บ่ายวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๗ ผมลงเครื่องบินนกแอร์ที่สนามบินดอนเมือง ไปเข้าคิวขึ้นรถแท็กซี่สาธารณะท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งคิวยาวมาก พบปรากฏการณ์หลายอย่าง สำหรับนำมาตั้งข้อสังเกต
เรื่องแรกคือวัฒนธรรมแซงคิวของคนไทย ผมสังเกตเห็นคนหนุ่มสาวหลายคนอาศัยความคล่องตัว เดินแซงหน้าคนอื่นหน้าตาเฉย เป็นปรากฏการณ์ความเสื่อมโทรมในจิตใจคนไทยหรือเปล่าก็ไม่ทราบ
เรื่องที่สองก็เป็นการแซงคิวเหมือนกัน แต่ดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทจัดคิว ชื่อ บริษัทพลังร่วม จำกัด และทำให้ผู้โดยสารต้องจ่ายเงินเพิ่ม ๕๐ บาท แต่บริการไม่ดี เวลานี้เขามีช่องให้ออกไปที่ทางเท้ารอขึ้น แท็กซี่ ๗ - ๘ ช่อง ผมไปยืนรอที่ช่องที่ ๑ สังเกตว่า มีเจ้าหน้าที่พาคนมารอก่อนช่อง ๑ และเมื่อรถแท็กซี่ มาจอด ก็ได้ขึ้นรถก่อน
ผมกะว่า ครั้งต่อไปผมจะลองเดินไปที่หน้าโรงแรม อะมารี แอร์พอร์ท ไปหาแท็กซี่ที่นั่น หรืออาจนัดให้คุณสุพรรณ คนขับแท็กซี่เจ้าประจำไปรับ จะเลิกใช้บริการแท็กซี่ของสนามบิน ที่จัดการโดยบริษัทพลังร่วม
เรื่องที่สาม คือ การที่คิวแท็กซี่ยาว ต้องรอนานอาจจะเกิดจากความจงใจของเจ้าหน้าที่ เพราะเมื่อผมขึ้นแท็กซี่ได้แล้ว ก็ทราบว่าจริงๆ แล้ว รถแท็กซี่ต้องรออยู่นาน กว่าจะได้ขึ้นไปรับผู้โดยสาร การที่ผมเห็นลานจอด/ขึ้นรถแท็กซี่ว่าง จึงเกิดจากเจ้าหน้าที่ไม่เรียกรถขึ้นมา อาจเกิดจากระบบไม่ดี หรือจงใจให้ช้า คิวยาว เพื่อหากินกับผู้โดยสารที่ต้องการลัดคิว
โชเฟอร์แท็กซี่บอกว่า ทางฝั่งคนขับแท็กซี่ก็เดือดร้อน เพราะเจ้าหน้าที่ของบริษัทจัดคิวเล่นพวก หรือหากินกับคนขับที่ติดสินบน เรียกผู้โดยสารฝรั่งหรือที่ต้องการเหมาให้ ร้องเรียนก็ไม่ได้ผล
สังคมไทย เต็มไปด้วยความโสโครก ที่ต้องการการชำระล้าง
วิจารณ์ พานิช
๒๗ มิ.ย. ๕๗
หาก คสช มาเยี่ยม Blog ท่านอาจารย์ น่าจะแก้ปัญหาได้นะครับ ไปฮ่องกง หรือ ประเทศอื่นๆ ไม่เห็นยุ่งยากเท่า สนามบินบ้านเรานะครับ แปลกดี ทั้งๆที่ รถ Taxi มีรอให้บริการมากมาย แต่ปัญหา ที่ สนามบิน ไม่มีใครสนใจ ครับ
"ระบบ..ที่ประเทศอื่นไม่...มี....พบเห็นได้..ในเมืองไทย..และ..มีมาก่อน..ระบบทักษิน...(ที่เรียกกัน..ในเมืองไทย)...ความโสโครก..นั้น..ล้างไม่ได้...ด้วย..ผงซักฟอก...หรือน้ำยาขจัดคราบ..ชั้นหนึ่ง...ที่มาจากนอกประเทศ...(แงๆๆๆๆๆ)...