ผมลางานไปงานแต่งงานเพื่อนรักที่เชียงราย...เจอกันตอนไปอบรมเข้ม ที่ มสธ. เพียงสัปดาห์เดียว...แต่เหมือนรู้จักกันนานนับ
เพื่อนมาช่วยงานแต่งงานผมเมื่อสิบปีก่อนเกือบสัปดาห์...ไปฮันนีมูนด้วยกัน...ซาบซึ้งน้ำใจและมิตรภาพที่แสนยาวนาน
เดินทางด้วยรถทัวร์ตอนบ่ายห้าโมงเย็น...ถึงเชียงรายตีห้าของอีกวัน...การเดินทางเต็มไปด้วยความมืดมิด...รถทัวร์ปรับเอนนอนได้...มีเครื่องนวด...การบริการประทับใจ...แต่อย่างไงพอรู้สึกตัวตื่น ก็เจ็บคอบ้าง ไหล่บ้าง หลังบ้าง ก้นบ้าง...
บรรยากาศที่ บขส. เงียบสงบ...หนาวจนเหน็บ จากบขส.ถึงบ้านเพื่อนไม่ไกล น้องสาวและน้องชายเพื่อนมารับ
หมอกจางๆ ต้นไม้เรียงราย หลังบ้านเพื่อนเป็นผืนนาต้นข้าวอ่อนๆ เรียงเป็นระเบียบ
พ่อกับแม่ เพื่อนรบเร้าให้ผมนอน...นอนๆสลับกินข้าว กลัวผมลงไปช่วยงาน ด้วยโหมดแห่งความอ่อนแรง จึงเข้าห้องนอน แต่ได้ยินเสียงผู้คนมากมายที่มาทำอาหารการกิน....ด้วยสำเนียงชาวเหนือ...เสียงฮู้ในใจคิดว่าต้องรู้เรื่อง แต่ทุกคนรัวมากๆ ทำให้เข้าใจกระท่อนกระแท่น...
ตอนบ่ายโมง ห้องครัวเริ่มเงียบลง ทุกคนพักผ่อน ผมจึงถามเพื่อนว่า อยากชมวัดใกล้บ้าน เพื่อนห่วง จะไปส่ง แต่ผมเกรงใจ เพราะต้องเตรียมตัวหลายอย่าง ขอเดินไปเอง...
เดินไปทางหน้าบ้านของผม ผ่านดงกล้วย...กองฟางข้าว...รู้สึกอบอุ่น และสุขใจยิ่งหนัก
เดินมาเรื่อยๆ ผมถ่ายรูปไว้ กลัวลืม เพราะไม่รู้ว่า คนที่นี้ปลูกอะไร แต่มาถามเพื่อนภายหลังบอกว่า เป็นต้นถั่วฝักยาว
ถึงทางเล็กๆ สูู่ถนนใหญ่ขึ้น เป็นปากทางเข้าหมู่บ้าน เห็นผ้ายาวปลิวไสว และเขียนกระดาษเล็กๆ ข้างลงว่า ทางเข้าสู่งานแต่งงานเพื่อน
ระหว่างทางที่จะไปถึงวัด...ผมเห็นดอกไม้เล็กๆ มากมาย ตามทุ่งนาที่เก็บเกี่ยวเสร็จ พยายามเดินอย่างระมัดระวังไม่ให้เท้าไปเหยียบดอกไม้เข้า เผื่อคนเดินทางมาที่หลังจะได้ร่วมชื่นชมด้วย
ดอกไม้เล็กๆ เขาทำหน้าที่ได้ดีเกินการลงทุน...
หวนคิดถึงตัวเองว่า...คนธรรมดา...คนไม่ยิ่งใหญ่...อย่างผม...ทำหน้าที่ได้เท่าดอกไม้เล็กๆ เหล่านี้หรือไม่?
อันนี้สัญลักษณ์ เมืองเหนือเลยค่ะ ... คิดถึงนะคะ
ต้องเป็นเพื่อนรักกันมากๆ แน่
เดินชมบรรยากาศชนบทนี่มีความสุขนะคะ
ว้าว .... เพื่อนแท้จนวันตาย
ดอกสุดท้าย ดอกเอนอ้า ไหมคะ