วันศุกร์ ที่ 12 ธันวาคม 2557
รู้สึกคล้ายอาทิตย์นี้วันศุกร์เวียนมาเร็วมาก แต่เหมือนได้รับการเตือนด้วยความเมตตาของครู
ที่ให้โอกาสมอบภารกิจให้ทำ
ใจตอบสนองต่อภารกิจของครู คือ โอกาส ชัดเเจ้งกับตนเอง
ตลอดวันวางแผนไว้หลัก 3 ประเด็น
ประเด็นแรกไม่สำเร็จ แบบเฉียดๆ ช้าด้วยความโอ้เอ้ของตนเอง
ประเด็นที่สอง สำเร็จแบบทำไปเก็บแต้มไป
ประเด็นที่สาม ไม่ได้หยิบขึ้นมา
ทำงานที่ตั้งใจได้เพียงหนึ่งในสาม หมดเวลาของตนเอง
ออกมาทำภารกิจพอถึงเวลาก็ออกเดินทาง
ตั้งใจว่า ต้องไม่มืด อาจจะด้วยเป็นฤดูหนาว พระอาทิตย์ตกเร็วเป็นธรรมดา
ให้กำลังใจตนเองหลังพาเด็กๆเข้าวัดว่า เอาน่า ดีขึ้นแต่ก็ต้องปรับอีก
ครูเมตตาชี้เรื่องข้อบกพร่อง ที่ให้ส่งของอาทิตย์ที่แล้ว
ย้อนทวนกับตนเอง
จิตนี่มันคอยแต่หักหลังตลอดเลย
แทนที่จะไปขัางหน้าได้ ดันไปขัดขวางการสร้างกุศล
นี่ชัดมากเรื่อง ไม่ช่วยแล้วยังถ่วง ภาพออกมาดี แต่ผลงานไม่มีซะงั้น ไม่ซิผลงานติดลบต่างหาก
ชัดไหม ถามย้ำกับตนเอง
ตัวเหม็นด้วย
ไล่เรียงดมๆก็เหม็นไปตั้งแต่ชุด ร่างกาย ลึกลงไปถึงใจ
ชุดไม่สะอาด ร่างกายไม่ได้ชำระ จิตใจไม่ขัดเกลา กิเลสไม่ถูกฝืน
พอครูชี้ กลับเข้ามาข้างใน จิตมันหลง เห็นความชั่วก็ไม่ยอมรับ เห็นความดีก็ลำพอง
ไม่มีช่องให้ธรรมได้ออกมาทำงานเลย
พอเห็นได้ใจยวบลง สำนึกว่า มาที่นี่มาขอพึ่งใบบุญครูบาอาจารย์
แต่ที่ผ่านๆมา เอาแต่ความอวดดี และเขี้ยวเล็บออกมาทำร้ายท่าน
ท่านอดทนกับหนูมากๆ ว่ายากสอนยาก บอกอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่งเป็นอย่าวนี้มา 3-4 ปี
ครูเมตตาประคองให้รักษาสัจจะ พูดได้เต็มปากถ้าครูไม่เมตตาช่วยเหลือ สัจจะข้อนี้ขาดไปนานแล้ว
แต่นี่ท่านเมตตาถึงที่สุดที่จะให้ทำให้ได้
ศีลวันนี้เบียดเบียนคนรอบข้างอยู่เพราะเหมือนยังไม่เต็มที่
ตอนลงไปเก็บผักบุ้งก็ถามตนเองว่า
ทำไมตอนกิเลสพาทำ พลังมันเยอะ
แต่พอธรรมพาทำ แทบไม่มีแรง
เมื่อไหร่จะเอาพลังมาใช้ทางธรรมได้สักที
วันนี้ทั้งวันใจก็คิดทวนย้อนว่า
"ถ้าย้ายกลับ รพ.แถวบ้านจะทำอะไร"
โปรเจคเรื่องงาน งอกเงยมากมายแล้วก็รู้สึกขำตัวเอง
เพราะทุกโปรเจคนั้นคือ การพัฒนาจากฐานของที่ทำงานที่ทำอยู่
จะว่าไปก็คล้ายๆงานเดิมแค่เปลี่ยนบทบาทเล่น
จากคนผลักดันเครือข่ายด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์นอกพื้นที่ไปเป็นคนขับเคลื่อนในพื้นที่ก็เท่านั้นเอง
ใจคิดมาตรงนี้ ก็รู้สึกกระชุ่มกระชวย
เตือนตนเองไว้ อย่าฟุ้งซ่านมาก อยู่กับปัจจุบันเคลียอะไรๆให้เรียบร้อย จะได้ไม่เป็นภาระ
ศีลข้อสองยังมีการหลอยอยู่ ข้อสามนั้นราคะยังบีบใจอยู่มาก ข้อสี่ยังคงพูดเพ้อเจ้อบ่อยๆ
ข้อห้าสติ ยังขาดช่วงอีกมาก
ระลึกถึงคาถาครูที่ให้ไว้ช่วยประคองสติแบบพออยู่ได้กับตนเองสาธุเจ้าค่ะ
ไม่มีความเห็น