ชีวิตในเมืองหลวง


เราจะต้องหาที่เรียนหรืองานทำให้มีรายได้ให้เร็วที่สุด

ชีวิตในเมืองหลวง

 

          ชีวิตในเมืองหลวงหลังจากเดินทางโดยรถไฟไทย มาลงที่สถานีบางซื่อ และมีเพื่อนของพี่ชายมารับ ไปอยู่ด้วยกันโดยได้เช่าห้องอยู่หลังวัดมะกอกใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ “...เราจะต้องหาที่เรียนหรืองานทำให้มีรายได้ให้เร็วที่สุด...”ความคิดที่จะเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหงก็เป็นอันล้มเลิก เพราะต้องใช้เวลาเรียนนานถึง ๔ ปี กว่าจะจบปริญญาตรี จบแล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีงานทำหรือไม่? ถ้าไม่มีงานทำนอกจากพ่อและแม่ต้องเป็นหนี้มากขึ้นแล้ว เราก็ไม่มีรายได้ช่วยเหลือครอบครัวไม่ได้ จึงตัดสินใจเปลี่ยนเข็มมาเรียนระยะสั้นเพื่อให้มีงานทำและเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด และมีรายได้มาช่วยครอบครัวโดยเร็ว ส่วนการเรียนต่อปริญญาเอาไว้ทีหลัง จึงไปสมัครสอบเข้าเรียนที่สถาบันการศึกษาทางสหกรณ์ โรงเรียนวิศวกรรมชลประธาน และโรงเรียนปศุสัตว์ ล้วนเป็นโรงเรียนที่สังกัดในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงตั้งใจอ่านหนังสืออย่างหนักอีกครั้ง และไปหาซื้อหนังสือมือสองที่แผงหนังสือสนามหลวงมาอ่านเพิ่มเติมก่อนถึงวันสอบจริงได้สมัครทั้ง ๓ แห่ง สอบได้ ๒ แห่ง คือที่สถาบันการศึกษาทางสหกรณ์ เรียน ๑ ปี กับโรงเรียนปศุสัตว์ใช้เวลาเรียน ๒ ปี ก็จะมีงานทำ จึงได้ตัดสินใจเลือกเรียนสหกรณ์เพราะใช้เวลาเรียนปีเดียว เสียค่าบำรุง ๔๑๒ บาท ตลอดหลักสูตรเรียนจบสอบสัมภาษณ์ผ่านได้บรรจุเป็นข้าราชการระดับ ๑ เงินเดือนขั้นต้น ๑,๒๒๐ บาท นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนในครอบครัวลำบาก เวลาเรียน ๑ ปี เหมือน ๑๐ ปี ที่ต้องทนทรมานในเมืองหลวงได้รับรายได้จากแม่และพี่ชายที่คอยส่งเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายเดือนละ ๓๐๐ บาท เดือนไหนแม่ไม่มีเงิน ยืมใครไม่ได้ก็ไม่ได้ส่งไปให้ มีอยู่วันหนึ่งเคยอดข้าวต้องดื่มน้ำทั้งวันและเดินไปเรียน เพราะวันนั้นเป็นวันอาทิตย์หยุดเรียนไม่รู้จะไปยืมเงินใครที่ไหน ความหิวบวกความหวังว่าพรุ่งนี้โรงเรียนเปิดต้องรีบไปแต่เช้า เดินจากที่พักหลังวัดมะกอกไปสถาบันการศึกษาทางสหกรณ์สี่แยกพิชัย เขตดุสิต เมื่อไปถึงสิ่งแรก คือยืมเงินคุณครู ท่านเมตตาต่อศิษย์เสมอและไม่เคยปฏิเสธความช่วยเหลือ ทำให้ผมมีเงินสำหรับกินข้าวเช้าและรอรับธนาณัติไปรษณีย์จากทางบ้านต่อไป

เรียนไปได้ ประมาณ ๓ เดือน เห็นว่าหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปต้องแย่แน่ๆ จึงตัดสินใจพึ่งตนเองโดยหางานทำหลังเลิกเรียน จึงไปขอทำงานที่โรงพิมพ์หนังสือข้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เข้าทำงาน ๕ โมงเย็น เลิก ๓ ทุ่ม ได้ค่าแรงครั้งละ ๒๕ บาท กลับที่พักดึกหน่อยค่อยมาทำการบ้าน ดีกว่าอดมื้อกินมื้อ และรบกวนผู้อื่นอยู่บ่อยๆ สำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะหารายได้จากการรับงานวาดรูปเหมือนโดยมีเพื่อนร่วมสถาบันลงทุนซื้ออุปกรณ์ให้ประกอบอาชีพรับเขียนภาพเหมือน เพื่อนๆ ที่กลับบ้านในวันหยุดจะเป็นนายหน้าหาภาพมาให้วาด โดยวาดตามภาพในบัตรประชาชนที่ใช้เป็นต้นแบบ วาดขยายให้ใหญ่ ด้วยสีฝุ่นขาวดำกับพู่กันจีน ได้ค่าจ้างรูปละ ๕๐ บาท เป็นรายได้อีกทางหนึ่ง หนึ่งปีเต็มที่อยู่ในเมืองหลวงได้ทั้งความรู้และประสบการณ์ ได้มีเพื่อนที่อยู่กันคนละจังหวัดจำนวน ๔๒ คน ทุกคนเรียนสำเร็จหลักสูตรและได้บรรจุเข้ารับราชการตามที่ตั้งตารอคอย นั่นหมายถึงอาชีพที่มั่นคง“...ขยันเรียน เรียนให้เก่งๆ อย่าดื้อนะลูก จะได้มีงานทำเป็นเจ้าคนนายคน…” คำสอนของย่าพร้อมคำอวยพรอีกมากมายเมื่อครั้งที่ต้องออกจากชนบทมาเป็นคนจนในเมืองที่สุดก็สำเร็จการการศึกษาได้ประกาศนียบัตรการศึกษาทางสหกรณ์ สอบสัมภาษณ์และบรรจุเข้าทำงานเป็นข้าราชการนับเป็นความภาคภูมิใจและดีใจเป็นที่สุด ถึงแม้จะไม่ได้เป็นนายคน แต่ก็พอใจที่ได้มีงานที่มั่นคงทำ พ่อและแม่จะได้มีที่พึ่ง น้องๆ ก็จะได้เรียนต่อด้วยรายได้จากเงินได้รายเดือนของเรา

 

หมายเลขบันทึก: 552185เขียนเมื่อ 31 ตุลาคม 2013 23:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 ตุลาคม 2013 23:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ต้องขอชื่นชมมากๆค่ะ...เป็นการครองตนที่ต้องใช้ความอดทน เข้มแข็งอย่างมากในสังคมเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ และที่ไม่ธรรมดาน่าทึ่งมากคือ...อยู่หลังวัดมะกอก อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ชุมชนที่ขึ้นชื่อ...มีครบทุกเรื่องนะคะ...

ขอบคุณท่าน ดร.พจนา แย้มนัยนา มากครับ ที่เข้าใจชีวิตชุมชนหลังวัดมะกอก(อภัยทายาราม) ผมหลุดรอดจากอบายมุขมาไ้ด้ก็ด้วยความอดทน และโชคดีโดยบังเอิญ ที่ตอนเข้าไปอยู่ในชุมชนนั้นใหม่ ๆ เจอเด็กรุ่นพี่ นั่งซอมซ่ออยู่ที่ราวสะพาน ผมเดินออกจากที่พักไปหาก๋วยเตี๊ยวเรือกิน  ก็เลยชวนเขากินด้วยและจ่ายเงินเลี้ยงเขาท ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ค่อยจะมีสตางค์และก็ไม่รู้จักเขา  แต่ผมที่ได้คุ้มค่ามากครับ คือไม่ว่าผมจะไแไหนมาไหนกลับดึกดื่นอย่างไร ก็ไม่มีจิ๊กโก๋คนไหนมาตามกวนหรือทำร้าย ผมมารู้ที่หลังคนที่ผมเลี้ยงก๋วยเตี๊ยวคนนั้น ก็คือหัวโจกของเด็กเกเรที่ชอบระรานใครต่อใคร และได้ยินจากปากพวกอันธพาลแถวนั้นบอกว่าอย่าไปยุ่งกับผม มีคนขอไว้ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท