ตะเรงปรอเต๊ะกัมพูเจีย.......( 5 ) ปราสาทบันทายศรี


การสลักนั้นประณีตบรรจง ลวดลายละเอียดอ่อนช้อย งดงาม จนได้ชื่อว่า อัญมณีเม็ดงามแห่งศิลปะเขมร

               คราวที่แล้วเราได้ชมปราสาท  ตาพรหมที่มีต้นสะปงใหญ่ขึ้นเต็มปราสาทเป็นเอกลักษณ์ไปแล้ว   คราวนี้เราออกจากเขตเมืองโบราณนครธม   มาไม่ไกลนักก็จะได้ชมปราสาทอีกแห่งหนึ่งคือ   ปราสาทบันทายศรี   สร้างขึ้นระหว่าง  ค.. 944-968 ในสมัยพระเจ้าราเชนทราวรมัน   ปราสาทแห่งนี้แตกต่างจากปราสาทอื่นๆ ตรงที่ไม่ได้สร้างโดยกษัตริย์   แต่สร้างโดยพราหมณ์ปุโรหิต   ซึ่งก็คงจะมีอิทธิพลสูงใช่ย่อยอยู่   เพราะตามธรรมเนียมกษัตริย์เท่านั้นที่จะสร้างปราสาทได้                              

               ปราสาทบันทายศรีสร้างด้วยหินทรายสีชมพู จะเห็นตัวปราสาทเป็นสีออกส้มต่างจากปราสาทบายนและปราสาทตาพรหมที่ได้ชมมาแล้ว เป็นปราสาทขนาดเล็ก มินิ มินิ น่ารัก ถ้าเดินดูแบบไม่ละเอียดมากแค่ครึ่งชั่วโมงก็ทั่ว แต่การสลักนั้นประณีตบรรจง ลวดลายละเอียดอ่อนช้อยงดงาม จนได้ชื่อว่าอัญมณีเม็ดงามแห่งศิลปะเขมร 

 
             
 มีตำนานเล่าประกอบว่าปุโรหิตผู้สร้างปราสาทนั้นหลงรักเจ้าหญิงเขมรองค์หนึ่ง แต่โดยสถานะและขนบธรรมเนียมแล้วรักนี้คงมิอาจสมหวัง จึงได้สร้างปราสาทนี้อย่างสวยงาม เพื่อเป็นที่ระลึกถึงนางอันเป็นที่รักยิ่ง โรแมนติคม้าก...มาก  สุดซึ้งเสียนี่กระไร !  

       
       
ลวดลายบนปราสาทนั้นเล็กแต่สวยงามละเอียดอ่อนจริงๆ สมกับฉายาที่ได้จึงมีใบสั่งต้องการโบราณวัตถุจากปราสาทนี้ เราได้เห็นที่ทับหน้าหรือทับด้านไหนก็จำไม่ได้แล้ว รูปสลักพระอิศวรไม่มีพระเศียร น่าเสียดายยิ่ง  ก็เหมือนโบราณสถานทั่วโลกนั่นแหละที่ต้องเผชิญกับการลักลอบตลอดเวลา 

                เชิญดูรูปปราสาทบันทายศรีอันสวยงาม ช่วงบ่ายเราจะได้ชมปราสาทเขมรอันสุดจะยิ่งใหญ่นั่นคือ  นครวัด  เช่นเคยนะจ๊ะ…….ตามไปชมด้วย

                            

                                        ปราสาทบันทายศรีด้านหน้า

                            

                            ภายในปราสาท โบราณสถานต่างๆ  อยู่ใกล้ๆกัน

                                  

                                       โคปุระแห่งหนึ่งในปราสาท

                               

                                ปราสาทองค์กลางของปราสาทบันทายศรี 

                            

                                      รูปสลักพระศิวะที่พระเศียรหายไป

                               เอื้อเฟื้อภาพโดยคุณ Black Willy...Thanks !

หมายเลขบันทึก: 57032เขียนเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2006 22:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท