ธนพันธ์ ชูบุญ : ป้ารู้ไหมครับ วันนี้ป้าได้เสริมพลังให้หมอมากเลยนะครับ


๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๖ วันนี้ทำงานแล้วรู้สึกว่า คนไข้เสริมพลังให้จนล้น จึงจำต้องมาเล่าให้ฟัง

ผมเป็น ward staff และเดิน round พร้อมลูกศิษย์
คนไข้คนหนึ่งเธอเป็นมะเร็งของรังไข่ระยะลุกลาม หลังจากผ่าตัดและได้รับเคมีบำบัดมาระยะหนึ่งเราพบว่ามันเริ่มไม่ตอบสนอง
ก่อนหน้านี้ เราได้เคยคุยกันว่า จะทำการตรวจด้วย CT scan เพื่อดูการตอบสนองของโรค ผมบอกป้าไปว่า โอกาสที่จะแปลผลออกมามีเพียง ๒ อย่างเท่านั้น คือตอบสนองและไม่ตอบสนอง และพยายามจะบอกว่ามันมีแนวโน้มว่าจะเป็นอย่างหลัง

วันนี้เจอหน้ากัน ผมเรียกท่านว่า "คุณครู" ผมเรียกไปอย่างนั้น เพราะดูจากท่าทางแล้วเหมือนคุณครูจริงๆ 
เธอบอกว่า ไม่ได้เป็นครู แต่เรียนครูมา
"อ้าว ทำไมเหรอครับ แล้วทำงานอะไรล่ะ" ผมถามออกไป ๒ คำถามในเวลาเดียวกัน
"ป้าเรียนจบออกมาแล้วไม่ได้ทำงานค่ะ ดูแลพ่อแม่อย่างเดียว" เธอตอบไปยิ้มไป
การสนทนาเริ่มออกรส เพราะผมคอยหาช่องทางในการจะบอกข่าวที่เธอและหลานคงไม่อยากฟัง
"แล้วตอนนี้ พ่อกับแม่ยังอยู่ไหมครับ"
"ไปหมดแล้วค่ะ แม่ไปก่อนเป็น ๑๐ ปีแล้ว ส่วนพ่อเพิ่งจากไปเมื่อปีที่แล้วเอง" ป้าตอบ
ผมหยุดนิ่งเพียงครู่หนึ่ง เพื่อเป็นการผ่อนคลายความอึดอัดระหว่างเรา ถึงตรงนี้ ผมเริ่มสังเกตเห็นร่องรอยของน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาจากดวงตาทั้งคู่ของสตรีที่นอนอยู่บนเตียงตรงหน้าผม หลานสาวเธอยื่นกระดาษทิชชู่ให้ ส่วนผมก็ได้เพียงแต่ยืนและส่งยิ้มให้เพียงเล็กน้อย ผมเดาใจไม่ออกว่าป้าคิดอย่างไร ทำไมจึงร้องไห้ออกมา กำลังคิดเรื่องพ่อแม่ หรือกำลังคิดเรื่องของตัวเอง
"คุณป้าเชื่อไหม ว่าป้าน่ะโชคดีมากๆ ที่ได้ดูแลพ่อแม่และมีโอกาสได้ส่งทั้งคู่ไปก่อน ท่านคงไปอย่างสบายและหมดห่วง ท่านไปในขณะที่ป้ายังคงมีร่างกายที่สมบูรณ์และแข็งแรงในเวลานั้น ผมเชื่อว่าป้าก็คงคลายความห่วงลงไปได้เยอะใช่ไหมครับ"
คราวนี้ท่านตอบด้วยการพยักหน้า และเริ่มมีรอยยิ้มออกมาจากดวงตาแทน
เมื่อบรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลง ผมจึงเริ่มการสนทนาอีกครั้ง
"คุณป้าครับ ที่ป้าเล่ามานั้น จะเรียกว่าไม่ได้ทำงานได้อย่างไร ในเมื่องานของป้าน่ะ คืองานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเลย หมอเองก็ยังทำแบบป้าไม่ได้เลยครับ เราอยู่ทางหนึ่ง แม่อยู่ทางหนึ่ง มันเทียบกับงานที่ป้าทำไม่ได้เลยสักนิดเดียว ป้ารู้ไหมครับ วันนี้ ป้าได้เสริมพลังให้หมอมากเลยนะครับ เป็นเกียรติจริงๆที่ได้มีโอกาสมาดูแลป้า แม้ในช่วงเวลาสั้นๆนี้"

ผมรู้สึกอย่างนี้จริงๆ รู้สึกมีพลังจากการพูดคุยจริงๆ 

ผมออกมาคุยกับลูกศิษย์ว่า ผมไม่ได้เป็นหมอมะเร็ง ตอนนี้รักษามะเร็งไม่เป็นแล้วเสียด้วยซ้ำ แต่ผมกำลังเป็นหมอ ผมกำลังรักษาคนไข้ แม้ไม่ได้นักษาโรค แต่รักษาคน

https://www.facebook.com/thanapan.choobun/posts/617368141643718

หมายเลขบันทึก: 557024เขียนเมื่อ 21 ธันวาคม 2013 22:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 มิถุนายน 2014 06:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท