน
Ufi
กำลังปรับระบบบริการเพื่อให้ผู้เรียนมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น และจำกัดขอบเขตเนื้อหาวิชาที่มุ่งสู่การยกระดับคุณวุฒิในการทำงานให้สูงขึ้นเป็นสำคัญ
Chris Swaine
กล่าวว่ารัฐบาลให้การสนับสนุนการศึกษาของผู้ที่มีอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป (จบการศึกษาภาคบังคับ) ซึ่งอาจจะเรียนในวิทยาลัยเพื่อการศึกษาต่อเนื่องหรือมหาวิทยาลัย หรือทำงานอยู่ในภาคส่วนอื่น ๆ ของสังคม โดยร่วมมือกับศูนย์การเรียนชุมชนซึ่งองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นกว่า ๑๐๐ แห่งจัดตั้งขึ้น การจัดการศึกษามีความหลากหลาย บางอย่างก็จัดเอง หรืออาจจะมอบให้หน่วยงานอื่น ๆ จัดให้ก็ได้
ศูนย์การเรียนชุมชนมีภารกิจสำคัญคือให้โอกาสกับทุกคน
(social inclusion)
ซึ่งมีขอบเขตกว้างขวางมาก เป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการแก้ไขความทุกข์และการสร้างความสุขของคน จึงต้องฟังเสียงคนในชุมชน สถานที่เรียนตั้งอยู่ในชุมชน พัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นที่ตอบสนองต่อความต้องการของชุมชน ใช้ผู้มีความรู้ในท้องถิ่นเป็นครู
จากประสบการณ์ที่ผ่านทำให้สามารถสรุปบทเรียนได้ว่าการเรียนรู้ที่แท้จริงคือการเรียนรู้ซึ่งนำความสุขมาให้ผู้เรียน เกิดความเชื่อมั่นในตนเอง
(good learning)
ใช้วิธีการผสม
(blended learning approach)
คือเรียนร่วมกับเพื่อน ๆ ในบรรยากาศที่เป็นมิตรและมีความสุข ค่อย ๆ เรียนรู้วิธีการเรียน สร้างความมั่นใจในตนเอง ใช้เกณฑ์ของท้องถิ่นในการประเมินผลสำเร็จ ได้ผลดีกว่าการใช้
e-learning
โดยเฉพาะ
กิจกรรมที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือการสร้าง
web site
ให้เป็นแหล่งติดต่อ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเสนอบทเรียนที่สร้างขึ้นโดยชาวบ้านด้วยกันเอง
ข้อแนะนำในการจัดการเรื่องนี้คือควรกำหนดนโยบายระดับชาติอย่างกว้าง ๆ แล้วให้องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นกำหนดกลยุทธ์
(e-strategy)
ของตนเอง เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะมีบริการที่เหมาะสมกับแต่ละท้องถิ่นและสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง
Steve Davies
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยในประเทศอังกฤษ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจ คือ ครูเห็นว่าควรใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ เช่น ช่วยยกระดับคุณภาพในการวางแผนการสอนและการวางแผนทางด้านงบประมาณและการรวบรวมข้อมูลทางด้านการเงิน ใช้ในการประเมินผลการเรียน การรับผลป้อนกลับจากนักเรียน ติดตามความก้าวหน้าในการเรียน จัดทำ
Portfolio
(ซึ่งยังมีใช้กันอยู่น้อยมาก) ส่วนใหญ่ครูมีความมั่นใจการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในด้านการวางแผนและเตรียมบทเรียน สื่อสารกับนักเรียน ทำงานกับนักเรียนในห้องเรียน และติดตามความก้าวหน้าในการเรียนของนักเรียน ตามลำดับ
ความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ส่วนใหญ่เป็นความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยเพื่อการศึกษาต่อเนื่องและมหาวิทยาลัย รองลงมาคือระหว่างโรงเรียน และกลุ่มนายจ้าง ตามลำดับ การร่วมมือส่วนใหญ่เป็นเรื่องการพัฒนาหลักสูตร การแลกเปลี่ยนข้อมูล แต่การใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกันยังมีน้อย
การลงทุนทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและ
e-learning
ในระดับวิทยาลัยส่วนมากใช้เงินเพื่อจัดหา
hardware
รองลงมาคือ
software
ระบบ และการพัฒนาบุคลากร ตามลำดับ และเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องกันมาหลายปี เงินลงทุนส่วนใหญ่เป็นของวิทยาลัยเอง ผลตอบแทนโดยดูจากประสิทธิภาพในการใช้เวลาทำงานสูงมากทีเดียว
Malcolm Hunt
กล่าวว่าการประเมินผลกระทบของ
e-strategy
ของประเทศอังกฤษยังนับว่าเป็นเรื่องใหม่และเป็นเรื่องยาก เนื่องจากจำเป็นต้องเข้าใจการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในระบบ ต้องมีความชัดเจนในเป้าหมายและผลที่เกิดขึ้น ต้องครอบคลุมกิจกรรมที่หลากหลาย มีผู้มีส่วนร่วมหลายฝ่าย แต่ละฝ่ายก็มีความต้องการแตกต่างกัน ผลบางอย่างไม่ชัดเจนและวัดได้ยาก เป็นต้น
แนวคิดในขณะนี้คือเน้นการประเมินความก้าวหน้าและผลงานไปพร้อมกัน และทำแยกในแต่ละ
sector
และต้องการ
input
จากหลายแหล่งด้วยกัน การใช้ผลการประเมินมุ่งเน้นที่การวางแผนเรื่องนโยบาย การทบทวนกลยุทธ์ขององค์กร ดูความก้าวหน้าในแต่ละ
sector
และการกำหนดมาตรการช่วยเหลือ รวมทั้งพิจารณาการวิจัยที่จำเป็นต้องทำเพิ่มเติม เป็นต้น
เรื่องที่ท้าทายยังมีอีกมาก เช่น การกำหนดตัวชี้วัดยังเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะผลที่เกิดกับตัวผู้เรียน และช่วงเวลาที่ควรเป็นก่อนจะวัดผลผู้เรียน การพิจารณาเฉพาะสิ่งที่วัดได้อาจจะมิใช่เป็นการดูสิ่งที่สำคัญเสมอไป การตัดสินใจเรื่องตัวชี้วัดในระดับสูงมากทำโดยบุคลากรระดับบริหารเป็นส่วนใหญ่ ความแตกต่างในระหว่าง
sectors
ทำให้ยากต่อการกำหนดหน่วยวัด ปัญหาในการวัดตามตัวชี้วัดเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน ข้อมูลในระดับชาติยังไม่ครบถ้วน จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์หรือวิจัยกันใหม่ เป็นต้น
คณะมีความเห็นว่าการดำเนินงานของ
BECTA
ครอบคลุมทุกเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและ
e-learning
ในระดับประเทศ ทำให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจน สมควรพัฒนาความร่วมมือกันในระยะยาวต่อไป
ขากลับจาก
Coventry
คณะเดินทางโดยรถไฟเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากขบวนรถที่จองที่นั่งไว้ไม่สามารถให้บริการได้ตามกำหนด ต้องเลื่อนไปโดยสารขบวนรถต่อไป จึงมีผู้โดยสารเกินกว่าที่นั่ง ที่จองไว้ก็เลยไม่ได้ใช้บริการ ต้องยืนกันเป็นชั่วโมงก่อนที่จะกลับถึงลอนดอน
British Council
โดยคุณ
Kathie Epstein
หัวหน้าฝ่ายการศึกษานอกโรงเรียนและการอาชีวศึกษา เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำที่ภัตตาคารจีนแห่งหนึ่งในย่าน
China Town
มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สรุปผลการศึกษาดูงานตลอดสัปดาห์ และบอกเล่าความประทับใจของแต่ละคน ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง
เขียนใน
GotoKnow
โดย
ดร. ดิศกุล เกษมสวัสดิ์
ใน
กศน.เพื่อนเรียนรู้ โดย ดร.ดิศกุล
คำสำคัญ (Tags):
#ศึกษาดูงาน
#ประเทศอังกฤษ
หมายเลขบันทึก: 59420
เขียนเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2006 21:14 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2012 14:44 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (4)
ขจิต ฝอยทอง
เขียนเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2006 13:33 น. (
)
ที่นี่สวยดีนะครับ
Warwick
ขอบคุณมากครับผม
Raysuke
เขียนเมื่อ 9 ธันวาคม 2006 23:41 น. (
)
ผมได้ข้อมูลจากที่ อ.ดิศกุล ได้มาเพยแพร่มากเลยครับ
samorano
เขียนเมื่อ 11 ธันวาคม 2006 00:37 น. (
)
ข้อมูลน่าสนใจเป็นความรู้ดีครับ
Taiki
เขียนเมื่อ 12 ธันวาคม 2006 10:23 น. (
)
เป็นความรู้ดีครับ ขอให้ อ.ดิศกุล มีผลงานดีๆแบบนี้มาให้ความรู้เรื่อยๆนะครับผมจะแวะมาอ่านบ่อยๆ
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
ดร. ดิศกุล เกษม...
สมุด
กศน.เพื่อนเรียนรู...
บันทึกดูงานประเทศ...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท