๑
สายลมโชยโบยโบกกล่อมดลกหล้า
ตะวันรอนลับลาฟากฟ้าหมอง
สกุณาราตรีหวีดหวี่ร้อง
เจ้าขุนทองหนีลับไม่กลับรัง
บอกจะไปเก็บฝันวันฟ้าใส
แต่จากไกลไม่หวนกลับคืนหลัง
ใจคนคอยหงอยเหงาแทบภินท์พัง
แต่ยังหวังสักวันคงกลับมา
๒
เป็นคนจรนอนสิ้นทุกถิ่นฐาน
สืบตำนานแห่งการแสวงหา
สั่งงสมอุดมการณ์ผ่านเวลา
ด้วยยึดมั่นศรัทธาจึงฝ่าฟัน
ฝ่าฟันไปเพื่อสู้ศัตรูร้าย
ถึงตัวตายหมายมาดไม่หวาดหวั่น
เพื่อกำจัดฝังหลุมพวกกุมภัณฑ์
ที่อาจหาญห้ำหั่นประชาชน
ดังเมฆฝนมืดหม่นอยู่บนฟ้า
ทุกหย่อมหญ้าเดือดร้อนทุกแห่งหน
สายน้ำหลาก ขวากขัง ฝังผู้คน
ต้องเดือดร้อนทุกทนทรมาน
พวกกุมภัณฑ์ฤทธิ์แรง สำแดงเดช
เจ้าขุนทองถูกเศษกระสนผ่า
ล้มคะมำคว่ำพื้นพสุธา
เลือดไหลบ่ารินหลั่งบนฝั่งทาง
๓
สกุณาบินหลาดงส่งเสียงจ้อย
เจ้าคนคอยสะดุ้งเมื่อรุ่งสาง
เสียงตะโกนดังก้องจากป่ายาง
ว่า " เจ้าขุนทองเลือดอาบร่างจมกองดิน"
...น่าสงสารเจ้าขุนทอง ....ตายตอนจบทุกยุค ทุกสมัยนะคะ...
ขอบคุณที่อ่านครับ ขุนทองไม่ตายในสนามรบก็ตายในกรง เพราะชอบเลียนเสียงชาวบ้าน
เศร้าค่ะ แต่งเก่งนะคะ