ความสำเร็จสูงสุดในชีวิตหรือ Successful Aging
เป็นสิ่งที่บุคคลต้องการโดยอิงจากทฤษฎีลำดับความต้องการของ Maslow
อ้างอิงภาพ:sushinisen.hubpages.com
ในที่นี้ผมจะขออธิบายถึงทฤษฎีของMaslowก่อนนะครับ
ทฤษฎีนี้จะกล่าวถึงความต้องการของคนเราตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงความต้องการสูงสุดซึ่งจะมีทั้งหมด5ขั้น โดยความต้องการของแต่ละคน จะอยู่ในขั้นที่แตกต่างออกไป โดยเริ่มจาก
ขั้นที่ 1 คือ Physiological Needs คือความต้องการทางด้านกายภาพต่างๆเช่น อาหารการกิน การนอน ปัจจัย 4 เป็นต้น
ขั้นที่ 2 คือ Safety and Security Needs คือความต้องการความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิต เช่น อาชีพการงาน ฐานะทางการเงิน หรือการที่มีบ้านอยู่อาศัยอย่างมั่นคงและปลอดภัยรวมถึงการไปเข้ารับการรักษาต่างๆ
ซึ่งในขั้น ที่ 1 และ 2 เป็นขั้นพื้นฐานของบุคคลทุกคนต้องการจะมี
ขั้นที่ 3 คือ Love and Belongingness คือการต้องการเป็นที่ยอบรับในหมู่เพื่อนหรือได้รับความรักจากบุคคลอื่นๆ รวมถึงคู่รัก เป็นต้น
ขั้นที่ 4 คือ Esteem Needs คือ การต้องการ เป็นที่ยอมรับในหมู่สังคมที่อาศัย รวมถึงต้องการความยกย่องสรรเสริญ และความเชื่อมั่นในตนเองอีกด้วย
ขั้นที่ 5 คือ Self Actualization Needs ซึ่งเป็นความต้องการขั้นสูงสุด คือ เป็นการที่อยากให้ความนึกคิดของตนเองประสบผลสำเร็จ เช่น อยากให้เกรดการเรียนเทอมนี้ดีกว่าเทอมก่อน แล้วทำได้ คือบรรลุความต้องการในขั้นนี้
หลังจากที่เข้าใจถึงลำดับขั้นความต้องการของแต่ละบุคคลไปแล้วเราจำทำอย่างไรถึงจะสำเร็จขั้นต่างๆได้
ในบทบาทของนักกิจกรรมบำบัดจะเน้นการใช้ทฤษฎีของMaslowในบุคคลหลังเกษียณอายุ และเพิ่ม self แก่บุคคลวันทำงานโดยอาศัยเทคนิคต่างๆดังนี้
1.การคิดทบทวนในความคิด(Self detemination) แล้วพยายามทำให้บรรลุความคิดยิ่งถ้าเราคิดทบทวนในวัยอายุน้อยๆหรือคิดทบทวนตั้งแต่มีเป้าหมาย จะทำให้เกิด successful aging เร็ว เช่นเทอมนี้ต้องการให้เกรดเอหมดแล้วตั้งใจทำได้ จึงบรรลุผล เป็นต้น
โดยนักกิจกรรมบำบัดจะเข้าไปกระตุ้นให้เกิดความคิดทบทวนหรือกระตุ้นให้ทำสิ่งนั้นได้สำเร็จ เช่น ทำให้ผู้รับบริการสามารถบอกเป้าหมายของตนเองได้ว่าต้องการทำอะไรแล้วนักกิจกรรมบำบัดจะเป็นตัวช่วยในการที่ให้ผู้รับบริการสามารถทำตามเป้าหมายของตนได้
2.การเพิ่มคุณค่าในตนเอง(Self-value) เช่นการทำคุณประโยชน์แก่สังคมในผู้สูงอายุจะเป็นการเพิ่มคุณค่าในตัวของผู้รับบริการ รวมถึงในผู้รับบริการที่บกพร่องทางด้านร่างกายการได้ทำกิจวัตรประจำวันต่างๆด้วยตนเอง คือการเพิ่มSelf-value ในตัวของเขาเองอีกด้วย
โดยนักกิจกรรมบำบัดจะเข้าไปสอนการใช้ชีวิตประจำวันตามความสามารถของผู้รับบริการ หรือการหากิจกรรมคุณประโยชน์ หรือกิจกรรมต่างๆให้ผู้สูงอายุทำเพื่อให้รู้สึกว่าตนเองแม้จะอายุมากแต่ยังสามารถทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อบุคคลอื่นได้
3.การใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพและพอเพียงSelf-efficiency เป็นการตระหนักนึกคิดในสิ่งที่ตนเองกระทำและตนเองพึงมีเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
โดยนักกิจกรรมบำบัดจะดึงนำเอาความสามารถของผู้รับบริการที่มีออกมาได้เต็มความสามารถตามวิธีการของกิจกรรมบำบัด เช่น การใช่อุปกรณ์เสริม ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่นักกิจกรรมบำบัดสามารถประดิษฐ์ขึ้นได้เองจากสิ่งของต่างๆ เพื่อลดการใช้เงินในการจัดหาอุปกรณ์
โดยหากมี3 อย่างนี้ จะส่งผลให้มี Successful Aging หรือ สำเร็จขั้นที่5ตามทฤษฎีของ Maslow ได้เร็วยิ่งขึ้น
แต่การที่นักกิจกรรมบำบัดจะเข้าไปมีบทบาทได้ จะต้องอ้างอิงกับปัจจัยต่างๆเช่น
-สภาพแวดล้อมทางสังคม
-สถานะทางการเงิน
-สภาพร่างกาย
-ความสามารถในการทำกิจกรรม
ซึ่งอาจจะใช้กรอบอ้างอิงทางกิจกรรมบำบัดต่างๆเข้ามาร่วมด้วย เช่น PEOP(Person Environment Occupation Performance) โดยกรอบอ้างอิงนี้จะพูดถึงปัจจัยต่างๆที่สงผลกระทบต่อกิจกรรม ซึ่งจะส่งผลให้การทำกิจกรรมนั้นบรรลุเป้าประสงค์ขั้นสูงสุดหรือ Successful Aging เช่นกัน
ขอบคุณครับ^^ ในบทความหน้าผมจะกล่าวถึง succesful agingของตนเอง รอติดตามชมนะครับ
ไม่มีความเห็น