ฮักนะเชียงยืน 16


หน่วยงานที่เข้าในมาเล็งเห็นความสำคัญในส่วนของสื่อมวลชนนั้น "ขอขอบพระคุณครับ"

ย้อนกลับมามอง "รุ่นเเรก"

 

          หลังจากพอได้ดำเนินโครงการมาเป็นระยะเวลาเเรมปี ซึ่งระยะเวลาเพียงปีนี้อาจเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งในประสบการณ์ของหลายๆคน เเต่ฮักนะเชียงยืนพึ่งได้ดำเนินมาเป็นปีเเรก เเล้วก็จะมีปีต่อๆไป ผ่านมาปีหนึ่งเเล้วฮักนะเชียงยืนรุ่นเเรก ถือว่าได้มองเห็นทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง เเล้ว ณ ตอนนี้ก็มีรุ่นต่อไปเข้ามาร่วมสืบต่อ ทำให้เราทุกๆคนได้กลายเป็นรุ่นพี่รุ่นเเรก เเล้วมีน้องรุ่นเเรกของเราเช่นเดียวกัน เดินทางมาเเรมปีอย่างไม่ได้มองเหลียมหลังสักเท่าใดนักว่าข้างหลังนั้นเป็นอย่างไร เมื่อได้ดำเนินมาจนครบ เดินทางถึงหลักกิโลเมตรที่ ๑ ก็นึกย้อนมองถึงตอนเเรกๆที่เรามีเเนวคิดว่าจะทำร่วมกัน ตอนเเรกๆเมื่อครั้งได้นั่งระดมสมองกัน ตอนเเรกๆที่ผ่านทุกข์สุขมาด้วยกัน ตอนเเรกที่ได้ตั้งชื่อกลุ่มร่วมกัน ตั้งประธานกลุ่มร่วมกัน  ซึ่งเป็นความทรงจำที่ "วิเศษ" เหลือเกิน นึกย้อนไปครั้งใด สุขใจทุกครั้งไป  

          ในครั้งเเรกๆที่ได้ตั้งชื่อกลุ่มร่วมกันไปที่ได้ชื่อว่า "ฮักนะเชียงยืน" ที่มีความหมายในครั้งนั้น คือ บ้านเกิดที่เราจะรักษาไปด้วยกัน ซึ่งเเต่ก่อนก็ไม่ค่อยจะรู้ความหมายสักเท่าใด ว่าทำไมต้องรักษาบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง พอได้ผ่านสิ่งต่างๆที่ผ่านมาในระยะเวลาปีเศษ ก็เริ่มจะรู้จักความหมายของคำว่าฮักนะเชียงยืนขึ้นไปเรื่อยๆ รู้จักขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งผมนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่อีกอำเภอหนึ่ง เเต่มาเรียนในโรงเรียนประจำอำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม เชียงยืนจึงเปรียบเหมือนบ้านหลังที่ ๒ เป็นบ้านที่ผมรู้สึกรักษ์เเละผูกพันเป็นอย่างยิ่ง โครงการลดมลพิษฟื้นชีวิตที่ได้ทำ ยิ่งเป็นเครื่องที่ย้ำเตือนให้รู้สึกผูกพันกับ "เชียงยืน" เข้าไปอีก ความหมายของฮักนะเชียงยืนนั้น ไม่ใช่เพียงรักษาบ้านเกิด เเต่นอกจากที่จะต้องรักษาเเล้วนั้น ยังต้อง รักษาครอบครัว ชุมชน เเหล่งทรัพยากรณ์ เเละรักษาตนเอง รักษ์ทุกๆสิ่งทุกอย่างที่จะทำให้ชุมชนงดงามอีกครั้ง นั่นเป็นความหมายของฮักนะเชียงยืนที่ในปัจจุบันผมเองได้ให้คำจำกัดความไว้ 

         ในครั้งเเรกๆที่ผมเองได้เลือกให้เราเข้ามีบทบาทเป็นประธานกลุ่มฮักนะเชียงยืน เป็นความรู้สึกที่ความมั่นใจในครั้งนั้น น้อยลงถนัด เพื่อนหลายๆคนชี้ว่า "ต้องเป็นประธาน" ที่เมื่อเป็นความต้องการของทุกๆคนนั้น จึงได้มีบทบาทเข้ามาเป็นผู้นำอีกคนหนึ่งในทีม เมื่อได้ดำรงตำเเหน่งประธานนั้น ก็ได้มองเห็นหลายสิ่ง หลายอย่างที่ถ้าอยู่ในความเป็นผู้ตามจะมองไม่ค่อยเห็นกัน คือ การมองกว้าง มองโลกให้กว้าง เป็นคนที่ต้องควบคุมงาน เเล้วต้องดูเเลสมาชิกทุกคน โดยการดูเเลนี้อยู่ในลักษณะของ "การตั้งใจทำ" ซึ่งทำให้เป็นตัวอย่าง ต้องพยายามมากที่สุดที่จะทำให้เพื่อนได้เห็นว่า ตนสามารถทำได้ สามารถพาเพื่อนไปได้  ทอดลองสิ่งต่างๆที่ไม่เคยทำ หาสิ่งต่างๆที่จะเป็นประโยชน์ พยายามทำในสิ่งที่จะสามารถช่วยให้งานนั้นผ่านไปได้ สิ่งที่ยาก คือ การดูเเลคน ดูเเลจิตใจของคน ซึ่งเป็นวิธีที่ถือว่ายากมาก ค่อนข้างละเอียดอ่อน บางครั้งที่นอกจากจะจัดการกับอารมณ์ของตนเองเเล้ว ต้องมีการจัดการกับอารมณ์ของเพื่อนบางคน มีการให้กำลังใจกันอยู่เป็นระยะๆ ในการดำเนินงานมีความท้อน้อยมาก เเละก็ไม่เคยที่จะถอย บทบาทของประธานนั้น เป็นเพียงบทบาท เป็นเพียง "หัวโขน" เเต่เเท้จริงเเล้วเราเป็นเพื่อนกัน เราทำงานกันเป็นทีม ประธานไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ ประธานไม่สามารถเป็นผู้นำได้ในทุกด้าน ทุกคนเป็นผู้นำร่วมกันหมด ซึ่งในหลายๆครั้งนั้นประธานก็ต้องเป็นผู้ตามเพราะ คนเรามีความชอบเเละความถนัดที่ไม่เหมือนกัน 

         ในครั้งหลังๆ พอได้เดินมาเรื่อยๆ วิ่งมาเรื่อยๆ ที่เหมือนการวิ่ง "มาราธอน" ที่พอวิ่งๆเดินๆ ไปสักพักก็ต้องหยุดพักเพื่อดื่มน้ำ พักเหนื่อย เเล้วก็วิ่งต่อไป วิ่งต่อไป วิ่งเข้ามาสู่หลักกิโลที่หนึ่ง มองเข้าไปดูอีกครั้งในสิ่งที่ตนเเละเพื่อนของตนได้ทำ มีหน่วยงานสื่อมวลชนเข้ามาเล็งเห็นความสำคัญที่จะถ่ายทอดกระเเสนี้ออกไปสู่สังคม ให้สังคมได้รับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

 

(เว็บไซต์มูนิธิสยามกัมมาจล)

 

(ข่าวโทรทัศน์ ทีวีไทย พีบีเอส เมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๕) 

 

 (หนังสือพิมพ์ บ้านเมือง ประจำวันศุกร์ที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๖) 

 (ข่าวสารจาก ok nation)

 

 

(หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556 คอลัมน์ COOL BIZ ฮักนะเชียงยืน จากโครงการปลูกใจรักษ์โลก)

(เว็บไซต์ หนังสือพิมพ์บ้านเมือง)

 

(หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ประจำวันศุกร์ที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖) 

(หนังสือพิมพ์ ไทยโพสต์ วันที่ 25-11-56 หน้า X-CITEJobs)

 

(หัวข้อข่าวรักษ์ป่าต้นน้ําผ่านผลงานศิลปะขอบคุณ หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 1 มกราคม 2557คอลัมน์จุดประกายโซไซตี้)

หน่วยงานที่เข้าในมาเล็งเห็นความสำคัญในส่วนของสื่อมวลชนนั้น "ขอขอบพระคุณครับ"

เเล้วนอกจากจะมีสื่อสารมวลชน เข้ามาเห็นความสะคัญเเล้วนั้นยังมีหน่วยงานที่สำคัญมากมาย ที่เข้ามาช่วยเหลือ

"ทุน" ที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่ง คือ กำลังใจ

ฮักนะเชียงยืนมีกำลังใจเต็มเปี่ยม  มีพลังเต็มเปี่ยม รุ่นที่หนึ่งเป็น "รุ่นบุกเบิก" ทำให้รุ่นถัดมาได้มองเห็นเเนวทางที่ชัดเจนขึ้น ย้อนมองถึงรุ่นเเรก ย้อนมองถึงตัวตน ทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น พบว่าตนเองเปลี่ยนไปจากเดิม ทั้งด้านความคิด เเละพฤติกรรม จากที่มองโลกเเคบๆ ให้มองโลกกว้างขึ้นมากเดิม เเล้วก็รู้สึกว่าตนเองนี้นิ่งขึ้น มีสมาธิเยอะขึ้น รู้จักยอมรับเเละปรับตัวมากยิ่งขึ้น รู้จักเกรงใจผู้อื่นมากยิ่งขึ้น ... 

การย้อนกลับมามองนั้นเป็นสิ่งที่ดี ควรย้อนกลับมามองตนเองทุกขณะ ควรดูตนเองทุกขณะ "เพื่อรู้" 

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #ฮักนะเชียงยืน 16
หมายเลขบันทึก: 558290เขียนเมื่อ 5 มกราคม 2014 16:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มกราคม 2014 16:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ดีใจและยินดีกับความสำเร็จของน้องๆนะครับผม มีความสุขมากๆนะผู้นำพลเมืองดีรุ่นใหม่ของไทย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท