ซึ่งจุดนี้ต้องบอกเลยว่า เลิกฝันแล้วไปหาอะไรอย่างอื่นทำเลยจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลาชีวิต
“ดีเจสมัยนี้มันไม่ได้เปิดเพลงเองแล้ว!” น้องดีเจคนหนึ่งที่อาสามาเป็นแนวร่วมยุติฝันบอกอย่างเซ็งๆ ขณะที่ให้ข้อมูลสำหรับเนื้อหาในตอนนี้ ทำเอาวิชัยแอบสะเทือนจิตนิดหน่อยที่ได้รู้ความจริง
จากคำบอกเล่า สมัยก่อนนู้น ดีเจเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องหาซื้อแผ่นเสียง หาซื้อเทปมาเปิดเองในคลื่นวิทยุ แปลว่าจะมีต้องมีความรู้ในเรื่องเพลงจริงๆ อินอย่างจริงจังในเรื่องที่ตัวเองทำ รู้หมดว่านักร้องคนนี้มีผลงานมาแล้วกี่ชุด เพลงอะไรดัง เพลงอะไรกำลังจะดัง พอดีเจเป็นคนเอาเพลงมาเปิดเอง มันก็เลยทำให้เกิดค่านิยมในหมู่ดีเจด้วยกัน ว่าการหาเพลงเท่ๆ แนวๆ มาเปิดได้นั้นคือเรื่องที่เท่ ดีเจคนอื่นกลัวน้อยหน้าก็ทำบ้าง กลายเป็นแข่งกันเท่ ผลที่ได้คือ วงการเพลงบนวิทยุเบ่งบาน คนที่ได้กำไรที่สุดคือคนฟังที่จะได้ฟังเพลงที่หลากหลายแนวมากขึ้น แต่ยุคนี้มันไม่ใช่
ยุคดิจิตอลโชเชียลเน็ตเวิร์กตอนนี้ คนไม่ฟังวิทยุกันแล้วฮะ ทีวีก็ไม่ดู คนแชตไลน์
อัปเฟซบุ๊ค เล่นทวิตเตอร์กันอย่างเดียว
ทำให้ความฝันของคนที่มีต่อดีเจยังเหมือนเดิม แต่ดีเจสมัยนี้หน้าตาไม่เหมือนเดิมแล้ว
อ้างอิงจาก http://minimore.com/b/02Cmt/3
ไม่มีความเห็น