แด่นักกู้...ด้วยหนังสือแจกงานศพ
โต๊ะทำงานของผมในตอนเช้าแต่ละวัน มักมีซองการ์ดเชิญวางอยู่เสมอ บางรายแนบบันทึกเล็กๆ ว่า “ขออภัยที่ไม่ได้มาเรียนเชิญด้วยตนเอง” ซึ่งใครจะแนบหรือไม่แนบผมก็ไปแทบทุกงาน โดยเฉพาะงานศพ ด้วยผมมีเหตุผลว่า เป็นงานที่ควรไปก่อนงานอื่น เพราะเจ้าภาพย่อมต้องการเพื่อน ต้องการความอบอุ่นในยามที่สูญเสียคนที่รักไปบางเดือนมนุษย์เงินเดือนอย่างผมต้องเจียดเงินใส่ซองไปหลายพันบาท แต่ผมก็เต็มใจ ถือว่าเป็นการสงเคราะห์ ช่วยเหลือพึ่งพากัน ทีเขาทีเรา เพราะโลกนี้ไม่มีสิ่งใดเที่ยงแท้แน่นอน
ผมมีหนังสือแจกในงานศพเก็บไว้ในลังเก่าๆ หลายเล่ม สังเกตได้ว่าก้นลังเป็นหนังสือปกขาวดำ ในชั้นปากลังเป็นหนังสือปกสีสดใส นึกถึงคำวิจารณ์ของเพื่อนฝูงบางคนในเรื่องนี้ “หนังสืองานศพควรพิมพ์สีขาวดำ จะได้รู้ว่าเป็นหนังสือแจกงานศพ” แต่ผมกลับคิดว่าสาระในหนังสือนั่นสำคัญกว่า เมื่อเจ้าภาพตั้งใจพิมพ์เป็นธรรมทานหรือวิทยาทาน เพื่ออุทิศบุญกุศลแก่ผู้ตาย ผมเห็นว่า หากจะได้อานิสงส์จริงๆ สาระในหนังสือก็ควรจะเป็นเรื่องประเทืองปัญญาของคนอ่าน สีสันปกที่สดใสก็น่าจะสร้างความเบิกบานใจชวนอ่านมากกว่าสีขาวดำ ในวันหยุดที่ปลอดโปร่ง ผมต้องหาโอกาสจัดหนังสือที่รุงรัง และทำความสะอาดห้องทำงานในบ้าน ผมเคยรื้อหนังสือแจกงานศพมาอ่านเพลินๆ บางทีก็เห็นสัจธรรมง่ายๆ จากสาระที่อ่าน....มีหนังสือเล่มหนึ่ง กล่าวถึง มงคลชีวิต 9 ประการ เสียดายที่ไม่ได้บอกชื่อผู้เขียนไว้ (ผมเคยอ่านแต่มงคลชีวิต 38 ) มงคลชีวิตที่ว่า ได้แก่ ซื่อตรง สะอาด ขยัน ใช้จ่ายพอสมควรแก่ฐานะ งดเว้นสิ่งให้โทษ ไม่ล่วงเกินผู้อื่นก่อน งดติดต่อคบค้าสมาคมกับคนไม่ดี กตัญญูกตเวที รู้จักหน้าที่และทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ผู้เขียนได้อธิบายมงคลชีวิตแต่ละข้อไว้อย่างตรงไปตรงมา จำง่ายแม้จะเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าใจดี แต่ก็เป็นเรื่องที่ฝืนตัวเองได้ยาก...อย่างเช่น มงคลชีวิตข้อที่ 4 ใช้จ่ายพอสมควรแก่ฐานะ
.....คนเป็นจำนวนมากที่ต้องลำบากยากยากจน เป็นหนี้สิน เพราะเขาใช้จ่ายเกินฐานะ ...อัตคัตเพราะฟุ่มเฟือย รูรั่วนิดเดียวยังทำให้เรือใหญ่จมได้ คนรวยเพราะทำตัวจน คนขัดสนเพราะทำตนรวย จงกินแต่พออิ่ม ชิมแต่พอดี เป็นหนี้แต่พอประมาณ อย่าเอาโรงแรมเป็นบ้าน อย่าเอาภัตตาคารเป็นครัว อย่ากินเกิน อย่าใช้เกิน.... รู้จักแก้จนด้วยการทำตัวต่ำ...รู้จักลดขนาดความต้องการลงเพื่อความอยู่รอดของครอบครัว....
ด้วยความที่ทำงานกับคนที่มีอาชีพเป็นครู พออ่านถึงตรงนี้ ใจก็นึกไปถึง ปัญหาหนี้สินครูที่นับวันจะวิกฤต ดูข้อมูลแล้วน่าตกใจ ครูเป็นนักกู้ที่ติดอันดับต้นๆ เฉพาะหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ จากการเปิดเผยข้อมูลของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จากสหกรณ์ทั่วประเทศ 109 แห่ง พบว่า ครูเป็นหนี้เฉลี่ยรายละ 833,135 บาท (ข้อมูล 31 ธันวาคม 2554) ปัจจุบันตัวเลขน่าจะไม่ต่ำกว่าล้านจึงเป็นเหตุแห่งทุกข์ของครู ที่โยงไปสู่คุณภาพชีวิต ขวัญกำลังใจในการทำงาน ผลสัมฤทธิ์ของงานที่ทำ รวมทั้งวิกฤตศรัทธาจากสังคม
ตอนนี้ ผมกำลังคิดจะมอบหนังสือแจกงานศพเล่มนี้ ให้เพื่อนครู 2-3 คน ที่แวะเวียนมาให้เซ็นค้ำประกันเงินกู้สหกรณ์ทุกรอบ 4 เดือน ถึงเขาไม่ยอมอ่าน ก็น่าจะเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่า “ข้าเบื่อจะเป็นนายประกันของแกแล้ว(โว้ย)”
ไม่มีความเห็น