เมืองนครนายก ถูกรื้อกำแพงเมืองสมัยพระมหาจักรพรรดิ คงเป็นชุมชนเล็ก เป็นทางผ่าน
ตัวเมืองเองไม่ได้ใหญ่อะไร
และในเวลานั้น ท่านเจ้าเมืองว่าที่คุณพระพิมลธรรม เจ้าเมืองนครนายก ก็ได้เทครัวชาวนครนายกขึ้นไปโคราช
ได้พาชาวบ้านไปโคราชนั้น ก็ถูกทางโคราชดักฆ่าตายทั้งหมดก่อนเข้าเขตเมืองโคราช ปล่อยให้นครนายกเป็นเมืองร้างไปแล้ว
ดังนั้นชาวนครนายกปัจจุบันจึงไม่มีคนนครนายกที่เป็นคนพื้นเพเดิมเลย
แล้วอยากรู้มั้ยว่าชาวนครนายกในปัจจุบัน
เป็นใคร มาจากไหน.....
ชาวกรุงศรีฯ ที่หนีตายเมื่อคราวกรุงแตก ได้อพยพมาทางหนองแค สระบุรี และอำเภอบ้านนา จ.นครนายกครับ
และเมื่อปี ๒๓๒๓ คราวที่เราไปล้านช้าง และเวียงจันท์ เราได้เกณฑ์ชาวลาวลงมาเป็นจำนวนมาก
และได้นำมาอยู่ที่สระบุรีและนครนายกครับ จวบจนสมัยรัชกาลที่๕-๖
จึงเริ่มมีชาวจีนจากโพ้นทะเลเข้ามาอยู่อาศัยทำกิน ซึ่งชาวจีนพวกนี้ลงเรือที่แปดริ้ว
แล้วได้อพยพมาอยู่นครนายกเพื่อหาที่ทำกิน
แต่เดิมในสมัยอยุธยาชาวมอญก็เข้ามาอยู่นครนายกเยอะ
แถวเขานางบวช เป็นชุมชนใหญ่เลย โบราณสถานที่ชาวมอญได้สร้างทิ้งไว้ให้และยังอยู่สมบูรณ์ถึงวันนี้ก็คือ
วัดโพธินายก ซึ่งเป็นวัดเดียวที่อยู่ภายในเขตกำแพงเมือง
ส่วนชาวลาวที่ลงมาอยู่นครนายก
จะเข้ามาสองรอบคือ ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน กับสมัยรัชกาลที่๓
โดยชาวลาวที่เข้ามาจะมีหลายกลุ่มทั้งชาวลาวเวียง ลาวพวน ลาวโซ้ง
เข้ามาตั้งรกรากอยู่อาศัยครั้งแรกที่บ้านใหญ่
เมื่อปี 2323 และผู้นำชาวลาวชื่อแม่แก้วตา
ได้นำชาวบ้านสร้างวัดถวายเป็นพุทธบูชาวัดแรก
คือ วัดแก้วตา อยู่ติดริมแม่น้ำนครนายกฝั่งทิศตะวันออก
วัดที่สอง บุตรีคหบดีชาวลาวร่วมกับบิดาได้สร้างวัดถวายเป็นพุทธบูชาเช่นกัน
อยู่ใกล้กับวัดแก้วตาและติดริมน้ำ ซึ่งต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ได้มีการรวมวัดทั้งสองเข้าด้วยกันแล้วเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า
วัดอุดมธานี
วัดที่สามที่ชาวลาวได้สร้างไว้คือ วัดดง
วัดที่สี่ที่ชาวลาวได้สร้างและยังคงอยู่สมบูรณ์ที่สุดคือ วัดบ้านใหญ่ เป็นวัดที่ได้โชว์ศิลปะของช่างชาวลาวเวียงได้อย่างวิจิตรที่สุดในนครนายก
หลังจากนั้นชาวลาวเวียงก็ได้ขยับขยายออกไปทำมาหากินจนทั่วและพากันสร้างวัดขึ้นมากมายในนครนายก
ส่วนพวกลาวพวนจะพากันไปตั้งรกรากแถวท่าแดง หนองหัวลิง หนองแสงกันเป็นส่วนใหญ่
ชุมชนลาวพวนที่ใหญ่ที่สุดคือ วัดท่าแดง
ส่วนคนจีนที่เข้ามาตั้งรกรากแต่แรกนั้น จะเข้ามาอาศัยอยู่ที่ฝั่งตะวันออกของเมือง
คือย่านตลาดฝั่งวังกระโจมหรือตลาดเก่าทั้งหมด ก่อนที่จะขยับขยายเข้ามาทำการค้าในผังตัวเมืองปัจจุบัน
ในอดีตศาลากลางจังหวัดนครนายกหลังแรกจะอยู่ที่ฝั่งตลาดเก่า ริมน้ำท่าทราย
ตรงบริเวณศาลเจ้าตลาดเก่าในปัจจุบัน
ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ริมแม่น้ำฝั่งกำแพงเมืองตรงบริเวณโรงแรมกอบเกื้อ
ซึ่งต่อมาก็ได้ย้ายออกไปอยู่ด้านนอกเมืองดังเช่นปัจจุบัน
ส่วนพื้นที่ที่เคยเป็นศาลากลางจังหวัดที่เคยรับเสด็จในหลวงกับพระราชินีก็
ถูกสร้างเป็นโรงแรมกอบเกื้อ ในสมัยที่เจ้าของโรงแรมได้เป็นสจ.
ไม่มีความเห็น