วิธีคิดเมื่อต้องเป็นผู้แพ้
ในสังคมปัจจุบันต่างก็มีการแข่งขันกันในหลาย ๆ ด้าน ดังนั้น ใครๆ ก็อยากเป็นผู้ชนะ และชื่นชมผู้ชนะ แต่มนุษย์ทุกคนย่อมมีโอกาสเป็นผู้แพ้ได้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาต่าง ๆ เข้ามาในชีวิตทำให้ผู้แพ้เกิดการท้อถ้อย ท้อแท้ต่อการดำเนินชีวิต รวมทั้งอยู่อย่างไม่มีความสุข เช่น แพ้ในเรื่องการทำงาน การบริหาร ชีวิตส่วนตัว ครอบครัว ชีวิตรัก ฯลฯ
เมื่อเรารู้สึกว่าตัวเองเริ่มมีอาการท้อแท้ต่อชีวิต คิดว่าเราเริ่มแพ้ต่อสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิตเรามีวิธีที่รับมือกับปัญหาต่าง ๆ ได้หากเรามีกำลังใจที่ดี และมีความเข้มแข็งที่จะเผชิญกับปัญหาในด้านต่าง ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตของเราได้เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นให้ผ่านไปได้ด้วยดี
1.รับความจริงอาจจะเจ็บปวดบ้างในการจะต้องรับความจริงว่าเราเป็นผู้แพ้ แต่เมื่อทำเต็มที่แล้ว ถึงจะแพ้เราก็ต้องรับความจริงให้ได้
2.มองโลกในแง่ดี แม้จะล้มเหลวหรือเป็นผู้แพ้แล้วก็ต้องฝึกการมองโลกในแง่ดีให้ได้คนที่ประสบความสำเร็จ อันยิ่งใหญ่มักล้มเหลวมาก่อนทั้งนั้น
3.มีอารมณ์ขัน อย่าจริงจังกับชีวิตนักทุกอย่างมีขึ้นและมีลง มีทุกข์สุขสลับกันไป ซึ่งเป็นเรื่องของอนิจจัง อนัตตา ซึ่งเป็นหลักความจริงของโลกและชีวิต ต้องยอมรับให้ได้ การจริงจังกับชีวิตมากไปจะทำให้ขาดอารมณ์ขัน กลายเป็นความเครียด ดังคำกล่าวที่ว่า “เกียรติยศอันยิ่งใหญ่ที่สุดไม่ใช่การไม่เคยล้ม แต่อยู่ที่การลุกขึ้นมาสู้ใหม่ทุกครั้งที่ล้มลงต่างหาก”
4.ปรับตัวเข้าหากับสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่มีลักษณะพิเศษที่ปรับตัวได้ง่าย ถ้าอยากทำควรจะเป็นผู้ขยัน อดทน หมั่นหาความรู้ใส่ตัว และกล้าทำในสิ่งใหม่ๆ อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องปรับตัวให้มีให้ได้ก็คือ การมีคุณธรรม ได้แก่ กตัญญูกตเวที เสียสละ รับผิดชอบ ซื่อสัตย์ รักเพื่อนมนุษย์
การที่ทุกคนมีคุณธรรมหรือความดี ย่อมทำให้คนสรรเสริญ และพร้อมที่จะช่วยเหลือ และพร้อมเป็นกำลังใจให้ตลอดเวลา เพียงแค่เราอย่าสูญเสียกำลังใจ มีความกระตือรือร้น ตั้งใจถึงจุดมุ่งหมายที่จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้ บอกกับตัวเองว่าเราเป็นคนเก่ง คนดี มากแล้ว ความสุขและกำลังใจจะเกิดขึ้นทุกครั้ง ที่เราลงมือทำและคิดที่จะทำเพื่อความสำเร็จและจะอยู่อย่างมีความสุขไม่มีเรื่องทุกข์ใจต่อไปในอนาคตที่จะเกิดขึ้น
ที่มา หนังสือธรรมะสอนใจ
นางแสงแข ไชยชนะ
สาขางานคอมพิวเตอร์ธุรกิจและวิชาชีพ
ไม่มีความเห็น