ตามรอยพระศาสดาในแดนพุทธภูมิ ตอนที่ 3 - (แม่น้ำคงคา วัดสารนาถ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน)
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2556
วันที่ 3 ของการจาริกแสวงบุญ คณะเราตื่นแต่เช้ามืดออกเดินทางจากที่พัก (วัดสารนาถ) ตั้งแต่ 5.00 น. เพื่อไปล่องเรือในแม่น้ำคงคาที่ท่าอัศวเมธฆาต ซึ่งเป็นท่าน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจำนวน 84 ท่าน้ำเลียบฝั่งแม่น้ำคงคา เพื่อดูชาวฮินดูล้างบาป ด้วยการอาบน้ำในแม่น้ำคงคา ได้เห็นการเผาศพที่ริมฝั่งน้ำ มีควันไฟและเพลิงเผาศพอยู่ชั่วนาตาปีเป็นอย่างน้อยกว่าสี่พันปีมาแล้ว สาเหตุที่แม่น้ำยังสะอาดอยู่และไม่มีเชื้อโรคระบาดที่แม่น้ำคงคาก็เพราะเป็นแม่น้ำแห่งนี้ ไหลไปแล้วไปลับ ไม่ไหลวนกลับมา (River of No Return)เราได้เห็นสัจจธรรมที่ชัดเจนว่าคนที่ร่ำรวยหรือยากจนแค่ไหนก็ตาม ย่อมหนีความตายไม่พ้น จะนำอะไรติดตัวไปก็ไม่ได้ และในที่สุดก็ต้องมาพบกัน เท่ากันที่แม่น้ำคงคาแห่งเดียวกันนี้ ฐานะของเจ้าภาพที่เผาศพจะเห็นได้จากฟืนที่เผา เพราะฟืนมีราคาสูงมาก บางศพยังเผาไหม้ไม่ทันหมดก็จำต้องนำไปลอยน้ำแล้ว เพราะเชื้อฟืนมีจำกัดแค่นั้น หากเจ้าภาพมีฐานะดี เชื้อฟืนก็จะมีมากอย่างไม่ต้องเสียดาย อย่างไรก็ตามที่นั่นเขาห้ามถ่ายรูปศพที่กำลังเผาอย่างเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นการไม่เคารพ ให้เกียรติแก่ผู้ตายเป็นอย่างยิ่ง หากพบว่ามีการถ่ายรูปเขาอาจมาแย่งกล้อง หรือหน่วยความจำไป หรืออาจถูกทำร้ายได้
พระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งขุดพบที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันจำนวนมากก็ได้นำมาลอยในแม่น้ำคงคาโดยกษัตริย์ชาวฮินดูที่มีเจตนาดี ว่าเป็นการส่งพระพุทธองค์ไปสู่สรวงสวรรค์ด้วย ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ดังนั้นเมื่อพวกเราได้ลอยกระทงในแม่น้ำคงคาก็ได้กราบไหว้สักการะพระพุทธองค์ ได้ตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากพระพุทธองค์ และได้ถวายกระทงดอกไม้เป็นพุทธบูชาด้วย
เมื่อเสร็จจากการล่องเรือ เราก็กลับมารับประทานอาหารเช้าที่วัดไทยสารนาถ แล้วจึงเดินทางอิสิปตนมฤคทายวันซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัด เพื่อไปสวดมนต์ ทำสมาธิ ทำประทักษินรอบองค์ธัมเมขสถูป 3 รอบ ณ ที่แห่งนี้พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ด้วยกัณฑ์ “ธัมมจักกัปปวัตนสูตร” เป็นกัณฑ์แรกในกลางเดือน 8 ซึ่งในครั้งนั้น ท่านได้มีดวงตาเห็นธรรมบรรลุโสดาบันเป็นท่านแรก จึงนับเป็นพระสงฆ์องค์แรกในพระพุทธศาสนา และถือเป็นวันที่มีพระรัตนตรัยครบบริบูรณ์บังเกิดขึ้นในโลกเป็นครั้งแรก ที่นั่นเราได้ชมเสาหินของพระเจ้าอโศกมหาราชซึ่งสลักด้วยภาษาพราหมี (อ่านว่า พราม-มี) ได้ชมคันธกุฎีแห่งแรกของพระพุทธเจ้า ได้ไปนมัสการเจาคันธีสถูป ซึ่งเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาพบปัญจวัคคีย์เป็นครั้งแรกหลังจากที่พระองค์ได้ตรัสรู้แล้ว เราได้ไปนมัสการกุฏิของพระยสะ พระอรหันต์องค์ที่ 6 ในพระพุทธศาสนาได้ไปนมัสการกุฏิของพระอรหันต์ 8 ทิศ (ที่มีในบทสวดพุทธมงคลคาถาของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โตพรหมรังสี) ได้สักการะกุฏิของพระสีวลี และสถานที่สำคัญอื่น ๆ อีกหลายแห่งคณะเราบางคนได้นำดอกไม้ธูปเทียนที่เตรียมมาจากเมืองไทยมาสักการะในสถานที่สำคัญ ๆต่าง ๆ สำหรับกุหลาบได้นำทองคำเปลวไปปิดในแต่ละแห่งค่ะ
ช่วงบ่ายคณะแสวงบุญได้ไปทอดผ้าป่าสามัคคีที่วัดพุทธจีน และวัดพุทธทิเบต ในเมืองสารนาถ
จากนั้นเราก็กลับมาที่วัดไทยสารนาถ เพื่อทำพิธีบังสุกุลและรำลึกถึงท่านพระครูประกาศสมาธิคุณ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิมฤคทายวันมหาวิหาร เมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้นำพุทธศาสนิกชนจากประเทศไทยมากราบไหว้ สักการะสังเวชนียสถาน 4 แห่งทุกปี และรวบรวมปัจจัยจากชาวไทยไปสร้างมฤคทายวันมหาวิหาร (วัดไทยสารนาถ) ณ ผืนแผ่นดินตรงกันข้ามกับอิสิปตนมฤคทายวันจนในปีหนึ่ง ๆสามารถรับรองชาวไทยให้มาพักที่วัดนี้ได้เป็นจำนวนไม่น้อย
ขอนำบุญมาฝากทุก ๆ ท่าน และขอขอบคุณที่ติดตามเรื่องราวการแสวงบุญนะคะ
...ตื่นตา ตื่นใจกับภาพ และเรื่องราวนะคะ ...โดยเฉพาะความสำคัญของ "ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน"...ที่ได้เรียนรู้มาตั้งแต่เด็ก...หากมีโอกาสคงได้ตามรอยคุณกุหลาบ ไปแสวงบุญสักการะสังเวชนียสถาน 4 แห่งบ้างนะคะ...ขอบคุณค่ะ
ติดตามผลงานอยู่ครับ
ขอเป็นกำลังใจในการเขียนต่อไปครับ
..... ดีใจด้วยนะคะ ...ได้ไปที่ตื่นตา ตื่นเต้น .... งดงามด้วยมรดกทางศาสนาพุทธ นะคะ ขอบคุณ สำหรับรูปภาพสวยๆ นะคะ
ขอบคุณมากค่ะ อ่านเต็มอิ่ม ทั้งเรื่องทั้งภาพประเทืองปัญญาและอารมณ์มากค่ะ อยากไปมานานแล้วแต่ยังลังเลกันอยู่เพราะกลัวลำบากเรื่องการเดินทางภายในประเทศตามที่คนที่ไปแล้วเล่าให้ฟังค่ะ
สวยจริงๆ ทั้งรูปภาพ และคนในภาพ ได้ความรู้ด้วย ชอบจริงๆๆ
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านบันทึกการแสวงบุญในแดนพุทธภูมินะคะ
คุณหมูอ ภูสุภา : _/|\_ |
คุณ เพชรน้ำหนึ่ง : ขอบคุณมากค่ะคุณเพชรที่ติดตามและมอบดอกไม้สดสวยมาให้กำลังใจเสมอ Happy New Year เช่นกันค่ะ |
อาจารย์ ดร. ชยพร แอคะรัจน์ : _/|\_ |
อาจารย์ Dr. Ple : ขอบคุณมากค่ะอาจารย์ ที่ให้กำลังใจกุหลาบตลอดมา |
อาจารย์ บุษยมาศ : _/|\_ |
อาจารย์ ดร. พจนา แย้มนัยนา : |
อาจารย์ ดร. กัลยา GD : ขอบคุณอาจารย์มากค่ะทั้งคำชมและกำลังใจที่มอบให้ ปัจจุบันนี้การเดินทาง ที่พัก และอาหารไม่ลำบากเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ สถานที่ก็สะอาดขึ้นมาก ทางการอินเดียและเนปาลให้ความสำคัญในสถานที่สำคัญของชาวพุทธมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะนำรายได้เข้าประเทศเขาปีละมากมาย หากอาจารย์สนใจอยากไป น่าจะไปเร็วหน่อยก็ดีนะคะ เดี๋ยวนี้คนไปมากขึ้นเรื่อย ๆ จนหลาย ๆ แห่งมีคิวยาวมาก บางแห่งก็มีกำแพงและและเป็นเขตเข้าใกล้ไม่ได้แล้ว หรือแม้แต่จะถ่ายรูปก็ไม่ได้แล้วเป็นต้น ขอบคุณอาจารย์ที่ติดตามเรื่องราวค่ะ |
อาจารย์ kanchana muangyai : ขอบคุณในคำชมและกำลังใจค่ะอาจารย์ |
ผอ. อัญชัญ ครุฑแก้ว : ขอบคุณมากค่ะ ผอ. ที่ติดตามและให้กำลังใจกุหลาบตลอดมา |
อาจารย์ ดร. พจนา แย้มนัยนา : ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ อยากให้อาจารย์ไปจังเลยค่ะ คิดว่าอาจารย์คงจะชอบมาก กุหลาบไปมา 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกเมื่อปี 2008 ครั้งนั้นลำบากมาก ๆ ทุกเรื่อง แต่ก็ยังอิ่มเอิบใจไม่หายจึงอยากไปอีก เพราะต่างจากการไปเที่ยวทั่วไป ที่เราอยากไปที่ใหม่ ๆ มากกว่าที่เก่าซึ่งเคยไปมาแล้ว นะคะ