อนุทิน 7 ขั้นการจัดการความรู้


7 ขั้นการจัดการความรู้

วันที่ 7 พ.ศ 2557

1.

สิ่งที่อยากรู้

ขั้นตอนสำหรับกระบวนการจัดการความรู้เพื่อให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ ปัญหาการจัดการความรู้ให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้

2. ความรู้ความเข้าใจที่ได้รับ ขั้นตอนสำหรับกระบวนการจัดการความรู้ มี 7 ขั้นตอน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช่วยให้เกิดการพัฒนาการของความรู้ หรือการจัดการกับความรู้ที่จะเกิดขึ้นภายในองค์กรประกอบด้วย
  • 1.การ บ่งชี้ความรู้ เป็นการพิจารณาว่าจะทำอย่างไรให้องค์กรบรรลุเป้าหมาย โดยจะคัดเลือกว่าจะใช้เครื่องมืออะไร และขณะนี้เรามีความรู้อะไรบ้าง อยู่ในรูปแบบใด อยู่ที่ใคร โดยอาจจะพิจารณาว่าองค์กรมีวิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ เป้าหมายคืออะไร
  • 2.การสร้างและแสวงหาความรู้ ซึ่งสามารถทำได้หลายทาง เช่น การสร้างความรู้ใหม่ แสวงหาความรู้จากภายนอก รักษาความรู้เก่า กำจัดความรู้ที่ใช้ไม่ได้แล้ว
  • 3.การจัดความรู้ ให้เป็นระบบ เป็นการวางโครงสร้างความรู้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเก็บความรู้อย่างเป็นระบบเพื่อการเรียกใช้งานได้ อย่างรวดเร็วและถูกต้องในอนาคต
  • 4.การประมวลและกลั่นกรองความรู้ เช่น การปรับปรุงรูปแบบเอกสารให้เป็นมาตรฐาน ใช้ภาษาเดียวกัน และปรับปรุงเนื้อหาให้สมบูรณ์และเหมาะสม
  • 5.การเข้าถึงความรู้ เป็นการทำให้ผู้ใช้ความรู้เข้าถึงความรู้ที่ต้องการได้ง่ายและสะดวก โดยการใช้พวกระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือการประชาสัมพันธ์บน Web board
  • 6.การ แบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ ทำได้หลายวิธีการซึ่งจะแบ่งได้สองวิธีคือ จัดทำเป็นเอกสาร ฐานความรู้ และเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ หรือ จัดทำเป็นระบบ ข้ามสายงาน มีกิจกรรมกลุ่มคุณภาพและนวัตกรรม ชุมชนแห่งการเรียนรู้ ระบบพี่เลี้ยง การสับเปลี่ยนงาน การยืมตัว และเวทีการแลกเปลี่ยนความรู้ เป็นต้น
  • 7.การเรียนรู้ ควรทำให้การเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของงาน เช่น การเรียนรู้จากสร้างองค์ความรู้ การนำความรู้ไปใช้ให้เกิดการเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ และนำความรู้ที่ได้ไปหมุนเวียนต่อไปอย่างต่อเนื่อง

อนุทิน ครั้งที่ 4 Knowledge Management (KM)

เนื้อหา ที่ได้เรียนวันนี้เกี่ยวกับ ระบบสารสนเทศซึ่งหมายถึง การทำงานพร้อมกันอย่างที่สัมพันธ์กันของแต่ละองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับ คอมพิวเตอร์ เข้ามาช่วยในการนำข้อมูลเข้าจัดเก็บ รวบรวม และประมวลผลข้อมูล จนกลายเป็นสารสนเทศที่สามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจ หรือใช้ประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งอาจจะเป็นระดับบุคคลหรือองค์กร


KM (Knowledge Management) หมายถึงความหมายที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ เป็นความรู้ที่เกิดจากการสั่งสมหรือการปฏิบัติ โดยทุกคนมีความรู้เป็นของตนเอง ความรู้นั้นมีความหมายหรือไม่ขึ้นอยู่กับการตีความ และการจัดการความรู้เพื่อให้เกิดความรู้ใหม่ส่วนการจัดการกับความรู้โดย เรียงลำดับจาก ข้อมูล (Data) -- สารสนเทศ (Information) -- ความรู้ (Knowledge) -- ปัญญา (Wisdom) การ รับรู้ข้อมูลนั้นเป็นความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ และจากสารสนเทศไปถึงความรู้นั้นเป็นความเข้าใจรูปของความสัมพันธ์ และจากความรู้ไปสู่ปัญญานั้นเป็นความเข้าใจของหลักการ

ประเภท ของความรู้จะมีแบบ Tacit Knowledge เป็นความรู้ที่มองเห็นโดยนัยมองเห็นไม่ชัดเจน ความรู้ที่ไม่เป็นทางการ เป็นทักษะหรือความรู้เฉพาะตัว ส่วนExplicit Knowledge เป็นความรู้ที่ชัดแจ้งเป็นทางการ เป็นลายลักษณ์อักษร เช่นหนังสือพิมพ์ หรือวารสาร หรือเป็นการแสดงออกมาเป็นสัญลักษณ์

กระบวนการจัดการความรู้
1. การกำหนดเป้าหมายความรู้ (Knowledge Desired)
2. หารสร้างหรือจัดหาความรู้ (Knowledge Creation หรือ Knowledge Acquisition)
3. การกลั่นกรองและคัดเลือกความรู้ (Knowledge Classified)
4. การเก็บความรู้ให้ระบบ (Knowledge Saving System)
5. การใช้ความรู้ (Knowledge Utilization)
6. การแบ่งปันและแลกเปลี่ยนความรู้ (Knowledge Sharing)
7. การประยุกต์ความรู้ (Knowledge Applied)
8. การประมวลผลและวัดความรู้ (Knowledge Codification & Knowledge Measured)
9. การยกย่องชมเชยและให้รางวัล (To praise & Take a gift)
10. การเผยแพร่ความรู้ (Knowledge Distribution)

3. จะนำไปประยุกต์ใช้ จะนำกระบวนการทั้ง 7 ขั้นตอนมาประยุกต์ใช้ในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ของตนเอง โดยเริ่มจากตัวเราเองก่อน และจะส่งต่อไปยังเพื่อนร่วมงาน นักเรียน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ของแต่ละคน และนำความรู้เหล่านั้นมาจัดเป็นระบบ เพื่อให้เกิดการเผยแพร่ขององค์ความรู้
ประโยชน์ของการจัดการความรู้
1. ป้องกันการสูญหายของความรู้
2. เพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ
3. ความสามารถในการปรับตัว และมีความยืดหยุ่น
4. ความได้เปรียบในการแข่งขัน
5. องค์กรในการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาที่มีอยู่
6. การยกระดับผลิตภัณฑ์
7. สร้างความพึงพอใจและเพิ่มยอดขายและสร้างรายได้
8. เพิ่มความสามารถการแข่งขันโดยผ่านการเรียนรู้ร่วมกัน
หมายเลขบันทึก: 580140เขียนเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2014 14:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2014 14:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท