โครงการอาหารกลางวัน ช่วยหรือทำร้าย เด็ก


โครงการอาหารกลางวัน ช่วยหรือทำร้าย เด็ก

"School lunch" is adapted in many countries as a means to supplement nutrition necessary for development of children during the most important years. But...

มื้อเที่ยงเด็กประถม http://www.thaipost.net/news/030913/78744
จันโททัย กลีบเมฆ [เขียนอธิบายเรื่อง] โครงการอาหารกลางวัน ซึ่งถ่ายโอนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปดำเนินการ...
...ผู้ประกอบการใช้วัตถุดิบในการประกอบอาหารราคาถูกจึงด้อยคุณภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางทีก็ส่งอาหารไม่ตรงเวลา ผู้ประกอบการเองมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสูง เช่น ค่าแรงงาน ค่าขนส่ง ค่าภาชนะบรรจุ ค่าภาษี เป็นต้น ที่สำคัญอีกอย่างก็คือการขาดการตรวจสอบ และประเมินผลว่าที่ดำเนินการไปนั้นดีไม่ดีตรงไหนบ้าง
    ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อโรงเรียนจากการที่องค์กรปกครองท้องถิ่นจัดการเรื่องอาหารกลางวันในโรงเรียนก็คือ ชุมชนไม่มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมและสนับสนุนจัดอาหารกลางวัน กิจกรรมเกี่ยวกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน กิจกรรมสหกรณ์โรงเรียนล้วนได้รับผลกระทบในกระบวนการคิด การผลิต และมีการจำหน่าย โรงเรียนเองก็อึดอัด เพราะไม่สามารถนำภูมิปัญญาชาวบ้านมาแนะนำนักเรียนเกี่ยวกับการประกอบอาหารคาวหวานได้ ที่น่าคิดอีกอย่างก็คือ โรงเรียนจำเป็นต้องตรวจรับอาหารจากผู้ประกอบการที่ส่งมาให้นักเรียนรับประทานโดยภาวะจำยอม...

It is about time we look and care for our children not as "clients" or 'markets" to extract profits in commercial ways (by reducing costs, increasing prices and 'to hell with clients'), but as our human resources to love and rely on for building our future society. Community involvement is seen (by the author จันโททัย กลีบเมฆ) as a way to include more stakeholders into the children development process; to increase 'care', local cultures, and local employment and industries. It is a far far better process than 'contracting' (or outsourcing) to 'mere for-profit subcontractors' who have no other concerns but for profits.

What do you think? What should we do to make 'school lunch' good for our children and communities too? 

หมายเลขบันทึก: 547260เขียนเมื่อ 3 กันยายน 2013 04:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 กันยายน 2013 04:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เห็นด้วยค่ะ

ผู้บริหารโรงเรียนสมัยนี้ต่างจากสมัยก่อน

ไม่อยากพูดถึงเลย มันรู้สึกแย่กับปัญฆาที่เกิดจากผู้บริหารคนเดียว

แต่เด็ฏและครูผู้สอนต้องมาร่วมรับกรรมด้วยไ่ม่ยุติธรรม

ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท