วันอาทิตย์ที่ผ่านมา 12 มกราคม 2557
เราเดินทางในเส้นทางสายเดิม เพราะภารกิจหลัก รับส่งเด็กชายสุดหล่อขวัญใจคนเดิมไปกลับโรงเรียนเหมือนปกติ
...มีความเปลี่ยนแปลงระหว่างทางทั้งสิ่งก่อสร้าง ร้านค้า ร้านอาหาร ถนนหนทางและผู้คนอยู่เสมอ ตั้งแต่การถมดิน วางเสาเอก ก่ออิฐ ฉาบปูนจนสร้างบ้านสำเร็จลุล่วงไปหลายหลัง ปรับปรุงปั๊มน้ำมันใหม่ไปหลายแห่ง มีร้านอาหารที่เปิดใหม่และปิดตัวเองไปหลายร้าน
...วันนี้มีร้านใหม่มานำเสนอคะ....ร้านขายโจ๊กและชากาแฟ ตรงข้ามกับสถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่ง
- เจ้าของร้านสองคน หนุ่มสาวเป็นวัยทำงานหน้าใสสะอาด ดูดี มีความรู้ อายุทั้งคู่น่าจะไม่เกิน 28 ปี เหมือนเปิดร้านใหม่เพื่อสร้างอนาคตร่วมกัน
- ราคาอาหาร - โจ๊กพิเศษใส่ไข่ ชามละ 30 บาท ส่วนพระเอกของเรื่องที่น่าสนใจ คือ ชาเย็น ขายใส่แก้วละ 20 บาท แต่ด้วยเหตุที่จะซื้อไปดื่มระหว่างทางด้วยเลยได้เปิดมุมมองของคนขายด้วย ทำให้ได้แนวคิดดี ๆ ของแม่ค้าหน้าใส คนสวย ดังนี้..
-;- น้องเปิดร้านขายของ เพราะไม่อยากไปเป็นลูกจ้างทำงานประจำ แล้วได้เงินเดือน 12,000-15,000 บาท
-;- น้องถามว่าชาเย็นจะใส่ถุงหรือแก้ว. - เมื่อเราถามความแตกต่างของภาชนะ ได้คำตอบมาว่า ชงชาเท่าเดิมใส่นมน้ำตาลหวานเหมือนกันแต่หากพี่ใส่ถุงจะได้ปริมาณมากกว่าแก้ว คนแถวนี้เป็นเกษตรกรใช้แรงงานมาก หากใส่แก้วอย่างเดียวจะได้น้อย ไม่พอแก้ความกระหายน้ำได้ จึงคิดใส่ถุงเพื่อให้พี่ ๆ ได้เยอะ ๆ ดื่มน้ำแล้วจะได้หายเหนื่อย >_<
-;- เราถามน้องว่าใช้นมข้นหวาน นมข้นจืดกระป๋องมียี่ห้อแบบนี้ ราคาแพงจะได้กำไรหรือคะ ? - น้องบอกว่าทำธุรกิจ อย่าขี้เหนียว ทำเหมือนทานเอง มีมาตรฐาน ซื่อสัตย์ ที่สำคัญ ต้องทำให้ลูกค้าประทับใจ : จากการสังเกตทำให้เห็นว่าน้องมีแก้วเล็ก ๆ เพื่อใช้ในการชั่งตวงวัดปริมาตรทั้งนมข้นหวาน นมข้นจืด น้ำเชื่อม เพื่อให้ทุกแก้วมีรสเดียวกันสม่ำเสมอ
-;- น้องบอกอีกว่า ค้าขายต้องใจเย็น อดทน ซื่อสัตย์ หากสนใจจะเปิดร้านมาถามสูตรได้นะคะ ><
ชาเย็นถุงใหญ่ มาแล้วจ้า....
สู้ ๆ ๆ นะคะ พี่ ๆ เป็นกำลังใจให้ แล้วจะไปอุดหนุนอีกจ้า
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะคะ ^_____^
ขอบคุณ.ดอกไม้.จากพี่ทั้งสองท่านมาก ๆ นะคะ
ขอบคุณคะ คุณยายธี และ Dr. Ple