"พี่หนาน"
นาย พรพจน์ พี่หนาน เรียงประพัฒน์

พระเอกตกม้าขาว


๒๙/๐๘/๒๕๕๖

****************

 

พระเอกตกม้าขาว

 

คืนวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๖  ได้ไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมที่บ้านญาติที่บ้านน้ำอ่าง อำเภอตรอน อุตรดิตถ์  ตอนกลางคืนก็ให้พูดคุยกันกับปู่จารย์และเจ้าภาพ  หนานได หรือผู้ใหญ่บ้านบ้านท่านดินขาว(ลูกผู้พี่กับผม)ก็พูดคุยกับปู่จารย์ว่าอยากให้หนานเอิร์นช่วยเป็นพิธีกรงานศพของลุงมูน ปู่จารย์ก็ไม่ขัด ซึ่งก่อนหน้านั้น มหาสำเนียงซึ่งเคยพิธีกรมาก่อนได้เสียชีวิตไปแล้ว และผู้ที่ทำหน้าที่พิธีกรอีกท่านก็ไม่สบาย ปู่จารย์ก็ยอมให้ผมช่วย

หนานไดพูดว่า “พอดีเลยหนานเอิร์นมา  จะขอหื้อหนานจ่วยเป๋นพิธีกรหื้อผ่องหนาวันพูกหนะ”  ผมก็พูดว่า “จะไหวรื้อ... เฮาบ่อหู้ธรรมเนียมและขั้นต๋อนอะหยังต่าง ๆ ของหมู่บ้านเขาหนะ”  ปู่จารย์ว่า “บ่อเป๋นหยังหนาน เดียวลุงหนานจะบอกหื้อ เอาไว้วันพูกก่อนเหนาะ  วันนี้ ขอทำพิธีสวดพระอภิธรรมหื้อแล้วเหียก่อน”  ขณะนั้นหนานไดก็พูดว่า “เอาเหนาะหนาน เหมือนกับพระเอกขี่ม้าขาวมาจ่วยเลยละ”  ผมก็พูดว่า “เฮากลั๋วว่าพระเอกจะตกม้าขาวบ่อว่าก่ะ”  หนานไดก็พูดว่า “เฮาเกยฟังตี่หน้าโบสถ์วัดราษฎร์ฯตะก่อนแล้ว  เสียงดีขนาดเลยละ”  ผมว่า “โอ่ ตั้งเมินแล้ว เป๋นพระกับเป๋นเจ้าบ้านมันบ่อจิเหมือนกั๋น การอู้งานผ้าป่ากับงานพิธีก๋ารมันคนหละอย่างกั๋นหนะ”  หนานไดว่า “เป๋นลูกเป๋นหลาน เขาบ่อว่าดอก ผิดพ่องกะบ่อเป๋นหยัง”  ผมก็ว่า “กะลองผ่อกะได้ ถ้าเจื่อใจ๋หนะ”

วันรุ่งขึ้น ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๖  ตอนสายผมก็ไปที่บ้านงานอีกครั้ง มีการถกเถียงเรื่องธรรมเนียม ขั้นตอนการพูด ผมก็สอบถามรายละเอียดจากปู่จารย์อย่างละเอียดทุกขั้นตอน ปู่จารย์บอกให้ผมเขียนขั้นตอนของพิธีการตามลำดับขั้นตอนว่า

“ขั้นต๋อนแรกหนาหนาน  หนึ่ง กราบพระ รับศีล พระสวดมาดติก๋า บังสุกุ๋ล เสร็จแล้วเจ้าภาพถวายปัจจั๋ย  พระหื้อพร กราบลาพระ  

สอง  ปู่จ๋ารย์นำกล่าวคำถวายผ้าป่า ผ้าบังสุกุ๋ล พร้อมกับปัจจั๋ยอะหยังต่าง ๆ   สาม เป็นหน้าที่ของหนานละ   เจิญผู้มาร่วมงานวางผ้าบังสุกุ๋ล  เจิญวางซองปัจจั๋ย นิมนต์พระพิจารณา   จากนั้นเจิญเจ้าภาพคนใกล้ชิดวางผ้าป่า นิมนต์พระพิจารณา 

สี่  เจ้าภาพมอบเงินหื้อกับหน่วยงานองค์ก๋รต่าง ๆ  และหน่วยงานต่าง ๆ มอบเงินหื้อกับเจ้าภาพ” ผมขัดตอนนี้ว่า  “เหอะ ตังนี่เขามีหน่วยงานอะหยังต่าง ๆ มอบเงินหื้อกับเจ้าภาพเหียอี้?”  ปู่จารย์ตอบ “มีก่ะ มีหลายโตย”  และปู่จารย์ก็บอกต่อ “ถึงไหนละ?  หลังจากตี่เขามอบเงินหื้อกับเจ้าภาพแล้วเกาะ ทอดผ้าบังสุกุ๋ลบนเมรุ(อ่านว่าเมน ไม่ใช่เมรุนะครับ) ห้าชุด ชุดละ ๒ คน” ผมพยักหน้ารับ  แล้วปู่จารย์ก็บอกต่อว่า

“เสร็จแล้วก่อ...อ่านประวัติ ยืนไว้อาลัย  ช่วงนี่หนานมีหยังจะอู้กะอู้ไปหนะ” ผมพยักหน้า 

จากนั้นท่านก็พูดว่า “หลังจากตี่ไว้อาลัยแล้วก่อเป๋นชุดประธาน สุดท้ายละ”  ผมถาม  “แล้วไผมาเป๋นประธาน”  ปู่จารย์ตอบ “สจ.เขตอำเภอตร๋อน”  “ท่านจื่อหยัง?” “ครูคำรณ...”  ปู่จารย์ก็บอกให้เรียบร้อย

จากนั้นผมก็ถามว่า “มีหยังแถมก่อ?” 

ปู่จารย์ตอบ “หลังจากนั้น...ก่อนิมนต์พระเจ้าพระสงฆ์วางดอกไม้จั๋นทน์ ต๋ามด้วยผู้มีเกียรติและชาวบ้านตี่มาร่วมงานทุกคน  หนานบอกหื้อเขาขึ้นบันไดตังข้าง สองข้างเน่อ  แล้วหื้อเขาลงตังด้านหน้าหนา เจ้าภาพเขาจะรอแจกของชำร่วยและไหว้ขอบพระคุณอยู่”  ผมพยักหน้าและกล่าวว่า “ปอเข้าใจ๋ละ  กำเดวจะลองไล่ขั้นต๋อนผ่อแหมกำ  ขอบคุณปู่จ๋ารย์หลาย ๆ ครับ”  “บ่อเป๋นหยัง จ่วย ๆ กั๋นเหนาะ”  ผมรับ “ครับ”

พอตอนบ่ายนำศพขึ้นรถพระจูงสายสิญจน์ขึ้นรถนำหน้าอีกคัน ไปจนถึงวัด(มีเมรุอยู่ในวัด) ผมไปกับรถของผู้ใหญ่ได เพราะแม่ แม่ดิ่น(แม่รัก)กับพี่สาวมาแวะเยี่ยมญาติที่บ้านใหญ่(น้ำอ่างหมู่๔) รออยู่ก่อนแล้ว  พอมาถึงก็ไปเปลี่ยนรองเท้าคู่เอกสวมเสื้อเข้าข้างใน(โอกาสในการแต่งตัวหล่อ) เดินไปในงานพร้อมกับผู้ใหญ่ไปถึงก็ยกมือไหว้แขกผู้มีเกียรติที่นั่งอยู่ก่อนแล้วในศาลาธรรมสังเวช  

แล้วก็จัดเตรียมเอกสารรายชื่อผู้มีเกียรติ อย่างฉุกละหุกรีบเร่งมาก  เขียนผิดเขียนถูกแข่งเวลา เพราะปู่จารย์นำทำพิธีทางศาสนาพระสวดมาติกาบังสุกุลเสร็จไวมาก ผมก็เขียนเสร็จพอดี เกือบจะไม่ทันเสียแล้ว  รู้สึกเหนื่อยหายใจอย่างอึดอัดบวกกับความตื่นเต้นเนื่องจากไม่ใช่หมู่บ้านของตนเองและผู้คนที่ตนเองคุ้นเคย  มองหน้าใครก็ไม่รู้จักสักคน  ตื่นเต้นมาก

อ่านรายชื่อผู้วางผ้าบังสุกุล ไม่มีพลาด  พอถึงแขกผู้มีเกียรติ ผมก็อ่านผิด เพราะจดมาผิด จากที่ชื่อ “วิทร”  ผมก็เปลี่ยนให้เป็น “วิทูรย์” เป็นผู้ใหญ่บ้านของน้ำอ่างหมู่หนึ่ง(น้ำอ่างมีทั้งหมด ๑๐ หมู่บ้าน)  ผู้ใหญ่ได นั่งห่างไปหน่อยก็ร้องบอกว่าไม่ใช่จึงขออภัยแล้วเปลี่ยนชื่อให้  คนที่อยู่ข้างนอกศาลาก็ร้องแซวกันสนุกสนานว่า “เขาเปลี่ยนจื่อหื้อผู้ใหญ่แล้วน้อ”  แว่ว ๆ มาหาพิธีกร  ต่อมาก็ประธานหลักคือ สจ.ผมก็ตั้งสติเต็มที่ ไม่มีปัญหาอะไร  พอตอนที่กล่าวอวยพรแขกที่มาจากต่างบ้านเท่านั้นแหละ(ช่วงที่เดินขึ้นวางดอกไม้จันทน์บนเมรุ) ผมก็พูดว่า “ขอขอบคุณท่านผู้มีเกียรติ ป่อแม่ปี่น๊องตังหลาย ตี่มาร่วมวางดอกไม้จันทน์เนื่องในงานฌาปนกิจศพของ...“พ่อมูน  ชอบธรรม” ในวันนี่...”  หนานไดเรียกสติ “บ่อใจ่ชอบธรรมหนาน” ผมรีบขออภัยโดยกล่าวว่า “ขออภัยครับ งานฌาปนกิจศพของ...“คุณพ่อมูน  โม้เกิด”...ในวันนี่...” (ชอบธรรมคือนามสกุลของแม่ผมเอง ฮ่า ฮ่า ฮ่า) พร้อมกับพูดด้วยยิ้มไปด้วยอย่างเคอะเขิน แต่ก็พยายามควบคุมอารมณ์และประคองสติจนจบงาน

 

พร้อมกับให้นึกถึงคำกล่าวที่พูดกันเล่น ๆ ว่า “พระเอกจะต๊กม้าขาวต๋ายบ่อว่ากะ”....แล้วก็เป็นจริงจนได้ 

หมายเลขบันทึก: 546932เขียนเมื่อ 29 สิงหาคม 2013 13:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 สิงหาคม 2013 19:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

โฆษกจำเป็นมักจะเจอเหตุการณ์ฮาๆ ทำให้หน้าแตกแบบนี้เสมอแหละครับ

ผมเองก็เจอประจำครับ   555

ขอบคุณคุณอักขณิชมาก งานนี้ฮาไม่ค่อยออกครับ ผู้รู้ท่านถึงได้กล่าวว่า "คนตี่บ่อเกยฮยะอะหยังเลย คือคนตี่บ่าผิด" ครับ

-สวัสดีครับพี่หนาน...

-บางทีความตื่นเต้นก็เกิดขึ้นได้ทุกเวลาครับ

-ผมกะเกยเป๋น..จ๋นบางที..มานั่งกึ๊ด..น่าเอ็นดูตั๋วเก่าื ฮ่า  ๆ

-อ่านบันทึกนี้แล้วกะเล่าฮื้อคนใกล้ตั๋วฟัีงตวย..ครับ...

-บะเดียวนี้กลับถึงบ้านละน่อครับพี่หนาน..

-ขอบคุณครับ..

ไปงานศพที่ล้านนามาหลายงานไม่เคยจำขั้นตอน คราวนี้ชัดเจนไปเล่าให้ใคร ๆฟังได้ ขอบคุณค่ะ ม่วนขนาดเจ้าอ่านออกเสียงคำเมืองที่หน้าจอ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท