มิตรภาพที่เกิดขึ้นกลางใจของผู้คน..ชุมชนบ้านตระ
ดินแดนห่างแสนไกล...แต่น้ำใจแสนงดงาม
บ้านตั้งอยูกลางขุนเขา....จึงรายล้อมด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
กิจกรรมคืนที่ 2 มีการเลี้ยงข้าวหลาม...ฝึกให้นักเรียนได้ดูวิธีการหุงข้าวกับกระบอกไม้ไผ่
มะพร้าวไม่ต้องซื้อ...ลงทุนเพียงข้าวเหนียวสัก 5 กก.
เลี้ยงชาวค่าย 70 กว่า ชีวิต พร้อมกับผู้คนในชุมชนที่แวะมาเยี่ยมเยียนอย่างไม่ขาดสาย
คอยดูแลเอาใจใส่ ทุ่มเท เสียสละ
เป็นพฤติกรรมที่หาได้ยากในชุมชนเมืองในยุคปัจจุบัน
ในบางครั้ง..ชุมชนไม่เข้าใจว่า...เรามีเป้าหมายอย่างไรในกิจกรรมค่าย
เราต้องการให้นักเรียนได้เรียนรู้ความยากลำบากความอด การแก้ปัญหาชีวิตประจำวัน
การเสียสละ...การมีทักษะการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น
แต่ชาวบ้านกลับเอาของใช้ทุกอย่างมาบริการนักเรียน...
ฮือ..ประทับใจในไมตรีจิต...แต่ทำให้สูญเสียอะไรไปบ้างบางอย่าง
บทเรียนที่มีคุณค่า...ไม่ต้องใช้เงินตรา...ซื้อเพียงบทเรียนชีวิตที่คิดเป็นราคามิได้
"น้ำใจ"...เจ้าค่ะ..หาซื้อ..ไม่ได้...(น้ำใจ..หากแห้งเหือด..ก็คงเป็น..เพราะ..คนเหยียดหยาม..กันและกัน..หรือ..ยกตัวข่ม.ท่าน...หรือ..ไม่เคารพ..สิทธิ..ในความเป็น..มนุษย์ ปุถุชน..ที่ร่วม..เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน..ทั้งหมดทั้งสิ้น...).....มีตัวอย่างให้เห็น..ในวันนี้..บน..ท้องถนน..คน(เทพ)..อ้ะะ....
หลายๆพื้นที่ การหลามข้าวมีกรรมวิธีที่เหมือนๆกันเลยครับ
เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่น่ายกย่องจริงๆ