สุขใด เสมอความสงบไม่มี ...
การทำให้เกิดความสงบ ในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา กล่าวไว้คือ การควบคุม ดูแลจิต ไม่ให้คิดไปในเรื่องต่างๆที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับตัวเรา...คงมีคำถามว่าไม่คิดแล้วจะดำเนินงานหน้าที่ต่างๆได้อย่างไร...การคิดเพื่อการดำเนินชีวิตตามปกติของชีวิตประจำวันจะเป็นไปของมันเองอยู่แล้ว...แต่การคิดอีกอย่างหนึ่งคือคิดฟุ้งซ่าน ..เป็นการคิดย้อนไปในสิ่งที่ผ่านมาแล้ว บางครั้งผ่านมาเป็นปีก็ยังไปเก็บเอามาคิดผูกเรื่องเชื่อมโยงไปมาวุ่นวาย...และการคิดถึงในเรื่องอนาคตที่ยังมาไม่ถึง หรือเรียกว่าฝันไปเรื่องนั้นเรื่องนี้...ถ้า..อย่างนั้น...จะทำอย่างนี้หรือ....อะไรจิปาถะมากมายไปหมด บางครั้งสังเกตได้ว่าผู้คิดเองจะรู้สึกเหนื่อย เพราะเมื่อเราคิดในเรื่องใดๆก็ตาม อารมณ์ความรู้สึกจะเกิดมีขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้สึกที่เป็นในทางลบ ไม่สดชื่นแจ่มใส...และจะพบว่าการคิดของเราจะไม่ชอบคิดเรื่องดีๆสิ่งดีๆให้ชุ่มชื่น .....และการควบคุมดูแลจิตจะทำได้อย่างไร...ก็ต้องใช้แนวทางของพระพุทธศาสนา คือการภาวนา ผู้เขียนใช้ พุทโธ หรือท่านจะใช้วิธีการใดก็ขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติสามารถศึกษาอ่านได้ ควบคู่กับการสวดมนต์
จากประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้ปฏิบัตินั่งภาวนา เดินจงกรม และสวดมนต์ ก็ได้พบกับความสุขที่เป็นสุขแบบสงบร่มเย็น แม้บางครั้งมีอารมณ์โกรธ ท้อแท้ สิ้นหวัง เบื่อหน่ายฯลฯจะเป็นไปไม่นาน เพราะผลที่เกิดขึ้นจากภาวนา จะทำให้ใจเข้มแข็ง มีพลัง เหมือนเรามีหลักของจิตใจ ......ของดีในพระพุทธศาสนาคือการภาวนา การสวดมนต์ ชาวพุทธลองปฏิบัติดูนะคะ จะพบว่าสุขจากความสงบดีจริงๆ...ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ที่นำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ผมชอบภาวนาครับ
โชคดีมากๆค่ะที่สะสมทรัพย์ภายในไว้ ทรัพย์นี้จะบันดาลให้ชีวิตในชาตินี้ และทุกภพชาติไม่ทุกข์ (แต่ต้องมีความเชื่อก่อนว่าชาติหน้ามีจริงนะคะ) ผลของการภาวนาเป็นสิ่งที่อธิบายกันไม่ได้ ต้องลองทำดูแล้วจะเข้าใจเองค่ะ....
สาธุๆๆครับพี่
ได้ฝึกปฏิบัติแล้วมีความสุขครับ
สวัสดีค่ะ..อาจารย์ขจิต..พี่น้องได้มีโอกาสพูดคุยกันอีกครั้งหลังจากเงียบหายไปนานนะคะ...พี่อ๋อยก็ไม่เคยทิ้งการปฏิบัตินะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้วจ้ะ...อย่างที่เรารู้กันธรรมของพระพุทธเจ้าต้องทำและจะรู้เข้าใจเองค่ะ ...อนุโมทนาด้วยที่อาจารย์ได้ใช้หลักธรรมนำชีวิต..เป็นสิ่งเย็นสบาย สุขสงบนะคะ...