เมื่อตี 3 ของวันนี้ คุณยายที่รักของดร.ป๊อปไอและมีเสมหะมาก คุณแม่จับคุณยายนอนตะแคงไปข้างซ้ายตามที่ผมบอก คุณยายก็ไอจนเสมหะปนน้ำสีเหลืองพุ่งออกจากท่อหายใจ (เจาะคอ) หลายครั้งจนดูคุณยายไอแบบตัวโยนและเหนื่อยมาก แต่ผมตรวจประเมินแล้วคุณยายยังคงหายใจไม่โล่ง ชีพจรเต้นเร็ว และจับตัวดูอุ่นๆ จึงแนะนำให้คุณแม่ คุณพ่อ และน้องชาย นำตัวคุณยายเข้าห้องฉุกเฉิน อีก 2 ชม.ต่อมา ทางแพทย์ได้ตรวจปอดด้วยหูฟังแล้วไม่พบความผิดปกติใดๆ จึงให้ออกซิเจน พ่นยาขยายหลอดลมเล็กน้อย ดูดเสมหะจนหมด ล้างกระเพาะอาหาร แล้วเปลี่ยนท่อหายใจที่คอกับสายอาหารทางจมูก (รวม 1,320 บาท) และให้พาคุณยายกลับบ้านได้พร้อมสั่งยาแก้อักเสบ เมื่อถามว่า "อาจเป็นเพราะดูดเสมหะติดต่อกันหลายครั้ง จึงทำให้ดูเหมือนมีน้ำในปอด ใช่หรือไม่" คุณหมอตอบว่า "ไม่เป็นไร ดูดเสมหะได้บ่อยครั้ง"
ด้วยความง่วงๆ ผมตื่นขึ้นมาจึงอยากบันทึก "การดูดเสมหะที่มีประสิทธิผล" จึงขอบันทึกไว้ใน GotoKnow.Org เพื่อจะได้นำมาเตือนตัวเองและคุณพ่อคุณแม่ของผมในการดูแลคุณยายที่รัก โดยสรุปคือ:-
- ไม่มีกำหนดความถี่ต่อวันของการดูดเสมหะ ขึ้นอยู่กับการตรวจประเมินว่า คุณยายหายใจเสียงดังครืดคราด จับชีพจรเต้นเร็วหรือช้าเกินไป (ค่าปกติ 60-90 ครั้งต่อนาที) และหายใจเร็วหรือช้าเกินไป (ค่าปกติ 20 ครั้งต่อนาที)
- ควรบอกให้คุณยายพยายามไอขับเสมหะออกมาเองก่อน ถ้าทำได้ ก่อนดูดเสมหะทุกครั้ง
- สวมใส่ถุงมือสองข้างและดูดเสมหะด้วยเทคนิคปราศจากเชื้อ
- ไม่ควรหยอดน้ำเกลือก่อนการดูดเสมหะ ควรดูแลให้ความชุ่มชื่นเพียงพอ
- การดูดเสมหะแต่ละครั้งไม่ควรเกิน 10 วินาที ไม่ควรเกิน 2 ครั้งต่อ 1 รอบ แต่ละครั้งห่างกัน 30 วินาที และแต่ละรอบห่างกัน 3 นาที (ถ้ามีเสมหะค้างอยู่)
- ควรเปลี่ยนท่อเจาะคอเดือนละครั้ง (3-4 สัปดาห์)
- ขณะดูดเสมหะให้หมุนสายยางไปรอบๆ แล้วค่อยๆดึงสายขึ้นมาอย่างนุ่มนวล
- ให้ค่อยๆหันศีรษะไปทางซ้าย ถ้าต้องการดูดเสมหะจากทางเดินหายใจส่วนล่างข้างขวา แล้วทำกลับกันช้าๆ
- การให้ออกซิเจนก่อนการดูดเสมหะทำได้ในกรณีที่จำเป็น คือ การวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนลดลง
- ควรจัดท่าก่อนการดูดเสมหะที่ถูกต้องดังรูปทุกครั้ง
ที่มาของภาพการจัดท่า Semi-Fowler อ้างอิงจาก Defloor T., Herremans A., Grypdonck M. et al. Herziening Belgische richtlijnen voor Decubituspreventie. Brussel: Federaal Ministerie van Sociale Zaken, Volksgezondheid en Leefmilieu, 2004.
ซึ่งผมได้เรียนรู้จากแหล่งอ้างอิงที่น่าสนใจ คือ
- The Joanna Briggs Institute. Evidence best practice information sheets for health professionals. Best Practice 2000; 4(4): 1-6. Thai version translated by Assoc. Prof. Chaweewan Thongchai. คลิกอ่านและบันทึกเอกสารได้ที่นี่
- Rolls K, Smith K, Jones P, Tuipulotu M, Butcher R, Kent B, et al. Suctioning an adult with a tracheal tube. Australia: NSW Health, NSW Intensive Care Coordination and monitoring unit; 2007. คลิกอ่านและบันทึกเอกสารได้ที่นี่
- ณัฐพร กวีศรีสุวรรณ. การดูดเสมหะด้วยสายดูดเสมหะ. นครปฐม: มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะพยาบาลศาสตร์. คลิกดูได้ที่นี่
- ภาควิชาการพยาบาลรากฐาน. KM ภาควิชาและสำนักงาน เรื่อง ความก้าวหน้าในการจัดการเรียนการสอนวิชาทักษะพื้นฐานทางการพยาบาล หัวข้อ Suction. นครปฐม: มหาวิทยาลัยมหิดลม คณะพยาบาลศาสตร์. คลิกดูได้ที่นี่