การบริการวิชาการแก่สังคมผ่านการเรียนการสอน นับเป็นหัวใจหลักอีกหนึ่งเรื่องในการขับเคลื่อนโครงการหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน โดยสื่อให้เห็นถึงการใช้ชุมชนเป็นห้องเรียน ให้นิสิตและชุมชนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และดำเนินการไปบนฐานคิดอันสำคัญคือ “การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม” หรือ “เรียนรู้คู่บริการ”
โครงการ “พัฒนาสื่อประกอบการสอนแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนบ้านดอนจำปาดอนสวรรค์ ตำบลโพนงาม อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม” เป็นอีกหนึ่งโครงการจากหลักสูตรคอมพิวเตอร์แอนเมชันและเกม (คณะวิทยาการสารสนเทศ) ที่สะท้อนภาพตามหลักคิดเบื้องต้นได้อย่างน่าสนใจ
โครงการดังกล่าวมีอาจารย์อรทัย สุทธิจักษ์ เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ใช้รายวิชา 1205340 สัมมนาทางคอมพิวเตอร์แอนิเมชัน (Seminar in Computer Animation) บูรณาการกับการบริการวิชาการแก่สังคม ประกอบด้วยนิสิตที่ลงทะเบียนเรียนจำนวน 12 คน กล่าวคือระบบพิเศษเทียบโอน 11 คนและนิสิตระบบพิเศษ 1 คน เบื้องต้นนั้นได้ออกแบบกระบวนการให้นิสิตมีส่วนร่วมกับกิจกรรมด้วยการเป็นส่วนหนึ่งกับการค้นหา “โจทย์” ร่วมกับอาจารย์และชุมชน ทั้งการวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุของการจัดการเรียนการสอนในชุมชน การจัดลำดับความสำคัญอันเป็นความต้องการของชุมชน ตลอดจนการนำความต้องการของชุมชนมาบูรณาการให้เข้ากับ “ศาสตร์” ของหลักสูตร หรือบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอน
ระยะแรกเริ่มก่อนการลงชุมชน เห็นได้ชัดว่าอาจารย์ออกแบบกระบวนการเรียนรู้จาก “ห้องเรียนมหาวิทยาลัยสู่ห้องเรียนชุมชน” อย่างเป็นขั้นตอน นับตั้งแต่การสอนทฤษฏีเกี่ยวกับการสัมมนาบริการวิชาการ เช่น
ซึ่งล้วนเป็นความรู้และทักษะที่ยึดโยงกับการเรียนรู้ทั้งในมหาวิทยาลัยและชุมชนอย่างแท้จริง
จวบจนนิสิตเริ่มเข้าใจกระบวนการเรียนรู้มากขึ้น ทั้งนิสิตและอาจารย์จึงร่วมกันเขียนแผนการดำเนินงานการบริการวิชาการและการเรียนการสอนตามหลักคิดของ PDCA มีการจัดทำแบบสอบถาม เพื่อเก็บข้อมูลปัญหาการใช้สื่อการเรียนการสอนของคณะครู และการสำรวจความต้องการของคณะครูในการสร้างสื่อการเรียนการสอน
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการในภาคทฤษฎีแล้ว อาจารย์ก็นำพานิสิตลงชุมชนเพื่อเก็บข้อมูล โดยระยะแรกอาจารย์ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหลัก ถัดจากนั้นจึงเริ่มปล่อยให้นิสิตได้บริหารจัดการกระบวนการลงสู่ชุมชนด้วยตนเอง เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว นิสิตจะร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูล โดยอาจารย์จะคอยเป็นผู้ชี้แนวทางและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าคณะครูต้องการให้ช่วยอบรมการสร้างสื่อด้วยโปรแกรม 2 โปรแกรม คือ
ดังนั้นนิสิตจึงแบ่งกลุ่มออกเป็น ๒ กลุ่มเพื่อรับผิดชอบเรื่องที่จะนำไปสู่การบริการวิชาการแก่สังคมนับตั้งแต่การการศึกษาวิเคราะห์หัวข้อที่จะอบรม วิเคราะห์ 5W1H การจัดทำเอกสารทางราชการ การติดต่อประสานงาน การสร้างคู่มือประกอบการอบรม การจัดทำสื่อตัวอย่างเพื่อใช้ในการอบรม รวมถึงกระบวนการอื่นๆ เช่น จัดทำใบลงทะเบียน เขียนคำกล่าวรายงานและคำกล่าวเปิด-ปิดโครงการ ออกแบบป้ายไวนิล ออกแบบแบบประเมินโครงการ และแบบทดสอบก่อนและหลังการอบรม ฯลฯ
นอกจากกระบวนการเรียนรู้ของนิสิตบนฐานคิด “ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง” ข้างต้นแล้ว อาจารย์ผู้สอนฯ ยังได้จัดอบรมเรื่องการใช้โปรแกรมทั้งสองโปรแกรมให้กับนิสิตอีกรอบ เพื่อให้นิสิตเกิดความรู้ความชำนาญมากขึ้น เช่นเดียวกับการให้นิสิตมานำเสนอความก้าวหน้าของงานที่ได้รับมอบหมายต่ออาจารย์ผู้สอนและอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการอีก 3 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายก่อนลงชุมชน จะเป็นการจำลองสถานการณ์การจัดสัมมนา ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมงาน เปิดงาน ปฏิบัติการ และการสรุปผล (ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ)
จากนั้นจึงให้นิสิตลงชุมชนเพื่อบริการวิชาการภายใต้ชื่อ “หนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน” ซึ่งมีอาจารย์คอยกำกับดูแล ให้คำปรึกษาในขั้นตอนต่างๆ และเมื่อเสร็จสิ้นการดำเนินงานในแต่ละวัน จะมีเวทีสรุปงานร่วมกัน (แลกเปลี่ยนเรียนรู้) เป็น “การจัดการความรู้” และ “การจัดการความรัก” ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนไปในตัวอย่างเสร็จสรรพ
ผลพวงของการจัดกระบวนการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมดังกล่าว พบว่านิสิตสามารถจัดสัมมนาด้วยตนเองได้อย่างเป็นระบบ เกิดการพัฒนาเองในด้านความรับผิดชอบต่อหน้าที่ รู้จักการทำงานร่วมกันเป็นทีม ได้เรียนรู้หลักการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ได้เรียนรู้วิธีชีวิตของชุมชน รวมถึงการเรียนรู้ภูมิปัญญาของชาวบ้านในเรื่องของการทำขนมข้าวต้มงอก ขนมจีนน้ำยา ซึ่งเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ของนิสิตที่ค้นพบจากการเรียนรู้นอกชั้นเรียนผ่านเวทีหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน
เช่นเดียวกับการที่นิสิตรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองที่สามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับคณะครูได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ครูสามารถสร้างสื่อการเรียนการสอนได้ด้วยตนเองบนฐานของการมีส่วนร่วมของครูกับนักเรียน และสามารถนำวัตถุดิบอันเป็นข้อมูลในชุมชนมาประยุกต์เป็นสื่อการเรียนการสอนได้มากขึ้น และสื่อที่สร้างนั้นก็สอดคล้องกับความต้องการ หรือหลักการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างแท้จริง มิใช่จ่อมจมอยู่กับสื่อสำเร็จรูปที่ได้รับมาจากส่วนกลางสถานเดียว
ภาพโดย : นิสิตโครงการหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน
ต้นเรื่อง : อาจารย์อรทัย สุทธิจักษ์
นับเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งในเชิงคุณธรรมและความรู้ที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในวิถีชีวิตประจำวันต่อไปค่ะ
ครับ พี่ใหญ่ นงนาท สนธิสุวรรณ ผมชอบหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน เพราะทำให้นิสิตมีบทบาทต่อการเรียนรู้ของตนเอง ได้สัมผัสชุมชน ได้บริการชุมชน การบริการนี่แหละครับที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขามีค่า และเขามีหน้าที่ มีความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน...
หนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน คือการปฏิรูปการเรียนการสอนจากมหาลัยสู่ชุมชน- รับใช้สังคม สร้างกระบวนการจิตอาสาผ่านหลักสูตรในชั้นเรียนโดยตรง...และยังบ่มทักษะชีวิตหลากมิติได้อีกต่างหาก
ขอบพระคุณครับ
มาชื่นชมกิจกรรมที่ดีมีประโยชน์ค่ะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ แผ่นดิน มาชมกิจกรรมดีๆค่ะ
ชื่นชอบ ชื่นชมกิจกรรมของอาจารย์มาก ๆ จ้ะ
กิจกรรมแบบนี้
ครูและนักเรียนได้เรียนรู้จริงๆ
นิสิตก็ได้เรียนรู้เรื่องการถ่ายทอดด้วย
ขอบคุณมากๆครับ
คนดีศรีสารคามนามพนัส
ท่านถนัดคุณธรรมนำหนุนส่ง
สอนศิษย์ให้ใฝ่ดีและซื่อตรง
ครูผู้คงความดีงามนามแผ่นดิน