HR-LLB-TU-2556-TPC-ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์ Amazing Grace


ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์ Amazing Grace

                     ภาพยนตร์เรื่อง amazing grace เป็นภาพยนตร์ที่มีการดำเนินโดยการกล่าวนำเรื่องของศาสนามาข้องเกี่ยว ตัวเอกของเรื่อง คือ วิลเลียม วิลเบอร์ฟอร์ซ ที่ทำหน้าที่แสดงออกให้เห็นว่าการมีทาสและฝันในเสรึภาพที่มนุษย์ทั้งมวลจะ ต้องมีโดยเท่าเทียม และเป็นคนที่เติบโตเข้าสู่เส้นทางการเมือง จึงมีเป้าหมายที่แนวแน่ คือ การรณรงค์ให้มีการออกกฎหมายเลิกค้าทาสในประเทศอังกฤษอย่างเป็นทางการ แม้ว่าการร่างกฎหมายนั้นไม่ได้เป็นไปอย่างราบลื่น พบอุปสรรคปัญหาที่เข้ามาขัดขวาง มากมาย จากในสภาและสาธารณชน แต่เขาก็ยั่งยืนหยัด มุ่งมานะ อดทน และเผชิญหน้ามาตลอด ในบางครั้งเขาก็มีความอ่อนล้า เขาก็จะกลับไปที่โบสถ์เพื่อรับพรจากพระเจ้า และกำลังใจจากบาทหลวงจอห์นที่คอยปลอบ และให้กำลังใจเสมอมา หลังจากนั้นเขาก็ต่อสู้และใช้ความพยายามจนสำเร็จผล จนในที่สุดก็ได้นำมาบังคับใช้ อันนำไปสู่การเลิกทาส[1]

                   จากการชมภาพยนตร์เรื่องนี้มีหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องคือ

กรณีการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนจะไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน

- ข้อ 1 มนุษย์ทั้งปวงเกิดมามีอิสระและเสมอภาคกันในศักดิ์ศรีและสิทธิต่างในตนมีเหตุผลและมโนธรรมและควรปฏิบัติอันเกิดจากจิตวิญญาณแห่งภราดรภาพ

กรณีการต่อสู้ให้ยกเลิกการค้าทาสก็เท่า กับว่าเป็นการสนับสนุนให้มนุษย์ทุกคนมีความเป็นอิสระมีความเสมอภาคใน ศักดิ์ศรีและสิทธิต่างๆของตนอย่างเห็นได้ชัดการค้าทาสทำให้มนุษย์ผูกถูกค้า ไม่มีอิสระใดๆในชีวิตของตน

- ข้อ 4 บุคคลใดจะตกอยู่ในความเป็นทาสหรือสภาวะจํายอมไม่ได้ทั้งนี้ห้ามความเป็นทาสและการค้าทาสทุกรูปแบบ

สิ่งที่เห็นได้ชัดคือการกระทำของวิลเลียมวิ ลเบอร์ฟอร์ซเป็นการกระทำที่สอดคล้องอนุสัญญาดังกล่าวหรืออาจเรียกได้ว่าเป็น สิ่งที่วิลเลียมวิลเบอร์ฟอร์ซพยายามผลักดันให้มีมาตลอดชีวิตของเขาเลยก็ว่า ได้

 กรณีการพูดถึงการชักธงสัญชาติของเรื่องในส่วนนี้เป็นการอ้างถึงหลักกฎหมายที่ เกี่ยวข้องคือกฎหมายพาณิชย์นาวีซึ่งเป็นบรรดากฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ เรือเดินทะเท [2]

- พระราชบัญญัติเรือไทยพุทธศักราช 2481

- พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทยพระพุทธศักราช 2456

                     จากหลักกฎหมายที่กล่าวมาข้างต้น ข้าพเจ้าเห็นว่า ภาพยนตร์ดังกล่าว ได้ให้ข้อคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบความคิดที่เป็นระบบ การวางแผนในการทำงาน และทำให้เกิดแนวคิด วิเคราะห์เหตุการณ์ จับประเด็นเชื่อมโยงกับกฎหมายที่ได้มีการใช้บังคับในปัจจุบัน ซึ่งนำมาให้มีความรู้เพิ่มมากขึ้นและยังเป็นการศึกษาบทกฎหมายล่วงหน้าอีก จะเห็นได้จาก ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้คือการสะท้อนถึงคุณค่าของสิทธิมนุษยชนว่าใน ความเป็นจริงแล้วว่าที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้มันมานั้นมีความยากลำบาก และใช้ระยะเวลายาวนานหลายปี ปัจจุบันกฎหมายได้มอบสิทธิเหล่านี้ให้เราๆก็ควรเคารพและรักษามันไว้อย่าง เต็มที่วิลเลียมวิลเบอร์ฟอร์ซเริ่มจากการที่เชื่อและศรัทธาถึงคุณค่าของความ เป็นมนุษย์และผลักดันหลักแนวทางเพื่อปกป้องคุ้มครองทำลายสิ่งที่มันทำลาย ความเป็นมนุษย์ของบุคคลแต่ในขณะที่ในปัจจุบันเรามีเครื่องมืออุปกรณ์ในการปก ป้องคุ้มครองตนและเพื่อนมนุษย์เเต่ดูเหมือนว่าในปัจจุบันทุกคนกลับมองข้าม สิ่งเหล่านี้กลับละทิ้งเครื่องมือดังกล่าวและทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของ บุคคลอื่นแม้จะไม่ใช่รูปแบบของการค้าทาสอย่างเช่นในอดีตก็ตาม

                       อย่างไรก็ตามจะ เห็นได้ว่า ได้มีการออกกฎหมายยกเลิกการค้าทาสมาบังคับใช้แล้ว ก็ยังพบเห็นว่ามีการจ้างแรงงาน ข่มขู่ ข่มเหง เบียดเบียนจากผู้มีอำนาจอยู่ดี แต่ก็มีใครหลายคนมองว่าปัจจุบันยุคสมัยใหม่ ยุคแห่งวิทยาศาสตร์และประชาธิปไตย ยังตั้งคำถามว่า เรื่องพวกนี้หลงเหลืออยู่อีก เรื่องของการค้าทาส ก็คงจะเป็นเรื่องที่ล่าสมัย โบราณ แต่ยังพบเห็นในความเป็นจริงอีกเยอะที่ยังมีการจ้างแรงงาน ข่มขู่ ข่มเหง อีกจำนวนมากที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับการถูกละเมิดสิทธิ์เชนนี้ โดยเฉพาะแถบแอฟริกาและอเมริกาใต้

[1] "Amazing Grace." (ออนไลน์). http://www.oknation.net/blog/print.php?id=181700 (สืบค้นวันที่ 16 พฤษภาคม 2557)

[2]ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน." (ออนไลน์). http://www.mfa.go.th/humanrights/images/stories/bo... 16 พฤษภาคม 2557)

หมายเลขบันทึก: 568472เขียนเมื่อ 18 พฤษภาคม 2014 12:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2014 12:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท