พอ
นับแต่ตั้งใจว่าจะมีชีวิตอยู่แบบอิสระ
รักตนเอง
ไม่ผูกพัน ไม่เรียกร้อง ไม่เฝ้ารอ
ไม่คาดหมายความสุขที่จะได้มาจากผู้อื่น
หรือสิ่งอื่น ๆ นอกจากการได้มาด้วยตน
ต่อเนื่องมาเป็นความใคร่ครวญ คิดช้า ๆ คิดลึกซึ้ง จนได้ผลลัพธ์จากความคิดนี้ว่า
ชีวิตคือสิ่งสวยงาม
การดำรงตนให้มีความสุขเพียงพอตามอัตภาพนั้นไม่ยาก
มีจิตคิดระลึกและรู้สึกตัวอยู่กับปัจจุบัน
รู้จักพอ
พอแล้ว
นี่เองคือที่มาแห่งความสุข
ภูสุภา
๑๖ เมษายน ๒๕๕๗
เพราะรู้จักพอ จึงแบ่งปัน
เพราะมีความฝัน จึงมีศิลป์
เพรามีความรัก โลกนี้จึงมีสุข
เพราะทุกคน...รู้จักพอไม่เบียดเบียน
ขอบคุณพี่บังวอญ่าค่ะ เขียนบทกวีให้ตั้งแต่เช้า
ช่วงนี้ หมอกลั่นกรองมองชีวิตได้ละเอียดละเมียดลไมนะครับ..ชอบบทที่ว่า
ขอบคุณที่สื่อสารผ่านใจให้เรารับรู้ด้วยครับ
ดีใจจัง... ที่คุณภูสุภา ถึงคำว่า"พอ" ในขณะที่อีกหลายคน ยังดิ้นรนแสวงหา
มีเวลาเขียนออกมาอย่างในใจหมั่นคิดใคร่ครวญน่ะค่ะ
เคยเป็นมั้ยคะ เมื่อทบทวนแล้วเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหรือเราประสบพบมา สักพักจางหายคล้ายไม่มีเกิดขึ้นจริง
แล้วไยต้องไปยึดติดกับสิ่งต่าง ๆ เล่า
ถ้าพอแล้วเราจะไม่เหนื่อยวิ่งหามันค่ะ
ชอบจัง...รู้จักพอ..พอแล้ว...ขอบคุณครับ
โดนใจ ใช่เลยค่ะพี่หมอ ^_,^
...ชื่นชม และดีใจด้วยค่ะ...รู้จักพอ...พอแล้วนะคะ
มาเยี่ยมด้วยความระลึกถึงค่ะ
ขอให้มีความสุขกับคำว่าพอดีๆ..ตลอดไป..จ้ะ...(ยายธี)
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ