เปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นสุขด้วยตนเอง


เปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นสุขด้วยตนเอง


ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่มีความทุกข์หรือเกิดทุกข์กันมาก ผลที่ตามมาไม่ได้มีต่อจิตใจหรืออารมณ์เท่านั้น แต่จะมีผลกระทบต่อร่างกายและความเป็นอยู่ทุกอย่างของเราด้วย เช่น คนส่วนใหญ่จะกินไม่ได้ นอนไม่หลับ หรือบางคนอาจจะกินมากขึ้น นอนมากกว่าปกติ ไม่อยากพูดกับใคร ไม่อยากทำงาน หรือทำงานไม่ได้เพราะจิตใจว้าวุ่นถ้าเรารู้สึกว่าทุกข์มาก กลุ้มมาก ควรจะขจัดออกไปให้เร็วและมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

การหาสาเหตุของความทุกข์นั้นให้เราคิดโดยง่าย ๆ ว่าตัวเราทุกข์เรื่องอะไร ใครที่ทำให้เราทุกข์ และตัวเรามีส่วนทำให้เกิดความทุกข์เองด้วยหรือไม่ เช่น คนรักทิ้งเราไป ตัวเขาเป็นสาเหตุให้เราทุกข์ใจ แต่อาจมีสาเหตุมาจากเราด้วยหรือไม่ เป็นต้นว่า เราดูแลเขาดีพอหรือเปล่า เราทำให้เขาไม่เห็นคุณค่าในตัวเราหรือไม่ หรือเราให้ความสำคัญต่อเขามากกว่าตัวเราหรือเปล่าจนทำให้เรารู้สึกแย่ หมดคุณค่าเมื่อเขาทิ้งเราไปทั้งๆ ที่เราก็ยังมีอะไรดีๆ อีกหลายอย่างระบายความทุกข์ หรือปัญหาเรื่องงาน ที่ทำให้เรารู้สึกอัดอัด แย่ ไม่มีจิตใจในการทำงาน เครียด วิธีการดับเครียด ให้เราพูดคุยกับเพื่อนสนิทหรือญาติผู้ใหญ่ที่รับฟังเราไม่ต้องกลัวเขาจะหาว่าเราอ่อนแอ ไม่เข้มแข็ง ถ้าเราไม่ได้ระบายความทุกข์ออกบ้างต้องเก็บไว้คนเดียวเราจะรู้สึกอึดอัด แต่ถ้าได้พูดให้ใครฟังบ้างเรื่องความทุกข์นั้น จะรบกวนความรู้สึกนึกคิดของเราน้อยลง จะทำให้เรามองเห็นทางที่จะแก้ไขปัญหาได้ง่ายขึ้น เรื่องอะไร เราจะเก็บความทุกข์เอาไว้คนเดียว หากิจกรรมทำเพื่อให้เหนื่อยและเป็นการดึงความคิดเกี่ยวกับความทุกข์ออกไปจากตนเองและช่วยให้หลุดพ้นจากวังวนความคิดด้วยตนเอง ถ้ามีงานทำอยู่แล้วก็ควรทุ่มเทกับงานให้มาก เช่น ทำงานบ้าน ปลูกต้นไม้ เล่นกีฬา หรือออกกำลังกาย

ท้ายที่สุดนี้เมื่อเราเปลี่ยนความทุกข์ให้กลายเป็นความสุขแล้ว เท่ากับว่าเราลดอายุลงไปได้อีกตั้ง 1 ปี หรือเรียกง่าย ๆ ลดความชราลง ทำให้ตนเองรู้จักการปล่อยวาง และรู้ว่าตนเองมีคุณค่ามากขึ้น และมีคนที่รักเราอีกมากมายที่คอยให้กำลังใจเราอยู่
*******************************************

ที่มาของข้อมูล: จาก จากคู่มือดูแลตนเอง เรื่อง ทำอย่างไรเมื่อใจเป็นทุกข์ หน้า 9-17 โดย. กรมสุขภาพจิต

กระทรวงสาธารณสุข

อาจารย์รุ้งมณี พันธุ์พฤกษ์ชาติ

สาขางานคอมพิวเตอร์ธุรกิจและวิชาชีพ

คำสำคัญ (Tags): #anw2
หมายเลขบันทึก: 574772เขียนเมื่อ 18 สิงหาคม 2014 14:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 สิงหาคม 2014 14:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท