โมเดลการคิด ๒


..."เมื่อจุดไฟจะทำให้เทียนไขมีเเสงสว่างเเล้วเมื่อเเสงสว่างได้หมดลงจะทำให้กลายเป็นฐานที่มั่นคงในการตั้งเทียนไขเล่มไหม่ทุกครั้งไป" ...

เทียนไขโมเดล

"จุดไฟ  ละลายเทียน  ฐานเทียน"

 

 

         "ปลวเทียนที่ชัชวาลย์ชั่งมองน่างามเสียนี่กระไร" เทียนไขเป็นเเสงสว่างที่มีมาเเต่เมื่อครั้งบรรพบุรุษ เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับวีถีชีวิตของเรามาเเต่ช้านานที่บรรพบุรษได้ให้แสงสว่างนี้สืบทอดมาชั่วลูกชั่วหลาน  เป็นเครื่องให้แสงสว่างยามไร้แสงอาทิตย์  เป็นเครื่องสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาต่างๆ หรือใช้ประกอบศาสนพิธีต่างๆ  ฉะนั้นเทียนไขจึงมีความผูกพันกับวิถีชีวิตของเรามานานนับนานชั่วลูกหลาน  จนถึงปัจจุบันเริ่มมีไฟฟ้าใช้อย่างแพร่หลายแต่ก็ไม่สามารถทำให้เทียนไขนี้สูญสิ้นไปในวิถีชีวิตของเราทุกคน...เราเคยลองสังเกตไหมว่าการที่เราจะจุดเทียนไขสักเล่มหนึ่งเราจะต้องมีไฟหรืออุปกรณ์ที่สามารถทำให้เกิดไฟได้เเล้วจะนำไฟนี้ไปจุดที่ไส้เทียนโดยที่ไส้เทียนจะเริ่มเผาไหม้ทำให้ไขเทียนเริ่มทำงานซึ่งจะชะลอไฟความร้อนที่ได้จากไส้เทียนให้มากที่สุดจนละลายออกมาเป็นน้ำเทียน เเต่เมื่อละลายลงเมื่อเรื่อยๆนั้นเราเคยลองสังเกตไหมว่าเทียนไขที่ไหม้จนดับลงจะมีไขเทียนอยู่รวมกันเป็นฐานที่มั่นคงซึ่งจะสามารถทำให้เทียนไขเล่มใหม่สามารถตั้งอยู่บนไขเทียนที่ละลายนี้ได้อย่างมั่นคง "เมื่อจุดไฟจะทำให้เทียนไขมีเเสงสว่างเเล้วเมื่อเเสงสว่างได้หมดลงจะทำให้กลายเป็นฐานที่มั่นคงในการตั้งเทียนไขเล่มไหม่ทุกครั้งไป"  เเต่เทียนไขทุกเล่มมักจะมีเเสงสว่างไม่เท่ากันทั้งนี้อาจเพราะเนื่องมาจากกระเเสลมที่พัดพาจนบางครั้งอาจทำให้เทียนไขนี้ดับลงในทันใดจนต้องได้จุดใหม่อีกครั้งครัน  เเล้วเราเคยลองสังเกตไหมว่าถ้าเทียนไขเล่มใดที่มีไส้เทียนมากกว่าไขเทียนจะสามารถทำให้เทียนไขเล่มนั้นไหม้ลงหรือดับลงในชั่วพริบตา  เเต่ถ้าไขเทียนมีมากกว่าไส้เทียนในปริมาณมากจะทำให้เทียนเล่มนั้นดับลงไปเพียงเพราะไขเทียนของตนเอง  การที่เทียนจะชัชวาลได้ขึ้นอยู่กับหลายสิ่ง คือ ไส้เทียน  ไขเทียน  ไฟจุด  กระเเสลม ซึ่งถ้าเราลองนำมาเปรียบกับกระบวนการทำงานในอีกทัศนะจะเห็นว่า การที่เราต้องการจุดไฟนั้นเปรียบดุจการจุดประกายเเนวคิดเเละเเรงบันดาลใจในการทำงานเมื่อเราจุดได้ดี ไฟจะดีเเต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพของเราเเต่ละคนเมื่อได้จุดประกายเเล้วนั้นไส้เทียนเปรียบเหมือนตัวตนของเราที่คอยทำให้ไขเทียนหรืองานนั้นๆสามารถสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีโดยที่เมื่อได้ทำงานสักระยะหนึ่งเราจะมีเเนวทางการดำเนินงานที่เป็นเเนวคิดในการพัฒนางานที่เป็นเอกลักษณ์จนกลายเป็นฐานที่มั่นคงที่จะสามารถทำให้กลุ่มทำงานชุดที่ ๒ ทำงานอยู่บนสิ่งที่พี่ทำไว้ในระยะเเรกทำให้เกิดฐานของงานที่มั่นคงที่เป็นเเนวทางของการทำงานขั้นต่อไป  เเต่เมื่อเรามีงานน้อยก็จะมีฐานของงานน้อยซึ่งมีไขเทียนน้อย  เเต่เมื่อเรามีงานเยอะจนไม่สามารถทำได้หรืองานใหญ่จนไม่สามารถทำได้ซึ่งทั้งนี้เพราะไขเทียนของเรานั้นมีมากเกินศักยภาพที่เราจะสามารถทำได้  เเต่จงหาความพอดีระหว่างไส้เทียนกับไขเทียนที่เหมาะสมกับศักยภาพของตนเองที่เราพอทำได้ หลายๆครั้งที่กระเเสลมได้พัดผ่านมาให้ไส้เทียนนั้นดับลงไป เเต่อีกหลายๆครั้งที่ไส้เทียนนั้นลุกขึ้นมาด้วยกระเเสลมนั่นเองที่พัดผ่าน...

 

 

 เทียนไขโมเดล

ไฟจุด = การให้เเนวคิดในงานทำงาน หรือ เเรงบันดาลใจในการทำงาน หรือ เเนวทางการต่อยอดงาน ที่คอยจุดประกายความคิดให้ทุกคนในทุกขณะตลอดระยะเวลาของงานนั้นๆ

ไส้เทียน = เปรียบเหมือนศักยภาพของเราในตัวที่เรามี  ทั้งนี้ศักยภาพของเราทุกคนไม่เท่ากันไฟจึงชัชวาลไม่เท่ากันเเต่ทุกคนสามารถจุดไฟได้เเล้วไฟนี้จะลุกโชดช่วงได้เมื่อเขามีไส้เทียนที่เหมาะสมเเต่ไส้เทียนนี้เองที่เป็นข้อต่างเเต่ทุกคนสามารถเพิ่มใส้เทียนได้นั่นเอง

ไขเทียน = เปรียบเหมือนงานทั้งหมดที่เราได้ดำเนินงาน "ถ้าไขเทียนนี้มากเกินไปจะทำให้ไส้เทียนไฟดับลง เเต่ถ้าไขเทียนนี้น้อยเกินไปจะทำให้ไส้เทียนนี้หมดไปอย่างรวดเร็วจนทำให้ฐานที่จะตั้งเทียนครั้งต่อไปมีน้อย" เเต่ถ้าไส้เทียนกับไขเทียนมีความสมดุลกันจะสามารถทำให้เทียนนั้นชัชวาลย์ได้อย่างงดงาม

ฐานเทียน = เป็นเเนวทางการดำเนินงานของรุ่นพี่ที่เราจะนำมาต่อยอดงานให้บรรลุเป้าหมายตามบันไดขั้นถัดมา หรืออาจเรียกภาษาชาวบ้านว่า "มรดกตกทอด" ที่รุ่นพีได้ให้ไว้ ... 

กระเเสลม = เปรียบเหมือนอุปสรรคที่คอยพัดพาให้เทียนดับลงจนได้จุดประกายครั้งใหม่อีกครั้งด้วย "ไฟจุด" เเต่จะมีอีกหลายๆครั้งที่กระเเสลมนี้พัดพาให้เทียนที่ดับลงที่ยังมีไฟได้ชัชวาลย์ขึ้นมาอีกครั้งครัน ทั้งนี้เนื่องด้วยบางครั้งอุปสรรคนี้จะเป็นเเรงกระตุ้นที่จะทำให้เรามีพลังในการทำงานต่อไป ... 

 

..."เมื่อจุดไฟจะทำให้เทียนไขมีเเสงสว่างเเล้วเมื่อเเสงสว่างได้หมดลงจะทำให้กลายเป็นฐานที่มั่นคงในการตั้งเทียนไขเล่มไหม่ทุกครั้งไป" ... 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 552369เขียนเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2013 08:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2013 08:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

               

                      คิด  ได้ งัย  เจ๋งจริงๆๆๆ

สระ เอ  หายไปหรือเปล่า ชายแสน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท