ให้เพลงเป็นกำลังใจ


หากท้อแท้และไม่มีกำลังใจ ให้บทเพลงคอยเป็นกำลังใจให้คุณ

ดิฉันเชื่อว่าเสียงเพลงอยู่ในจิตใจของคนทุกคน แม้ว่าจะมีความสุข ทุกข์ เศร้า เสียใจ ดีใจ ท้อแท้ต้องการกำลังใจ
เสียงเพลงก็มักเข้ามาเป็นส่วนหน่องของช่วงเวลานั้น ๆ ของเราเสมอ

เพราะทุกบทเพลงที่ถูกแต่งขึ้นมา ก็เกิดขึ้นจากช่วงเวลาเหล่านี้ทั้งนั้น และถูกนำมาถ่ายทอดออกมาเป็นบทเพลงที่ไพเราะ
และมีความหมายในตัวของมัน

บันทึกนี้ดิฉันจึงอยากกล่าวถึงเพลง ๆ หนึ่งที่มีความหมายดี ทำนองฟังสบาย ๆ มาแบ่งปันให้ฟังกันคือเพลง "ร่มสีเทา" ของวงวัชราวลี
ซึ่งเป็นที่ดังด้วยการแต่งเพลงเอง ร้องเอง บรรเลงเองทั้งหมดและส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเพลงที่ น่ารัก ๆ มีความหมายดี ๆ
ที่แต่งมาจากชีวิตของพวกเค้าจริง ๆ

เพลงนี้อยากให้ทุกท่านฟังและอยากให้เพลงนี้เป็นอีกเพลงหนึ่งที่คอยให้กำลังใจในเวลาที่่านรู้สึกทุกข์ รู้สึกท้อแท้ รู้สึกผิดหว้ง
กับเรื่องบางอย่าง แต่อยากให้ท่านลองมองท้องฟ้า ลองวางร่มที่บดบังท้องฟ้าที่อาจยังสดใส แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
มองคนอื่น ๆ จะได้รู้ว่าเราก็ไม่ได่ทุกข์อยู่คนเดียว เราก็ยังมีทุกคนทุกข์เหมือนกัน และเรายังมีวันข้างหน้าที่สดใสรอเราอยู่ค่ะ

 

ที่มา http://www.youtube.com/watch?v=GMvBu0jhdYI

 

เนื้อเพลง: ร่มสีเทา
ศิลปิน: Klear (เคลียร์)
อัลบั้ม: เพลงประกอบละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ

ฉันเฝ้าถามความสุขอยู่ที่ไหน ชายที่เขาเดินผ่านฉันเข้ามา
บอกกับฉันขอร่มสักคัน แต่ว่าที่มือเขาก็มีหนึ่งคัน
ก็แปลกใจ ท่ามกลางหยดฝนโปรยปราย

เขาก็ถามฉันว่าอยากสุขไหม ลองหุบร่มในมือสักพักหนึ่ง
และเงยหน้ามองวันเวลา มองหยดน้ำที่มันกระทบตา
ยังเปียกอยู่ใช่ไหม หรือไม่มีฝน

บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน ถ้ามองจากตรงนี้
เดี๋ยวก็มืด แล้วก็สว่าง
อาจจะมีฝนก่อเป็นพายุ หรือลมลอยปลิวอยู่แค่นั้น
สุขที่เคยเดินทางตามหามานาน
ไม่ได้ไกลที่ไหน อยู่แค่นี้เอง

ยิ้มฉันยิ้มมากกว่าทุกครั้ง
สุขที่ฉันตามหามาแสนนาน
อยู่ตรงนี้ แค่เพียงเข้าใจ อย่าไปยึด
ถือมันและกอดไว้ ก็แค่ร่มเท่านั้น เท่านั้น

บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน ถ้ามองจากตรงนี้
เดี๋ยวก็มืด แล้วก็สว่าง
อาจจะมีฝนก่อเป็นพายุ หรือลมลอยปลิวอยู่แค่นั้น
สุขที่เคยเดินทางตามหามานาน
ไม่ได้ไกลที่ไหน อยู่แค่นี้เอง

ฉันเห็นเธอถือร่มผ่านมา เต็มไปด้วยร่องรอย
และคราบน้ำตา ฉันได้เห็นแล้วมันปวดใจ
ไม่ใช่เพียงแค่เธอที่ทุกข์ ฉันก็เป็นเหมือนเธอ
เธอได้ยินไหม อยากขอให้เธอลองโยนร่มที่ถือเอาไว้หนัก
โยนมันออกไป

บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน ถ้ามองจากตรงนี้
เดี๋ยวก็มืด แล้วก็สว่าง
อาจจะมีฝนก่อเป็นพายุ หรือลมลอยปลิวอยู่แค่นั้น
สุขที่เคยเดินทางตามหามานาน ไม่ได้ไกลที่ไหน

อย่าไปยึด อย่าไปถือ
อย่าไปเอามากอดไว้ ก็จะไม่เสียใจ
ตลอดชีวิต ต้องผ่านการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าใคร
จะทุกข์ จะสุขแค่ไหน ก็อยู่ที่จะมอง

ที่มาเนื้อเพลง http://lyrics.in.th/18342

 

เหตุผลที่เลือกเพลงนี้ ก็เพราะว่านักร้องนำวงวัชราวลีได้พูดถึงเพลงนี้ในรายการหนึ่งว่า
"เพลงนี้เกิดจากวันหนึ่งที่ผมรู้สึกท้อแท้ อยากจะหนีปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้าผม ผมจึงกลับไปบ้านเกิดเพื่อชาร์ทแบทตัวเอง
หวังว่าจะหาย แล้วก็ทำให้ผมได้มีเวลานั่งคิดทบทวนอะไรต่าง ๆ จึงทำให้เกิดเพลงนี้ขึ้น"

โดยเนื้อหาของเพลงทุกท่านคงได้ฟังกันแล้ว จะขอสรุปอีกครั้งว่า หากเรารู้จักปล่อยว่าง และหันมามองคนอื่น หันมามองสิ่งรอบข้าง
เราก็จะเจอกัยสิ่งที่ทำให้เราลืมจุด ๆ นั้น ที่คิดว่าไม่ไหว ที่คิดว่าทำไม่ได้ ที่คิดท้อแท้ต่าง ๆ ไป

การหันมองสิ่งต่าง ๆ รอบข้าง และโยนความทุกข์ทั้งไป เราก็ยังสามารถมีความสุขได้ มีย้มที่สดใสได้ในวันต่อ ๆ ไป

หมายเลขบันทึก: 559275เขียนเมื่อ 16 มกราคม 2014 09:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มกราคม 2014 10:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท