ตื่นแต่เช้าเพราะเกิดอาการตื่นเต้นที่จะได้มาทำในสิ่งที่ตนยังไม่เคยทำมาก่อน วันนี้ไม่ใส่นาฬิกา ถอดคอนแทคเลนส์ ไม่แต่งหน้า ทาแป้ง รู้สึกแปลก ๆ ไปบ้าง ที่ไม่ได้กระทำในสิ่งที่ตนทำประจำ แต่นั่นล่ะ "สิ่งที่กระทำเป็นประจำสิ เป็นเรื่องแปลก แต่สิ่งที่ตนคิดจะกระทำในวันนี้ น่าจะเป็นเรื่องที่ต้องกระทำเป็นกิจวัตร
ลาป๊าและแม่มุ่งหน้าสู่ขอนแก่น......ถึงขอนแก่นแล้ว เล่นกับหลาน ๆ จนถึงเที่ยง อาอี๊กับเฮียมรอาสาจะพาเรามาส่งที่สถานปฏิบัติธรรม เราปฏิเสธ อยากขับรถไปคนเดียวมากกว่า
ที่สถานปฏิบัติธรรมเปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อเทียบกับห้าหกปีที่แล้ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังคงเดิม นั่นคือ "ความสงบ...." มาติดต่อที่สำนักงาน พบคุณลุงหน้าตาใจดีพุดน้อยคนหนึ่ง แนะนำวิธีการปฏิบัติตนอย่างคร่าว ๆ ให้ฟัง จับใจความได้ว่า เราต้องเปลี่ยนชุดที่ใส่มาเป็นนุ่งขาวห่มขาว กิจวัตรในแต่ละวันเริ่มจาก ตื่นตีสามครึ่ง เพื่อทำกิจธุระส่วนตัว ตีสี่ทำวัตรเช้าที่ศาลาหลังใหญ่ หลังจากนั้นลงมาศาลาหลังเล็ก ปฏิบัติกรรมฐานจนถึงหนึ่งโมงเช้า รับอาหารเช้าแล้วทำธุระส่วนตัวถึงสองโมงเช้า จากนั้นปฏิบัติกรรมฐานต่อจนถึงห้าโมงเช้า รับอาหารเที่ยง ทำกิจธุระสักครู่ ปฏิบัติกรรมฐานถึงบ่ายสามโมง จากนั้นพักผ่อนถึงหกโมงเย็น (มาทราบทีหลังว่าการพักผ่อนของที่นี่คือการปฏิบัติสาธารณประโยชน์ เช่น ถูศาลา กวาดลาน ซักผ้า ฯลฯ) หลังจากนั้นขึ้นทำวัตรเย็นที่ศาลาหลังใหญ่ รับน้ำปาณะ แล้วปฏิบัติกรรมฐานต่อจนถึงสามทุ่ม แล้วจึงเข้านอน (และเช่นกัน การเข้านอนของที่นี่ ก็ต้องมีการกำหนดจิตตลอดเวลา)
ไม่มีความเห็น