ช่วงเวลาที่แม่อยู่กับพ่อ
พ่อมีโรคประจำตัว ต้องหาหมอตามนัดสม่ำเสมอ
ตามวินิจฉัยของหมอประจำตัว
ทำให้พ่อ และพวกเราทุกคนเข้าใจผิดอยู่นานนับสิบปี
ว่าพ่อเป็นโรคหัวใจ
แนวทางการดูแลรักษาเลยมุ่งเน้นไปที่การดูแลรักษาหัวใจ
โดยไม่ฉุกคิดถึงโรคอื่นๆ
พ่อเป็นนักสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า
แม้หมอจะแนะนำให้เลิกบุหรี่ แต่พ่อก็เลิกไม่ได้ซักที
จนเมื่อครั้งที่ต้องเขาโรงพยาบาลฉุกเฉิน
ทำให้เรารู้ว่า แท้จริงแล้ว โรคที่น่าเป็นห่วงมากสำหรับพ่อคือ ถุงลมโป่งพอง
พ่อไม่ได้เป็นโรคหัวใจ มีเส้นเลือดตีบเล็กๆ
หัวใจ ไม่น่าเป็นห่วงเท่า ถุงลมโป่งพองที่เป็นอยู่
เพราะจะทำให้พ่อรับสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง หรืออากาศชื้นไม่ได้
จะทำให้เกิดภาวะปอดชื้น หรือน้ำท่วมปอดได้ง่าย
พ่อจึงพยายามลดบุหรี่ จนถึงอยากจะเลิกเด็ดขาด
แต่ทำได้ยากมาก พ่อจริงต้องหลบๆซ่อนๆ ในการแอบสูบบุหรี่ไม่ให้แม่รู้
แต่แม่ก็รู้ว่าพ่อแอบสูบบุหรี่
โดยแม่ไม่แสดงให้เห็นว่าแม่รู้ แม่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
ยอมให้พ่อแอบสูบต่อไป
แม่บอกว่า ถ้าพ่อรู้ว่าแม่รู้
พ่อจะสูบต่อหน้าทันที อย่างไม่เกรงใจอีกต่อไป
พ่อจะถือว่า ไหนๆแม่ก็รู้แล้ว ก็สูบให้เห็นไปเลยนี่แหละ
พ่อก็จะสูบเยอะขึ้น
แม่เลยทำนิ่งๆ ไม่รู้ไม่ชี้
ให้พ่อแอบสูบ หลบๆซ่อนๆ นี่แหละ
จะได้สูบได้น้อยหน่อยและไม่มีความสุขในการสูบ
แม่ช่างคิด และทำได้อย่างแยบยลจริงๆ
แต่แม่ก็จะแอบบอกคุณหมอทุกครั้ง ว่าพ่อยังแอบสูบบุหรี่อยู่
และบอกวิธีของแม่ ที่ทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ต่อว่า
หมอจะชมว่าแม่ฉลาด
ซึ่งเป็นเรื่องที่แม่ภูมิใจมาก ที่แม่ฉลาดในเรื่องนี้
และแม่จะพูดให้ฟังตลอด เรื่องที่ได้รับคำชมจากหมอ
ทุกวันนี้ แม่ก็จะเล่าเรื่องนี้ทุกครั้งที่ได้คุยกัน
ตอนนี้พ่อคงรู้แล้ว ว่าแม่ทำฟอร์มไม่รู้ไปอย่างนั้นเอง .... เนียนซะ
ไม่มีความเห็น