มอ.จับมือเครือข่ายสหกรณ์อิสลามแห่งประเทศไทย
เตรียมงานแสดงสินค้า-ประชุมด้านฮาลาลอย่างยิ่งใหญ่
หาดใหญ่-สถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จับมือเครือข่ายสหกรณ์อิสลามแห่งประเทศไทย เตรียมจัดงานแสดงสินค้าและประชุมสัมมนานานาชาติด้านฮาลาล 2557 อย่างยิ่งใหญ่ มั่นใจจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจด้านฮาลาลในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้คึกคัก
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาล สินค้าและบริการได้รับความสนใจในการดำเนินธุรกิจการค้ามากยิ่งขึ้น เนื่องจากประชาชนในโลกมุสลิมมีสูงถึง 1,800 ล้านคน กระจายอยู่ใน 150 ประเทศทั่วโลก และสำหรับประเทศไทยมีประชากรที่นับถือศาสนาอิสลามในห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้มากกว่าร้อยละ 80 และมีผู้ประกอบการผลิตอาหาร สินค้าและบริการฮาลาลมากกว่า 1,000 รายทำให้ธุรกิจการค้าด้านฮาลาลเติบโตอย่างรวดเร็ว
ปี 2558 อาเซียนเสรีและมีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมกว่า 400 ล้านคนทำให้เรื่องอาหารฮาลาลกำลังกลายเป็นประเด็นสำคัญเพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายแรงงานมีฝีมือในอาเซียน เพราะหลายประเทศในอาเซียนกำลังพบปัญหาที่ว่า มีอัตราการส่งออกอาหารฮาลาลอยู่ในระดับที่สูง แต่มีปริมาณอาหารฮาลาลไว้บริโภคประเทศอยู่ในระดับที่ต่ำ นอกจากนี้การหารือยังรวมถึงประเด็นการออกเครื่องหมาย ฮาลาลร่วมกันเป็นตราเดียวให้กับอาหารฮาลาลที่ผลิตในประเทศใดก็ตามในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งยังมีประเทศที่สามารถ ทำธุรกิจด้านฮาลาลในกลุ่มประเทศอาเซียนและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น ตรุกี และยุโรป
และในระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม-2 พฤศจิกายน 2557 สถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับเครือข่ายสหกรณ์อิสลามแห่งประเทศไทย และสหกรณ์อิสลามอัศศิดดีก จำกัด จัดงานแสดงสินค้าและการประชุมสัมมนานานาชาติพ.ศ. 2557 (World HAPEX 2014) ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
อ.สืบศักดิ์ กลิ่นสอน ผู้อำนวยการสถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อาหาร ผลิตภัณฑ์ และบริการที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม นับวันยิ่งมีความสำคัญต่อเศรษฐ
กิจและสังคมเพิ่มมากขึ้น ด้วยการเพิ่มขึ้นของประชากรมุสลิม การเพิ่มขึ้นของรายได้ประชากรมุสลิมทำให้มีกำลังในการซื้อสูงขึ้น การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงอาหารและบริการฮาลาลที่มีสูงขึ้น ในทางกลับกันการเพิ่มขึ้นของปริมาณอาหารที่มีสัดส่วนไม่สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากา ภัยธรรมชาติที่คุกคามแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของโลก การลดลงของพื้นที่การเกษตร เหล่านี้เป็นปัจจัยที่ชี้ให้เห็นโอกาสของประเทศไทยที่นอกจากจะเป็น “ครัวของโลก” ล้ว ยังสามารถเป็น “แหล่งผลิตอาหารฮาลาลให้กับมุสลิมทั่วโลก”ได้อีกด้วย
ฮาลาลเป็นสิ่งจำเป็นในการดำเนินชีวิตของมุสลิมทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชาติใด ภาษาใด ฮาลาลมิได้จำกัดเฉพาะอาหารเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตประจำวัน เช่น ของใช้ส่วนตัว ได้แก่ สบู่ แชมพู ยาสีฟัน เครื่องสำอาง และเครื่องแต่งกาย นอกจากนี้ยังครอบคลุมถึงการบริการเช่นการเงิน การท่องเที่ยว การให้บริการที่พัก การให้บริการรับส่งสินค้า และการให้บริการด้านสุขภาพ เป็นต้น
ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารที่สำคัญในกลุ่มAEC ในปี 2556 ที่ผ่านมามีมูลค่า 32.5 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 30.3 พันล้านเหรียญสหรัฐจากมูลค่าตลาดโลกสำหรับสินค้าอาหารประมาณปีละ 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ในจำนวนนี้ถูกส่งไปจำหน่ายในประเทศมุสลิมทั่วโลกประมาณร้อยละ 20 หรือประมาณปีละ 6พันล้านเหรียญ สินค้าไทยส่งออกไปยังประเทศมุสลิมมากที่สุด ได้แก่ ข้าว น้ำตาล ปลาทุน่ากระป๋อง แป้งมันสำปะหลัง และผลไม้สด
สำหรับอาหารส่งออกของไทยสู่ประเทศมุสลิมที่มีการขยายตัวในสัดส่วนที่สูงมากที่สุดในปัจจุบันคือ ไก่สดแซ่แข็ง แม้ว่าแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของประเทศไทยจะอยู่ในภาคกลาง ได้แก่ กรุงเทพและปริมณฑล แต่หากพิจารณามายังภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทยแล้วจะพบว่าเป็นอาณาเขตที่มีศักยภาพสูงที่สามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งผลิตอาการฮาลาลป้อนให้กับผู้บริโภคมุสลิมทั่วโลก
เนื่องจากความพร้อมด้านบุคลากรที่เป็นมุสลิมซึ่งมีจำนวนประมาณร้อยละ 80 ของประชากรทั้งหมดในพื้นที่ และประมาณร้อยละ 80 ของจำนวนประชากรมุสลิมที่มีทั้วทั้งประเทศ ความพร้อมในด้านวัตถุดิบที่มีหลากหลาย ความได้เปรียบในการติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีประชากรมุสลิมอย่างอย่างหนาแน่น ความมีศักยภาพในด้านการขนส่งทั้งทางบก เรือและอากาศ
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาหลักของภาคใต้ ประกอบด้วย 5 วิทยาเขตกระจายอยู่จังหวัดต่างๆ ได้แก่ สงขลา ปัตตานี ตรัง สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต มีความพร้อมในการส่งเสริมให้ภาคใต้ของประเทศไทยเป็นศูนยืกลางการผลิตอาหาร สินค้า และบริการที่ถูกต้องตามหลักสาสนาอิสลาม ปัจจุบันมหาวิทยาลัยไดให้ความสำคัญในกิจการด้านนี้ ด้วยการจัดตั้งให้มีสถานบันฮาลาล ทั้งที่วิทยาเขตหาดใหญ่ และปัตตานี เพื่อทำหน้าที่ประสานงานหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์กรและขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาสินค้าและบริการฮาลาลโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ด้วยการนำองค์ความรู้ในด้านต่างๆ มาบูรณาการให้เป็นเครื่องมือการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม สร้างโอกาสให้ปาะชากรมุสลิมในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการผลิตและจำหน่ายสินค้าบริการด้านฮาลาล
การจัดงานแสดงสินค้าและการประชุมสัมมนานานาชาติด้านฮาลาล 2557 ครั้งนี้ถือว่าเป็นการจัดงานครั้งที่ 4 ของสถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยกำหนดแนวคิดในการจัดงานครั้งนี้ว่า AEC จะก้าวไปสู่แหล่งผลิตสินค้าและบริการที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามให้กับมุสลิมทั่วโลก หรือAEC :An integrity Halal Hub For Muslims Around the World
ทางด้านดร. กิตติ เจิดรังสี รองผู้อำนวยการ สถาบันฮาลาลฝ่ายพัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า ในการจัดงานครั้งนี้ ได้มีการจัด Halal Collaboration Forum และเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน เช่น สมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจำ 14 + 1 จังหวัดภาคใต้ องค์กรขับเคลื่อนด้านฮาลาลทั้งในและต่างประเทศ เพื่อการเจรจาความร่วมมือด้านฮาลาล ขับเคลื่อนงานด้านฮาลาล และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นองค์ความรู้ด้านฮาลาล ตลอดจนงานแสดงสินค้า บริการและอาหารฮาลาลมากมายหลากหลายที่สุดแห่งปี
โดยมีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยให้เป็นแหล่งขององค์ความรู้ ฐานการผลิตสินค้าบริโภค อุปโภค และบริการด้านฮาลาลในระดับประเทศและนานาชาติ
2. เพื่อกระตุ้นผู้ผลิตสินค้าบริโภค อุปโภค และบริการด้านฮาลาลในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เกิดความตื่นตัวและสร้างโอกาสในการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ฮาลาลให้เป็นที่รู้จักทั้งมุสลิมและศาสนิกอื่นมากยิ่งขึ้น
3. เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างงาน การขยายธุรกิจที่สอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เชื่อมโยงกับประเทศมุสลิมในภูมิภาคอื่น ๆ
4. เพื่อผลักดันให้เกิดการประสานงานที่ดีระหว่างสถาบันฮาลาลกับหน่วยงานต่าง ๆนำไปสู่การทำงานร่วมกันในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และการพัฒนาประเทศชาติ
5. เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างมุสลิมกับประชาชนทุกศาสนิกในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และในภูมิภาคอื่น ๆ ของประเทศไทย
6. เพื่อส่งเสริมยกระดับความสามารถ สร้างโอกาสให้ผู้ผลิตสินค้า/บริการฮาลาลไทยสู่ตลาดฮาลาลโลก
7. เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการทั้งภายในและต่างประเทศ
8. เพื่อเปิดโอกาสการเจรจาความร่วมมือในการขับเคลื่อนงานด้านฮาลาลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและต่างประเทศ
โดยมีร้านค้า จำนวน 250 บูส ซึ่งจะมีการแบ่งส่วนพื้นที่ตามประเภทของสินค้า ประกอบด้วย 1) ผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาล 2) เครื่องสำอางฮาล 3) เครื่องแต่งกายมุสลิมเครื่องนุ่งห่ม และหัตถกรรมพื้นบ้าน 4) บริการฮาลาล 5) เครื่องจักรและบรรจุภัณฑ์ 6) หนังสือและซีดีรายการโทรทัศน์มุสลิม 7) กิจกรรมของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศนอกจากนี้ยังจะมีกิจกรรมการสัมมนาวิชาการและการแสดงนิทรรศการ
ทางด้านดร.พีระพงศ์ ทีฆสกุล รองอธิการบดีฝ่ายระบบวิจัยและบัณฑิตศึกษา กล่าวว่า ภารกิจของมหาวิทยาลัย ถูกปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน เช่นการจัดตั้งวิทยาลัยอิสลามศึกษาที่วิทยาเขตปัตตานี การจัดตั้งสถาบันฮาลาลทั้งที่วิทยาเขตปัตต่านีและวิทยาเขตหาดใหญ่ เพื่อสนับสนุนด้านวิชาการแขนงต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการทุกระดับ ตั้งแต่วิสาหกิชุมชน จนถึงระดับโรงงานขนาดใหญ่ และการให้บริการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ฮาลาลในห้องปฎิบัติการ เพื่อสร้างความมั่นใจจให้กับผุ้บริโภค นอกจากนี้มหาวิทยาลัยฯ ยังได้จัดสรรทุนสนับสนุนด้านการวิจัยเพื่อให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาอาหาร ผลิตภัณฑ์ และบริการด้านฮาลาลเพื่อสนับสนุนในด้านการค้า การลงทุน การดำเนินธุรกิจเพื่อการจำหน่ายในประเทศและส่งออก
ด้านผศ.ดร.วรวิทย์ บารู ประธานเครือข่ายสหกรณ์อิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เครื่อข่ายสหกรณ์อิสลามแห่งประเทศไทยประกอบด้วยสมาชิกซึ่งเป็นสหกรณ์อิสลามทั่วประเทศไทยโดยปกติจะมีการจัดสัมมนาปีละครั้ง และในปีนี้เครือข่ายสหกรณือิสลามฯเห็นว่าสถาบันฮาลาลได้มีการจัดงานเป็นประจำทุกปี และมีวัตถุประสงค์การจัดงานที่สามารถให้การสนับสนุนแก่กันและกันได้ จึงได้เสนอตัวเข้ามามีสวนร่วมในการจัดงานแสดงสินค้าและการประชุมสัมมนานานาชาติด้านฮาลาล พ.ศ. 2557
เครือข่ายสหกรณ์อิสลามแห่งประเทศไทย ขอให้การรับรองว่าการร่วมการจัดงานในครั้งนี้จะทำให้กิจกรรมของงานมีความสอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของมุสลิมตามหลักศาสนาอิสลามในหลากหลายมิติ ทั้งด้านเยาวชน การศึกษา การสร้างความสุขในครอบครัวการบริโภคอาหาร การเลือกใช้บริการที่สอดคล้องตามหลักศาสนา การออมเงิน และการลงทุน ซึ่งจะมีสมาชิกมาร่วมกิจกรรมไม่ต่ำกว่าวันละ 700 ถึง 800 คน รวมทั้งจะนำสมาชิกเครือข่ายสหกรณ์มาปรุงอาหารฮาลาล ซึ่งมาจากพื้นที่ต่างๆ มาให้ซิมถึงศุนย์ประชุมนานาชาติฯ ทั้งกิจกรรมที่สำคัญในงานจะมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุและโทรทัศน์ในเครือข่ายของสหกรณ์อิสลาม
ทางด้านนายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้นอกจากจะส่งเสริมให้ผุ้บริโภคมุสลิมได้รับอาหารและบริการที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นผุ้ประกอบการการผลิตสินค้าบริโภค อุปโภค และบริการด้านฮาลาลในจังหวัดสงขลาและจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดความตื่นตัว และยังให้ผุ้ประกอบการในภาคใต้ได้มีโอกาสเผยแพร่แหล่งผลิตและผลิตภัณฑ์ฮาลาลให้เป็นที่รู้จักทั้งมุสลิมและศาสนาอื่นมากยิ่งขึ้น ผมเชื่อมั่นว่าการจัดงานในครั่งนี้จะก่อให้เกิดการประสานงานที่ดีขององค์ดรต่างๆ เพื่อนำไปสู่การทำงานร่วมกันในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ไม่มีความเห็น