เกิดมาทำไม
สิ่งแรกที่ผู้ต้องการชีวิตที่ดีงามควรกระทำ คือ ฝึกให้หยุดจากการกระเสือกกร
ลืมหูลืมตาขึ้นพิจารณาความเ
เราเกิดมาทำไม อะไรคือสิ่งที่สูงสุดที่เรา
คำถามเหล่านี้สำคัญ แต่อย่าเชื่อคำตอบใครง่าย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่างมงายตามพวกวัตถุนิยม จะเสียคน
จงหาคำตอบของตนเองด้วยสติปั
ข้อคิดคัดลอกมาจาก ชยสาโรภิกขุ
But I am not born by my own free-will.
I am a product of my parents' love or union. They have not told me what they want me to be or to do! So, I have to 'make' a purpose of life for myself. I have to work it out what I want to beand to do.
เป็นคำถามที่ผม เริ่มถามตัวเองและ ถามพ่อแม่ ครู เมื่อยังเด็กๆ จนกระทั่งเดินทางมาครึ่งชีวิต
แค่แลกเปลี่ยนทัศนะ..
คำตอบมักจะแตกต่างเมื่อถามแต่ละคน ซึ่งพื้นฐานศาสนาแตกต่างกัน มักจะตอบต่างกัน ผมศึกษาในวิถีคริสต์ พุทธ ฮินดู เต๋า.. วิถีจริตที่ฝึกตนแบบพราห์มฮินดู แต่จุดมุ่งหมายคือปัญญาธิกะ ในวิถีพุทธ ทั้งสองสายแทบจะเหมือนกันในวิธีฝึก ต่างกันแค่สภาวะโลกุตระ
- เมื่อใช้ชีวิตมาครึ่งทาง พอจะได้ทัศนะส่วนตัวไม่ได้มองในแง่ถูกหรือผิด เป็นทัศนะจากวิถีชีวิต จริต ตรรกะ และความรู้สึก
-ผมเกิดมาทำไม แน่ใจนะที่ต้องมาทำงานแบบนี้ เรียนแบบนี้ ต้องมีครอบครัว มีลูก นี่ใช่หรือ ทุกอย่าง
มันพุ่งเข้ามาในห้วงสำนึกอัตโนมัติในแต่ละวันที่หายใจอยู่ สิ่งที่ผมรู้สึกได้คือ สิ่งที่เห็นอยู่มันไม่จริง รู้สึกว่าอยู่ในกับดักอะไร ที่ปัญญาตอนนี้ไม่สามารถเข้าใจได้..
- ผมคิดว่าผมเกิดมาเพื่อค้นหา ความจริง จากระบบที่วนเวียนเป็นอนันต์ แต่ด้วยวิสัยจริตส่วนตัว และการตัดรักไม่ได้ยังคงห่วงบิดามารดา ผู้ให้กำเนิด หรือพันธะสัญญาในรักระหว่างเพศ ทำให้เวียนว่ายตายเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
- สิ่งที่สูงสุดที่ควรจะได้ คือ ปัญญาที่จะรู้ความจริง จากสิ่งที่ไม่รู้ ถ้าจะออกไปจากสังสารวัฏโดยไม่รู้อะไรเลย ขออยู่จนกว่าจะเข้าใจถ่องแท้ ค่อยไป วิถีแห่งอจินไตย ไม่ใช่จริตผม
- ควรให้อะไรไว้กับโลก เมื่อรู้ความจริงว่าจริงๆ ว่าเกิดมาทำไม ธรรมชาติ การเวียนว่ายตายเกิด คืออะไรกันแน่ อยากบอกสิ่งที่รู้ แก่ ผู้สนใจใคร่รู้ หรือบุคคลอันเป็นที่รัก แม้นว่าความรักคือกับดักใหญ่ที่เป็นเชื้อในการเกิด ก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ตัดได้ยาก ถ้าออกไปได้อยากพาเขาออกไปด้วย ความอยากก็ถือเป็นตัวกิเลสอีก ..เห้อ มิน่าผมไปใหนไม่ได้สักที กิเลสเยอะ