พิษไข้เริ่มส่ออาการมากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่คืนก่อนวันวาเลนไทน์
หลังจากที่อากาศเริ่มร้อนมาแล้วหลายวัน แต่จู่ ๆ ก็กลับเย็นลงอีกครั้งหนึ่ง
อาการแสบคอแสบจมูก ครั่นเนื้อครั่นตัว ก็เริ่มบุกมามากขึ้นตลอดทั้งคืน
ได้แต่ทำสมาธิสู้ทุกครั้งเมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้น
เช้าวันวาเลนไทน์ รู้สึกตัวชัดเลยว่า งานนี้ต้องเป็นไข้หนักแน่ ๆ
แต่ด้วยภารกิจหลายอย่างที่รออยู่ในช่วงวันหยุดยาว ทำให้ต้องรีบจัดการให้หายเป็นไข้โดยเร็ว
ผมหอบร่างกายที่อ่อนเพลียออกไปซื้ออาหารเช้าและหายามาเตรียมต้อนรับต่อสู้กับอาการเจ็บไข้
ตอนเปิดประตูรถเข้าไปเห็นหนังสืออาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์
แว็บแรกนั้น ทำให้ผมเข้าใจสิ่งที่ท่านบรรยายเอาไว้ในหนังสือ
ตอนที่เป็นไข้ สลบ หมดแรง เพราะไม่ได้ทานข้าวดื่่มน้ำ หนอ
และระลึกได้ว่า กายสังขารนี้ไม่เสถียรเลยหนอ เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัยหนอ
กายคตาสติ เมื่อระลึกถึงอยู่เนือง ๆ ย่อมส่งผลให้หมดความยินดียินร้าย หมดภัยและความขลาดลงได้ ใจวางอุเบกขาต่อทุกขเวทนาได้ ส่งผลให้จิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน บรรเทาราคะและความยึดมั่นถือมั่นในกาย ถอนความเห็นผิดว่าสวยว่างามลงได้
ผมก็เจอกับสภาพอาหารเป็นพิษ ถ่ายท้องอย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 7 กพ. 57 ที่ผ่านมา ดึก ๆ คิดง่ายๆ ว่าหากกินยา "อีโมเดียม" เพื่อหยุดการถ่ายท้อง น่าจะดี และใช้ซ้ำทุก 4 ชั่วโมง รวม 4 ครั้ง
อาการดูเหมือนจะดีขึ้น แต่ไม่ใช่ เพราะทั้งเพลีย อ่อนแรงเอาการ กว่าจะมาจัดการได้ก็ล่วงมาถึงวันที่ 12 กพ 57 โดยดื่ม "ยาธาตุน้ำขาว ตรากระต่ายบิน" ประมาณ 4 ครั้ง ครับ เฮ้อ !
ต่อไปหากเป็นโรคอื่นใดจะต้องรีบไปหาหมอ ครับ
สไตล์คล้าย ๆ กันเลยครับ คือ ไม่ยอมไปหาหมอ 555