จดหมายเปิดผนึกถึง ท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา


ที่หายนะทุกวันนี้ ก็เพราะ มีแต่ด้านการปกครองเพียงฝ่ายเดียว จะเห็นได้ว่า ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ ได้ละทิ้งการเมืองของประชาชนมายาวนานกว่า 82 ปีแล้ว ประชาชนจึงไม่ได้พัฒนาการเมืองของตนเองเลย ต้องตกเป็นทาสทางการเมืองของผู้ปกครองหรือนักการเมืองไปตามครรลองของกฎหมายที่บังคับไว้มาตลอด ทั้งเป็นการหลอกประชาชนว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย โดยหลอกลวงว่า “รัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย” การคืนประชาธิปไตย คือ ร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ แต่ผลออกมามันกลายเป็นระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญทุกครั้งไป ขอเชิญท่านพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และปัญญาชนทั้งหลายมาดูแนวทางที่ถูกต้ององค์ความรู้ที่ยิ่งใหญ่ของชาติและประชาชน คือการจัดสัมพันธภาพที่ถูกต้อง อะไรคือเหตุ อะไรคือผล อะไรคือจุดหมาย อะไรคือวิธีการ ฯลฯ ดังนี้ สัมพันธภาพ ดังกล่าวนี้ เป็นของง่ายๆ จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว ฉันใด การเมืองเป็นนาย การปกครองเป็นบ่าว ฉันนั้น จุดหมาย มาก่อน วิธีการ ฉันใด หลักการปกครองธรรมาธิปไตย ต้องมาก่อนธรรมนูญการปกครอง หรือ กฎหมายรัฐธรรมนูญ ฉันนั้น ประชาชนมาก่อน ผู้ปกครอง ฉันใด หลักการปกครองโดยธรรม (ระบอบ) ต้องมาก่อน ธรรมนูญการปกครอง กฎหมายรัฐธรรมนูญ ฉันนั้น

ผมได้รับเอกสารจากท่าน ดร.ป.เพชรอริยะ ผู้ซึ่งทำงานอย่างแข็งขันเพื่อความถูกต้องในการจัดตั้งหลักการปกครองที่เป็นธรรม เพื่อใช้เป็นหลักในการปกครองประเทศไทย ถึงแม้นเอกสารฉบับนี้จะสายไปเนื่องจาก ได้ผ่านการทูลเกล้าฯและได้รับการพระราชทานมาแล้ว แต่ผมก็ยังมีความหวังว่าสมาชิกปฎิรูปจะนำข้อเสนอของท่าน ดร.ป.เพชรอริยะ มาพิจารณาในการร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ โปรดอ่านสาระของจดหมายด้านล่าง ผมเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

23 กรกฎาคม 2557

จดหมายเปิดผนึก ถึงท่านพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เรื่อง ยับยั้งการทูลเกล้าฯ ธรรมนูญการปกครอง

เรียน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

เรามาบอกท่านฯ อย่างสัจธรรม ทำให้ท่านฯ เป็นรัฐบุรุษคนสำคัญยิ่งของชาติ แรกเริ่ม ผู้เขียนมีความยินดีอย่างยิ่งกับ คสช. โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใช้กองทัพแห่งชาติทำภารกิจยิ่งใหญ่ในฐานะองค์ประกอบแห่งรัฐ ทำการรัฐประหาร โค่นอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นรัฐบาลภายใต้ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ และ คสช. ก็ได้มีคำสั่งยกเลิกกฎหมายรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 50 ลงด้วย

นั่นก็หมายความว่า คสช. ได้โค่นระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญลงไปแล้ว นับแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จนถึงวันนี้ 14 กรกฎาคม 2557 ซากเดนของระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ ยังคงอยู่ พูดง่ายๆ ว่า ความดำรงอยู่เดิมๆ (Being) หรือสภาวการณ์ของระบอบเผด็จการยังคงอยู่ เพียงแต่แสดงอำนาจไม่ได้เต็มที่

ในแนวทางที่ถูกต้องยิ่งใหญ่ของชาติคือ คสช. ต้องสถาปนาระบอบใหม่ เป็นระบอบประชาธิปไตยโดยธรรม หรือเรียกว่าสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของระบอบประชาธิปไตยที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย

จนถึงนาทีนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำได้ทันที เพราะถือว่า ท่านเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ ใช้อำนาจอธิปไตยในนามปวงชน หากท่านมีจุดยืนเพื่อประชาชน โดยความเป็นธรรม แค่ฉุกคิด “ประชาชนย่อมมาก่อนผู้ปกครอง ฉันใด การสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย ย่อมเกิดก่อน ทำก่อน ธรรมนูญการปกครองหรือกฎหมายรัฐธรรมนูญ ฉันนั้น”

แต่ คสช. ไม่มีองค์ความรู้เรื่องการสร้างระบอบประชาธิปไตย คสช. ไม่ทำ ไม่สถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม แต่ คสช. เลือกที่จะทำผิดๆ ซ้ำรอยเดิม ตามอดีตคณะรัฐประหารนับแต่ครั้งแรก ที่คณะราษฎร ทำรัฐประหารล้มรัฐบาลสมเด็จพระปกเกล้าฯ จากนั้นก็ได้ ยกร่างธรรมนูญการปกครองชั่วคราวขึ้นบังคับใช้ ตามความมุ่งมาดปรารถนาอันสูงสุดของคณะราษฎร คือ “ธรรมนูญการปกครอง”

ซึ่งตรงกันข้ามกับความมุ่งมาดปรารถนาของสมเด็จพระปกเกล้าฯ คือ “หลัก Democracy” ซึ่งก็คือหลักการปกครองประชาธิปไตย นั่นเอง

ต่อมา คณะรัฐประหารรุ่นต่อมา และรุ่นล่าสุด คือ คสช. (เชื่อว่าไม่ใช่รุ่นสุดท้าย) ก็ยังคงเดินรอยตามแนวทางแห่งความหายนะ อัปรีย์ จัญไร ต่อชาติและประชาชนเช่นเดิม การเมืองการปกครองไทยได้ละทิ้งประชาชนมายาวนานกว่า 82 ปี ทั้งนี้เพราะความเห็นผิด คิดไม่เป็น องค์ความรู้ของผู้ปกครองต่ำมากๆ ดังสัมพันธภาพของระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญอันยาวนานกว่า 82 ปี ดังจะพิสูจน์ให้ท่านทั้งหลายได้รับรู้ความจริงทั่วกัน ดังนี้

สัมพันธภาพดังกล่าวนี้ ย่อมเป็นสัมพันธภาพของผู้ปกครองที่ไม่รู้อะไรเลย ไม่เข้าใจเรื่องสัมพันธภาพระหว่างจุดหมาย กับ วิธีการ ไม่เข้าใจเรื่องสัมพันธภาพระหว่างยุทธศาสตร์ (Strategy) กับยุทธวิธี (Tactics)

ขณะนี้ คสช. ไปเอาของผิดๆ ซ้ำซาก ซ้ำรอยเดิม คือ "ธรรมนูญการปกครอง" ซึ่งไม่เกี่ยวกับประชาชนเลย มันเป็นเรื่องของผู้ปกครองล้วนๆ การพูดว่าการคืนความสุขให้ประชาชน คือการหลอกลวงประชาชน เตือนเอาไว้ให้ฉุกคิด

ลักษณะอย่างนี้ คือ คืนความสุขให้กับผู้ปกครอง นักการเมือง เอาประชาชนเป็นทาสทางการเมือง เป็นเผด็จการรัฐธรรมนูญ เช่นเดิม ฉุกคิดกันเถิด

ที่หายนะทุกวันนี้ ก็เพราะ มีแต่ด้านการปกครองเพียงฝ่ายเดียว จะเห็นได้ว่า ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ ได้ละทิ้งการเมืองของประชาชนมายาวนานกว่า 82 ปีแล้ว ประชาชนจึงไม่ได้พัฒนาการเมืองของตนเองเลย ต้องตกเป็นทาสทางการเมืองของผู้ปกครองหรือนักการเมืองไปตามครรลองของกฎหมายที่บังคับไว้มาตลอด ทั้งเป็นการหลอกประชาชนว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย โดยหลอกลวงว่า “รัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย” การคืนประชาธิปไตย คือ ร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ แต่ผลออกมามันกลายเป็นระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญทุกครั้งไป อุบาทว์-อัปรีย์-จัญไร-หายนะทุกครั้งไป

แนวทางดังกล่าวนี้ เราขอยืนยัน ย้ำเสมอว่า “จะเขียน จะยกร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อสร้างระบอบประชาธิปไตย นั้น จะร่างสัก 100 ครั้ง 1,000 ฉบับ ก็ไม่มีทางที่จะได้ระบอบประชาธิปไตย มันจะได้แต่ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ ทุกครั้งไป” และมันเป็นเหตุร้ายของความขัดแย้ง การคอร์รัปชั่น ฯลฯ ประชาชนลุกขึ้นมาประท้วงรัฐบาล และรัฐประหารก็จะตามซ้ำรอยเดิมแนวทางอุบาทว์-อัปรีย์-จัญไร ฯลฯ เช่นเดิม

ขอเชิญท่านพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และปัญญาชนทั้งหลายมาดูแนวทางที่ถูกต้ององค์ความรู้ที่ยิ่งใหญ่ของชาติและประชาชน คือการจัดสัมพันธภาพที่ถูกต้อง อะไรคือเหตุ อะไรคือผล อะไรคือจุดหมาย อะไรคือวิธีการ ฯลฯ ดังนี้

สัมพันธภาพ ดังกล่าวนี้ เป็นของง่ายๆ จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว ฉันใด การเมืองเป็นนาย การปกครองเป็นบ่าว ฉันนั้น

จุดหมาย มาก่อน วิธีการ ฉันใด หลักการปกครองธรรมาธิปไตย ต้องมาก่อนธรรมนูญการปกครอง หรือ กฎหมายรัฐธรรมนูญ ฉันนั้น

ประชาชนมาก่อน ผู้ปกครอง ฉันใด หลักการปกครองโดยธรรม (ระบอบ) ต้องมาก่อน ธรรมนูญการปกครอง กฎหมายรัฐธรรมนูญ ฉันนั้น

ฯลฯ

แล้วที่ คสช. ทำอยู่ เอากายมาก่อน เอาผู้ปกครองมาก่อน เอาธรรมนูญการปกครองมาก่อน เพราะมันผิดสัจธรรม เรา ดร. ป. เพชรอริยะ จึงท้วงติง ตักเตือนและแนะนำด้วยความเมตตา เมตตา เมตตา มาตลอด นับแต่วันแรกที่ยึดอำนาจ (ย้อนไปอ่านบทความเก่าๆ ก่อนหน้านี้ได้เลย) แต่ คสช. คงงานเยอะ ทำดี ประชาชนชอบใจแต่ล้วนแล้วเป็นปัญหาปลายเหตุทั้งสิ้น อันเป็นของเสีย จากรัฐบาลเผด็จการฯ ชุดก่อน

สัมพันธภาพธรรมาธิปไตยคือ การคืนความสุขให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ประชาชนมาก่อน ประชาชนเป็นใหญ่กว่าผู้ปกครอง ตรวจสอบผู้ปกครองได้ ทำให้นักการเมืองก้มหัวให้กับประชาชน เป็นการยกย่องเชิดชูประชาชน เป็นการให้ศักยภาพแก่ประชาชน เป็นก้าวแรกแห่งชัยชนะของประชาชน

คสช. นำโดยท่านพลเอก ประยุทธ์จันทร์โอชา พึงนำไปพิจารณาอย่างจริงจังเถิด หากท่านทำตามที่แนะนำนี้ ท่านจะกลายเป็นรัฐบุรุษคนสำคัญของชาติยิ่งกว่ารัฐบุรุษคนไหนๆ

หากท่านฯ มีหู ตา กว้างไกล มีลูกน้องที่ดีมีคุณธรรม ท่านฯ ก็คงได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังอย่างแจ่มแจ้ง และนำไปปฏิบัติ ดร. ป. เพชรอริยะ ยินดีให้คำปรึกษาท่านฯ อย่างถึงที่สุด ทำให้ท่านเป็นรัฐบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของชาติให้จงได้ หลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 ยกมาเสนอโดยย่อ ดังนี้

หมายเลขบันทึก: 573096เขียนเมื่อ 23 กรกฎาคม 2014 17:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม 2014 17:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท