วันก่อนระหว่างเดินดูงานPickสินค้าอยู่นั้น น้องที่เป็นหัวหน้างานPack ซึ่งรองานส่วนนี้อยู่ก็เดินมาคุยด้วย พร้อมพูดว่า
"เป็นจั่งใด๋แล่วน้อ ออกของ เป็นตาสิได่้ป่นบ่"
ความหมายก็คือว่า น้องได่เข้ามาถามมาดูงานว่า ออกสินค้าได้มากน้อยแค่ไหน
ผู้เขียนสะดุดกับคำๆนี้ "เป็นตาสิได้ป่นบ่" ซึ่งผู้เขียนไม่ได้ยินมานานมากแล้ว
"เป็นตาสิได้ป่นบ่" ผู้เขียนไม่แนใจว่าเป็นคำพังเพยของอีสานหรือเปล่า แต่เป็นคำพูดเปรียบเปรยว่า ทำงานได้มากพอที่จะทำต่อได้มากน้อยแค่ไหน คล้ายจะเย้าแหย่ผู้ถูกถามนิดๆว่าทำงานไม่ได้มากพอ แต่ไม่ถึงกับเป็นคำถามที่เร่งรัดเร่งเร้าให้ทำงานเร็วๆขึ้น มากขึ้น
เปรียบเปรยว่าเหมือนคนหาปลาที่ไม่ค่อยจะมีโชค หาปลาไม่ได้มากพอที่จะนำไปแกง ไปต้ม แต่อย่างน้อย ก็น่าจะมีหวังได้พอที่จะนำไปทำ "ป่น"
"ป่นปลา" จึงเป็นอาหารง่ายๆสำหรับคนที่ไม่มีปลามากพอ เพียงได้ปลามาเล็กน้อย ตัวสองตัวก็สามารถนำมา ป่น กินกันได้อิ่มอร่อยทั้งครอบครัว
เป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษอีสานที่ต่อสูุุุ้ดิ้นรนกับความแห้งแล้ง เมื่อได้ปลามามากกินไม่ทันก็หมักไว้เป็นปลาร้า เมื่อได้น้อยก็นำมาทำป่น
แต่ได้กินปลาก็ยังถือว่าโชคดี ยากแค้นกว่านั้นคงได้กินปู ดั่งคำผญ๋าอีสานที่ว่า
" คันได้กินปลาแล้ว อย่าลืมปูปะป่อย
ลางเทื่อปูขาดข้อง ยังซิได้ป่นปู "
ขอบคุณภาพจากdreamstime.com
..............
ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติติดตามอ่าน
26 ธันวาคม 2556
พ.แจ่มจำรัส
" ป่นปลา " เป็นยังไงจ๊ะคุณพิชัย ไม่เคยเห็นจ้ะ
...ตอนนี้ยิ่งกินยาก... เพราะปูหายาก และราคาแพงมากกว่าปลานะคะ
คำพูดบ่งบอกถึงเรื่องการทำงานการดำรงชีวิตได้เลย
สมเป็นผญาอีสานจริงๆครับ
ขอบคุณครับ
ได้ความรู้ พังเพยอีสาน วันละคำคะ ขอบคุณคะ
คุณมะเดื่อ วิธีทำก็คล้ายน้ำพริกทั่วๆไปน่ะครับ คนอีสานเรียกป่นปลา
ขอบคุณครับดร. พจนา แย้มนัยนา
สมัยเด็กๆปูหน้านี้ต้องไปขุดเอาครับ อร่อยมันมากครับปูหน้านี้
ขอบคุณครับขจิต ฝอยทอง
ภาษาอีสานฟังแล้วได้ข้อคิดถึงวิ๔ีชีวิตดั้งเดิมครับ
คิดฮอด ป่นปลา ป่นกบ อีหลีเด้อ
บันทึกนี้น่ารักมากค่ะ
จากบ้านมาโดน ได้ยินคำเว้าแบบนี้ คิดฮอดฮอยเก่าหลาย
ขอบคุณครับอัญชัญ ครุฑแก้ว