ระหว่างวันที่ ๑๖ - ๑๘ มกราคม ๒๕๕๘ ผมร่วมเดินทางไปจังหวัดน่านกับทีม R2R ประเทศไทย เป็นการลงพื้นที่เพื่อหาทางสร้างความเข้มแข็งของ เครือข่าย R2R ประเทศไทย ที่กระทรวงสาธารณสุข เข้ามาสนับสนุนอย่างเป็นทางการ ในลักษณะที่สนับสนุนให้เป็นเครือข่ายดำเนินการสนับสนุน R2R โดยใช้ฐานการจัดการเป็นเขตสาธารณสุข
วันศุกร์ที่ ๑๖ เราไปเยี่ยมชื่นชมกิจกรรมพัฒนางาน พัฒนาคน และพัฒนาองค์กร ที่โรงพยาบาลท่าวังผา ซึ่ง "พ่อน้องซอมพอ" เคยบันทึกรายละเอียดไว้ ที่นี่ น่าชื่นชมมากทั้งเรื่องราว และผู้บันทึกรายละเอียด
หลังจากฟังอย่างลึกทั้งในวงใหญ่ และวงย่อยที่ผมอยู่ในวง งดเหล้าที่บ้านวังว้า แล้วกลับมา AAR ในวงใหญ่อีกครั้งหนึ่ง รวมเวลาเกือบ ๓ ชั่วโมง ผมสรุปกับตนเองว่า นี่คือ Learning Organization ของจริง ที่มีวิธีทำงานใช้เครื่องมือ KM, HA, R2R อย่างเนียนอยู่ในเนื้องาน เดินด้วยคำขวัญ "ทุกผลงานมีคุณค่า" ของผู้อำนวยการโรงพยาบาล
ผมได้รู้จักองค์กรแห่งคนดี คนที่ทำงานเพื่อบริการผู้ป่วยด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ เป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้จัก นพ. ดิเรก สุดแดน ผู้อำนวยการโรงพยาบาล คุณจุฬารัตน์ สุริยาทัย (น้อยหน่า) และทีมงานอีกมากมาย ที่ทำงานด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์
เคล็ดลับอยู่ในรายละเอียด อยู่ในเรื่องเล่า ที่เกิดขึ้นอย่างอัตโนมัติในวงเสวนา ซึ่งก็คือ tacit knowledge, contextual knowledge ผมได้ฟังเรื่องราววิธีทำงานที่ผู้ทำงานเอาชาวบ้านหรือผู้รับบริการเป็นศูนย์กลาง รู้วิธีพูด วิธีสัมพันธ์กับชาวบ้าน "อย่าพูดคำว่าวิจัย ชาวบ้านจะหนี อย่าพูดคำว่าเก็บข้อมูลบ่อยๆ แต่เมื่อมีผลงาน บอกชาวบ้านว่าเขาเป็นนักวิจัยแล้ว ชาวบ้านจะภูมิใจ" นี่คือสุดยอดของทักษะ รู้กาละเทศะและบุคคล ซึ่งเป็น tacit knowledge
ผมไปพบวิธีประยุกต์ใช้ KM เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ สร้างความภูมิใจ และความมั่นใจ ในการริเริ่ม ของพนักงานที่เป็นคนหน้างาน ลุกขึ้นมาพัฒนางานที่ตนรับผิดชอบ นำผลมาเรียนรู้ร่วมกัน ส่วนที่ดีขึ้นก็ได้รับความชื่นชม ยกย่อง ยุยง ชี้ชวน ให้พัฒนายกระดับขึ้นไปอีก จนมีนวัตกรรม ผลงาน และความสำเร็จมากมาย ที่สำคัญคือ นำไปสู่องค์กรแห่งความสุข สุขจากการทำงาน
ดูรูปที่ผมถ่ายมาจาก PowerPoint ที่ นพ. ดิเรกนำมาเสนอ แล้วจะเห็นหลักการและวิธีการ ที่น่าชื่นชมยิ่ง ผมขอยกย่อง นพ. ดิเรก สุดแดน ในทำเนียบ "คนดีวันละคน" ของผม ด้วย
ไม่มีความเห็น