นิภาพร วงศ์ศรีทา
หัวหน้างานผู้ป่วยใน
มีผู้ป่วยโรครูมาตอยด์ Admit ด้วยอาการไข้ ปวดตามร่างกายขาดยา ราว 7 ปี แพทย์ได้สั่งยาเดิม เมื่อดูที่คอมพิวเตอร์จึงเขียนยาเดิมที่ใบ Doctor order วันแรกเภสัชกร Key ยา ได้ยารักษาตามปกติ ต่อมาเปลี่ยนเภสัชคนใหม่ ผู้ป่วยไม่ได้รับยาเดิมประมาณ 2 วัน จึงตั้งวงคุยกัน พบว่าแนวทางไม่ชัดเจนจึงทำให้ เกิดการปฏิบัติที่แตกต่างกัน ส่งผลกระทบต่อผู้รับบริการโดยตรง ถือเป็นความคลาดเคลื่อนทางยาที่สำคัญ หลังจากได้หาแนวทางแก้ไขปัญหา คือกรณีที่เป็นยาเดิมของโรงพยาบาล ป่าติ้ว ผู้ป่วยนำมาด้วยหรือไม่ก็ตาม จะมีการตรวจสอบ รับยาไว้ แล้วลอกยาเดิมลง กรณีที่หมอสั่งกินต่อ และเภสัชกรจัดยามาให้ทุกวัน Daily Dose เหมือนยาทั่วไป เมื่อผู้ป่วยจะกลับบ้านต้องตรวจสอบว่าแพทย์สั่งให้กินต่อหรือไม่ และดูจำนวนว่าพอหรือไม่ และคืนยาเดิมให้กลับบ้านไป แต่กรณีมียาเดิมจากโรงพยาบาลอื่นที่ไม่มียาในบัญชียาหลักในโรงพยาบาลป่าติ้วนั้น เมื่อแพทย์สั่งกินต่อ ให้ลอกยา และจัดยาเดิมให้กินต่อเนื่อง โดยไม่ต้องลงในระบบคอมพิวเตอร์ คุยกันต่อเนื่องเรื่อง ตัวทำละลายยาที่ใช้ในงานผู้ป่วยใน เช่น water NSS ที่เปิดผสมยา ควรใช้แค่ 24 ชม. แล้วทิ้ง ไม่ต้องเสียดาย และระบุวัน เวลาที่เปิดยา และวันเวลาหมดอายุ การระบุ level ขณะเตรียมยา ก่อนนำไปฉีดผู้ป่วย เดิมมีแค่ เตียง ชนิดของยาที่ฉีด ปริมาณ เท่านั้น แต่ควรระบุชื่อ สกุล เตียง ชนิดของยา ปริมาณ เวลาที่ผสม ติดไว้ที่Syringe ยาฉีด การทำงานเพื่อการพัฒนาที่แนบเนียนในงานประจำแบบไม่แปลกแยก ด้วยทัศนคติที่ดี ด้วยคำกล่าว ที่ว่า " คุยกันเล่น เห็นของจริง อิงวิจัย " อันนำไปสู่กาพัฒนางานที่มีคุณภาพ เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยต่อไป
ประเด็นที่ได้จากการตั้งวงคุยกัน:
เคยเห็นรุ่นพี่เขาเป็นโรคนี้ ทรมานมากๆ เลยค่ะ
เรื่อง ยา นี่ ใหญ่ ครับ เพราะ บาง รพ. "ติดยา" ไม่ผ่าน การประเมิน HA ครับ 555
จ้า....คุยกันเล่นๆเห็นของจริง อิงวิชาการ สานสู่ความสุขในการทำงาน
ดีจังค่ะ เป็นการร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นด้วยทัศนคติดีๆ เพื่อปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น