หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป แห่งวัดป่าอรัญญวิเวก (บ้านปง) ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ พระเกจิอาจารย์สายกรรมฐาน ท่านเป็นพระที่เพ่งกสิณฐ์แรงมาก อีกทั้งยังเป็นพระที่ปฎิบัติดีปฏิบัติชอบและยังเป็นพระอุปัฎฐาก หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดป่าอรัญญวิเวก ยังเป็นวัดที่หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ได้สร้างไว้และจำพรรษาที่วัดแห่งนี้
เช้ามืดของวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๖ ผู้เขียนตื่นตอนตี ๔ น. มองดูนาฬิกา เห็นว่ายังมีเวลาเหลืออยู่จึงนอนต่อ ระหว่างนั้นผู้เขียนเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น ฝันว่า เหมือนมีอะไรมาบังตา ทำให้มองไม่เห็นหนทางที่จะไปวัดป่าอรัญญวิเวก แต่ยังมองเห็นอะไรได้เป็นอย่างดี จู่ ๆ มีเด็กผู้หญิงแต่งชุดกระโปรงบาน ๆ สีออกขาว-ชมพู อุ้มตุ๊กตา มายืนข้าง ๆ ผู้เขียน แล้วกระซิบบอกว่า
"ให้บอกคนนั้น (เพื่อนผู้เขียน) นำทางซิ" ผู้เขียนจึงเดินไปหาเพื่อนและตะโกนบอกเพื่อน หลังจากนั้นผู้เขียนเดินไปส่งเด็กหญิงคนนั้นกลับบ้าน ทางกลับบ้านของเด็กเป็นป่ารกทึบ มีซากปรักหักพังเต็มไปหมด ผู้เขียนได้เอ่ยถามเด็กหญิงในฝันว่า "ไม่กลัวเหรอลูก ทำไมทางมันรกจัง" เด็กหญิงคนนั้นตอบว่า "ไม่กลัว เทียวมาหลายปีแล้ว" ผู้เขียนจึงแกะขนมที่เตรียมไว้ถวายพระตอนเช้าให้เด็กไป ๑ ห่อ
ผู้เขียนได้กราบเรียนความฝันให้หลวงปู่เปลี่ยน ทราบ
ท่านเมตตาถามว่า...................... "เค้ามาขออะไรไหมโยม"
ผู้เขียน.................................. "ไม่เจ้าค่ะ เค้าไม่ได้มาขออะไรเลย มีแต่มาแนะนำชี้หนทางมาพบหลวงปู่ แต่ลูกได้ให้ขนมที่เตรียมมาถวายพระไป ๑ ห่อ"
หลวงปู่เปลี่ยน............................"อืม ดีแล้ว"
หลวงปู่ได้เมตตาสอนธรรมะหลายอย่างให้กับผู้เขียนและยังเมตตาให้ผู้เขียนกับเพื่อนเข้าพบเป็นการส่วนตัว บนกุฎิหลังเก่าของท่าน ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ถึงเวลาโปรดญาติโยม จะต้องรออีกเกือบสองชั่วโมง ตัวผู้เขียนเองก็ไม่นึกไม่ฝันว่า จะได้รับความเมตตาถึงเพียงนี้ ในใจคิดแต่เพียงว่า ขณะที่ท่านเดินจงกรม ขอเพียงแค่ได้กราบเท้าท่าน ได้เห็นผ้าจีวรของท่านนับว่าเป็นบุญแล้ว เมื่อท่านเดินจงกรมเดินผ่านมาผู้เขียนรีบนั่งคุกเข่ากับพื้นดินก้มกราบท่าน
หลวงปู่ได้ถามว่า........................"มาอะไร"
ผู้เขียน.................................."มากราบหลวงปู่เจ้าค่ะ มาจากอุดร เจ้าค่ะ"
หลวงปู่.................................."เหลืออีก ๑ รอบ"
ในใจผู้เขียนนึกในใจแต่เพียงว่า ท่านจะเดินจงกรมมาอีกรอบหนึ่ง เราจะได้กราบท่านอีกครั้งหนึ่ง เมื่อท่านเดินจงกรมครบ ๒ รอบ และผู้เขียนได้กราบท่านทั้งสองครั้ง สักพักนึง พระเลขาส่วนตัว ได้เดินมาเรียกผู้เขียนและเพื่อนไปพบหลวงปู่บนกุฎิหลังเก่า ระหว่างสนทนาผู้เขียนอยากถ่ายรูปกับหลวงปู่ กำลังคิดในใจ ปรากฏว่า หลวงปู่บอกผู้เขียนและเพื่อนให้หันหลังกลับ ทีแรกผู้เขียนก็งง ๆๆ ว่าหลวงปู่หมายถึงอะไร พอรู้ว่า หลวงปู่จะให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ถึงตอนนี้ผู้เขียนถึงกับ "ตัวสั่นขึ้นมาทันที ทำอะไรไม่ถูก" จนเพื่อนต้องสะกิดเตือนผู้เขียนให้ปฏิบัติตาม เมื่อถ่ายรูปเสร็จได้กราบหลวงปู่อีก ๓ นบ พอเงยหน้าขึ้น เห็นหลวงปู่มองมายังผู้เขียนแล้วยิ้ม ๆ ผู้เขียนรู้ได้ทันทีว่า หลวงปู่ล่วงรู้ว่าผู้เขียนกำลังนึกอะไรอยู่ ทำให้ผู้เขียนถึงกับน้ำตาคลอเบ้าและขนลุกซู่ขึ้นมาทันที เป็นบุญของลูกเหลือเกิน ที่เมตตาลูกถึงเพียงนี้ ทั้งยังเมตตามอบหนังสือธรรมะให้มากมาย
เมื่อกลับมาถึงที่พัก เพื่อนอีกคนที่รออยู่ที่โรงแรมและพักห้องเดียวกับผู้เขียน (ไม่ได้ไปด้วย ขี้เกียจตื่นแต่ดึก) เล่าให้ฟังว่า ถูกผีอำ ไล่ที่ พูดว่า ........"หนีไป ๆ อย่ามานอนทับที่"........ เพื่อนคนนี้กลัวมาก แปดโมงเช้ายังไม่กล้าลุกจากเตียงไปอาบน้ำ
ตกกลางคืน ผู้เขียนได้ฝันอีกว่า โรงแรมที่พักจัดให้นอนรวมกับผู้ชายเยอะแยะไปหมด แถมคนเหล่านั้นยังพยายามจะมาคุยกับผู้เขียน ถึงตอนอาบน้ำก็มีคนมาเฝ้าจะคอยมาคุยกับผู้เขียน พอผู้เขียนออกจากห้องน้ำ(ในความฝัน) ได้มีการเก็บเตียงทั้งหมดไปกองรวม ๆ กัน ยกเว้นเตียงที่ผู้เขียนนอนอยู่ และเตียงทั้งหมดเหล่านั้นกลายเป็น....... "โลงศพ"........เหลือเพียงเตียงของผู้เขียนเท่านั้นที่ยังคงเป็นเตียงและวางอยู่ที่เดิมไม่ได้ถูกเก็บไปรวมกัน ส่วนคนที่มานอนรวมกับผู้เขียน (ในความฝัน) ได้พูดกับผู้เขียนว่า ..........."ไปก่อนน่ะ "......... ทุกคนพากันเดินจากไปอย่างสงบ แต่ละคนแต่งตัวอย่างสวยงาม เรียบร้อย ส่วนใหญ่ใส่เสื้อผ้าออกสีขาว ๆ เรียบ ๆ
เรื่องทั้งหมด เป็นเพียงความฝันที่ผู้เขียนประสบพบเจอ และเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ขอให้ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณาฌาณในการวิเคราะห์อ่าน
มงคลสูงสุดแห่งชีวิต ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้กราบพระอริยสงฆ์เจ้า ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
หลวงปู่ เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดป่าอรัญญวิเวก (บ้านปง) ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
...สุขกาย...สบายใจนะคะ...คิดดี ปฏิบัติดี ได้สิ่งที่ดีในชีวิตนะคะ
ดร.พจนา แย้มนัยนา ขอบพระคุณท่าน ดร.มาก ๆ ค่ะ